กะเทาะทฤษฎีประชากรศาสตร์... อิสลามจะครองโลกจริงหรือ?
ปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานการณ์การก่อการร้ายจากปฏิบัติการโจมตีด้วยความรุนแรงรูปแบบต่างๆ ต่อเป้าหมายพลเรือน จนก่อความสูญเสียในระดับ "ช็อคโลก" โดยกลุ่มมุสลิมสุดโต่ง หัวรุนแรง ไม่ว่าจะเป็น อัล กออิดะห์ หรือ ไอเอส ทำให้กระแสตื่นกลัวมุสลิมแพร่ระบาดไปทั่ว
ทั้งๆ ที่กลุ่มใช้ความรุนแรงเหล่านั้นเป็นเพียง “คนส่วนน้อย” ของมุสลิม หรือผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม และตามหลักคำสอนของอิสลามก็เป็นศาสนาแห่งสันติภาพ
ความพยายามเผยแพร่ข้อมูลเพื่อแสดงความกังวลต่อคนมุสลิม หรือบางกรณีก็ให้ร้ายมุสลิม ปรากฏอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะใช้ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ (โซเชียลมีเดีย) หรือสื่อดั้งเดิมอย่างโทรทัศน์ วิทยุ และสิ่งพิมพ์ก็ตาม
ล่าสุดมีผู้เผยแพร่รายงานผ่านทางเว็บไซต์ YouTube ชื่อว่า “อิสลาม ภัยคุกคามเงียบ” เป็นวีดีโอในลักษณะสารคดี อ้างอิงทฤษฎีประชากรศาสตร์เพื่อนำเสนอสมมติฐานว่า อีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า คนมุสลิมจะครองโลก ด้วยอัตราการเกิดที่สูงมากสวนทางกับคนศาสนิกอื่น โดยเฉพาะคริสต์
วีดีโอนี้ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง มีคนเปิดเข้าไปชมแล้วมากกว่า 7 แสนครั้ง ณ เดือนมีนาคม 2559
วีดีโอชิ้นนี้ไม่ปรากฏชื่อผู้จัดทำ แต่มีการอ้างในช่วงต้นว่า นำมาจากผู้เผยแพร่เดิมที่ใช้ชื่อว่า Friend of Muslim โดยการนำเนื้อหาทั้งหมดมาแปล และบรรยายเป็นภาษาไทย แต่ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อโจมตีศาสนาหรือความเชื่อใด
จากการตรวจสอบของ “ทีมข่าวอิศรา” พบว่า ข้อมูลในรายงานชิ้นนี้น่าจะจัดทำขึ้นเมื่อราวปี ค.ศ.2008 หรือ พ.ศ.2551
เนื้อหาของรายงานชิ้นนี้จั่วหัวว่า “ประชากรศาสตร์ของโลกที่กำลังเปลี่ยนไป” ก่อนจะอรรถาธิบายเหตุผลและสมมติฐานว่า จากรายงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า วัฒนธรรมใดก็ตามที่ต้องการดำรงรักษาให้คงอยู่นานกว่า 25 ปี ต้องมีอัตราการเกิดของเด็กในระดับ 2.11 ต่อครอบครัว ถ้าน้อยกว่านี้ วัฒนธรรมนั้นก็จะหายไป เพราะตัวเลขที่ 1.9 เท่ากับไม่เคยพลิกฟื้นคืนมาได้ และในระดับ 1.3 คือเป็นไปไม่ได้ที่จะฟื้นคืนมา เพราะต้องใช้เวลาถึง 80-100 ปีในการแก้ไขตัวมันเอง
ยกตัวอย่างเช่น พ่อแม่สองคู่ต่างมีลูกคนเดียว และต่อมาลูกก็ต่างเป็นพ่อแม่ หากรุ่นลูกนี้มีลูกคนเดียวอีก ก็เท่ากับว่ารุ่นหลานจะเหลือเพียงเศษหนึ่งส่วนสี่ สมมติว่ามีเด็กเกิดใหม่จำนวน 1,000,000 คนในปี 2006 ก็เป็นการยากที่จะมีผู้ใหญ่ 2,000,000 คนในตลาดแรงงานในปี 2026 เมื่อจำนวนประชากรลดตัวลง วัฒนธรรมก็ลดตัวตาม
ในปี 2007 อัตราการเกิดของประเทศฝรั่งเศสอยู่ที่ 1.8 ประเทศอังกฤษมีอัตราการเกิดอยู่ที่ 1.6 ประเทศกรีซอยู่ที่ 1.3ประเทศเยอรมนี อยู่ที่ 1.3 ประเทศอิตาลี อยู่ที่ 1.2 ประเทศสเปน อยู่ที่ 1.1 ทั่วทั้งประชาคมยุโรป 31 ประเทศ อัตราการเกิดเฉลี่ยอยู่ที่ 1.38 จากตัวเลขนี้ งานวิจัยด้านประวัติศาสตร์ชี้ให้เห็นว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะพลิกฟื้นกลับคืนมา ดังนั้นในเวลาอีกไม่กี่สิบปี ทวีปยุโรปที่เราเคยรู้จักก็จะหายไป เนื่องจากการย้ายถิ่นฐานของชนอิสลาม
ในบรรดาการเจริญเติบโตทั้งหมดของประชากรในยุโรป ตั้งแต่ปี 1990 จำนวน 90% เป็นอิสลามที่อพยพเข้ามา เช่น ในประเทศฝรั่งเศส อัตราการเกิดอยู่ที่ 1.8 ต่อครอบครัว ในขณะที่ชาวอิสลามมีอัตราการเกิดอยู่ที่ 8.1 ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสแต่เดิมเคยเป็นย่านที่มีโบสถ์คริสต์มากที่สุดในโลก แต่ปัจจุบันมีมัสยิดมากกว่าโบสถ์คริสต์
จำนวนเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีลงมา จำนวน 30% เป็นชาวอิสลาม ในเมืองใหญ่ๆ เช่น นีซ, มาร์เซย และปารีส ตัวเลขได้เติบโตไปถึง 45% ภายในปี 2027 คาดว่า 1 ใน 5 ของชาวฝรั่งเศสจะเป็นคนมุสลิม และภายในเวลาเพียง 39 ปี ประเทศฝรั่งเศสก็จะกลายเป็นสาธารณรัฐอิสลาม
ในระยะ 30 ปีที่ผ่านมา จำนวนมุสลิมในประเทศอังกฤษเพิ่มขึ้นจาก 82,000 คน เป็น 2,500,000 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 30 เท่าตัว จึงมีจำนวนมัสยิดนับพันเกิดขึ้น ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นโบสถ์คริสต์
ในประเทศเนเธอร์แลนด์ จำนวนเด็กแรกเกิด 50% เป็นมุสลิม ซึ่งในอีก 15 ปีข้างหน้า ประชากรครึ่งหนึ่งจะเป็นมุสลิม
ในประเทศรัสเซีย มีชาวมุสลิมอยู่ 23 ล้านคน 1 ใน 5 เป็นมุสลิม ทำให้ 40% ของกองทัพบกจะเป็นมุสลิมในเวลาเพียง 2-3 ปีข้างหน้า
ปัจจุบันนี้ประเทศเบลเยียม 25% ของประชากร และเด็กแรกเกิดอีก 50% เป็นมุสลิม รัฐบาลของเบลเยียมกล่าวว่า 1 ใน 3 ของเด็กยุโรปจะเกิดจากครอบครัวชาวมุสลิมภายในปี 2025 ซึ่งคืออีก 17 ปีนับจากนี้ไป (นับจากปี 2008)
รัฐบาลประเทศเยอรมนี กล่าวว่า เราคงไม่สามารถหยุดยั้งการลดตัวลงของประชากรเยอรมัน และการลดลงอย่างต่อเนื่องนี้จะไม่มีวันพลิกฟื้นกลับคืนมาเป็นบวกได้อีก นั่นหมายความว่าเยอรมนีจะกลายเป็นรัฐอิสลามภายในปี 2050
มูอัมมาร์ กัดดาฟี อดีตผู้นำลิเบีย เคยกล่าวเอาไว้ว่า มีสัญญาณบ่งว่า อัลลอฮ์จะประทานชัยชนะให้แก่ชนชาวอิสลามในยุโรป โดยไม่ต้องใช้ดาบหรือปืน และไม่ต้องทำสงคราม ประชากรมากกว่า 50 ล้านคนในยุโรปจะเปลี่ยนยุโรปให้เป็นทวีปมุสลิม ภายในไม่กี่สิบปี
ปัจจุบันนี้มีประชากรมุสลิมมากถึง 52 ล้านคนในยุโรป รัฐบาลเยอรมนีคาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ภายในเวลา 20 ปี นั่นคือ 104 ล้านคน
ใกล้เคียงกับผลโพลล์ ตัวเลขยังบอกอีกว่า ในประเทศแคนนาดา อัตราการเกิดอยู่ที่ 1.6 ต่อครอบครัว ซึ่งเราต้องการตัวเลขที่ 2.11 จึงจะรักษาวัฒนธรรมไว้ได้ ขณะนี้ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาที่ขยายตัวเร็วที่สุดในช่วงปี 2001-2006 จำนวนประชากรในแคนนาดาเพิ่มขึ้นเป็น 1.6 ล้านคน แต่ในจำนวนนี้ 1.2 ล้านคนเป็นคนอพยพ
ในสหรัฐอเมริกา อัตราการเกิดอยู่ที่ 1.6 และมีชาวละตินอพยพทะลักเข้ามา ทำให้ตัวเลขกลายเป็น 2.11 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่พอจะรักษาวัฒนธรรมของตนไว้ได้
ในปี 1970 มีชาวมุสลิมในอเมริกาจำนวน 100,000 คน ปัจจุบันปี 2008 กลับมีจำนวนคนมุสลิมมากถึง 9,000,000 คน โลกกำลังจะเปลี่ยนไป
เมื่อ 3 ปีที่แล้ว องค์กรอิสลาม 4 แห่งได้จัดประชุมกันที่เมืองชิคาโก (สหรัฐอเมริกา) เนื้อความของการประชุมให้รายละเอียดว่า พวกเขาวางแผนที่จะเปลี่ยนศาสนาของชาวอเมริกันผ่านสื่อสารมวลชน การเมือง การศึกษา และอื่นๆ พวกเขากล่าวว่า “เราต้องเตรียมตัวให้สอดรับกับความเป็นจริง ในอีก 30 ปีข้างหน้าจะมีชาวมุสลิม 50 ล้านคนอาศัยอยู่ในอเมริกา”
โลกที่เราอาศัยอยู่ในปัจจุบัน จะไม่ใช่โลกที่ลูกหลานของเราอาศัยอยู่อีกต่อไป
โบสถ์คาโทลิกรายงานเมื่อเร็วๆ นี้ว่า อิสลามเพิ่มจำนวนศาสนิกมากกว่าคาทอลิกไปเรียบร้อยแล้ว ชี้ให้เห็นว่าอิสลามได้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 5-7 ปีเท่านั้น และจะกลายเป็นศาสนาที่ครองโลกใบนี้
ดังนั้นช่วยกันเผยแพร่ข่าวสาร สถานการณ์เรื่องนี้ เพราะนี่คือการสร้างความยุติธรรม และความเสมอภาคต่อสังคม
นักวิชาการยอมรับประชากรมุสลิมพุ่งสูง แต่...
ดร.จรัญ มะลูลีม นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านโลกอาหรับ จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวกับ “ทีมข่าวอิศรา” ว่า สมมติฐานจากรายงานเรื่อง “อิสลาม ภัยคุกคามเงียบ” ที่อ้างทฤษฎีประชากรศาสตร์ มีความเป็นไปได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่าการขยายตัวของประชากรมุสลิมจะทำให้อิสลามครองโลก หรือไปทำลายวัฒนธรรมอื่น
ที่สำคัญ ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือปัจจัยหนุนเสริมเรื่องการใช้ความรุนแรง เพราะนั่นเป็นเพียงคนกลุ่มน้อยของมุสลิม
ดร.จรัญ เล่าให้ฟังว่า เพิ่งเดินทางกลับจากเบลเยี่ยมก่อนเกิดระเบิดพลีชีพเพียง 3 วัน โดยใช้ท่าอากาศยานที่ถูกลอบวางระเบิดด้วย จากการไปพำนักอยู่ที่เบลเยี่ยมระยะหนึ่ง ก็พบสภาพการณ์การขยายตัวของประชากรมุสลิมในยุโรปเกิดขึ้นจริง
ยกตัวอย่าง ย่านที่ไปพักอยู่ในเบลเยี่ยม และได้ไปละหมาดที่มัสยิด ก็พบว่าเป็นโบสถ์เก่าที่ถูกขายให้คนมุสลิม ขณะที่โบสถ์ใหญ่อีกแห่งหนึ่งย่านชานเมือง ก็เตรียมขายต่อให้คนมุสลิมเช่นกัน และเมื่อเดินเที่ยวชมหลายๆ ย่านในประเทศ มีความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในตะวันออกกลาง
“ปรากฏการณ์การขยายตัวของประชากรมุสลิมในยุโรปมีอยู่จริง ทั้งเยอรมนี เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ มีคนเล่าให้ฟังว่าขณะนี้ในยุโรปมีประชากรมุสลิมหลายสิบล้านคน แต่สมมติฐานที่ว่ามุสลิมจะครองโลก หรือมีประชากรมากที่สุดในโลกยังเป็นเรื่องยาก เพราะประชากรมุสลิมทั้งโลกราว 1.6 พันล้านคน เทียบได้กับประชากรของจีนเพียงประเทศเดียวเท่านั้น หากนับประชากรของจีนกับอินเดียรวมกัน ต้องบอกว่ายังเยอะกว่าประชากรอิสลามมาก”
อย่างไรก็ดี ดร.จรัญ ชี้ว่า การเปลี่ยนผ่านทางศาสนาในยุโรปและอเมริกามีสูง โดยเฉพาะช่วงหลังเหตุการณ์ 911 (จี้เครื่องบินพุ่งชนตึกเวิล์ดเทรดฯ ในนิวยอร์ก เมื่อ 11 ก.ย.2544) อัลกุรอานขายดีมาก เพราะคนสนใจศึกษาศาสนาอิสลามมากขึ้น
แต่การเปลี่ยนแปลงสมดุลของประชากร มาจากหลายปัจจัย ไม่ใช่เพราะอิสลามขยายตัวอย่างเดียว แต่อีกด้านหนึ่ง เช่น ร้อยละ 21 ของคนตะวันตก โดยเฉพาะอเมริกา เป็นคนไม่มีศาสนา หรือไม่นับถือศาสนาใดๆ ซึ่งคนเหล่านี้เดิมทีอาจนับถือคริสต์ ทำให้ประชากรที่นับถือศาสนาคริสต์ลดน้อยลง
ทั้งนี้และทั้งนั้น ดร.จรัญ ย้ำว่า การเปลี่ยนผ่านศาสนาสู่อิสลามมากขึ้น ไม่ได้แปลว่าจะมีคนหัวรุนแรง นิยมความรุนแรง หรือต่อต้านโลกมากขึ้น เพราะสิ่งที่กลุ่มอัลกออิดะห์ หรือไอเอสทำนั้น เป็นคนกลุ่มน้อยของอิสลาม
ที่สำคัญสถิติความรุนแรงในโลก หากมองย้อนกลับไปในห้วง 100 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้มาจากอิสลาม หรือตะวันออกกลาง แต่เกิดในยุโรปทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นอย่าความจำสั้น และควรมองแต่ละเรื่องจากข้อมูลที่ปรากฏอยู่จริง
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : กราฟฟิกตอนหนึ่งจากคลิปวีดีโอ
ลิงค์ต้นฉบับ : https://www.youtube.com/watch?v=ngsczCjo30c&feature=youtu.be