คนลาดพร้าว87 ร้อง ‘อิศรา' ช่วย! หญิงปริศนา ยึดที่สาธารณะเปิดตลาดนัด
ชาวบ้านที่พักอาศัย ในพื้นที่ระหว่างซอยถนนลาดพร้าว 87 แยก 15 กับ 17 ร้อง ‘อิศรา’ ช่วยตามเรื่องชื่อซอยให้ หลังร้องขอมานานแต่ไม่เคยได้ ขณะที่ผู้หญิงชื่อ ‘มาลัย’ เข้ามาใช้พื้นที่เปิด ‘ตลาดนัด’ ยาวนานหลายปี รถเข็นพ่อค้าแม่ค้าจอดเกลื่อน จนไม่สามารถใช้งานพื้นที่หลังบ้านได้

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ชาวบ้าน ซ.ลาดพร้าว 87 แยก 15 ได้เข้าร้องเรียนต่อสำนักข่าวอิศราว่า พักอาศัยอยู่ใน ซ.ย่อยไม่มีชื่อ ระหว่างปากซอยลาดพร้าว 87 แยก 15 กับ 17 มานาน ปัจจุบันถือเป็นซอยสาธารณะมีบ้านอยู่จำนวนหลายหลัง แต่ก็ไม่มีการตั้งชื่อ สร้างความไม่สะดวกให้กับผู้พักอาศัยเป็นอย่างมาก
โดย ก่อนหน้านี้ ผู้ร้องได้ร้องเรียนเรื่องต่อศูนย์ กทม. 1555 จำนวนหลายครั้ง จนถึงปี 2556 แต่ได้รับแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา อยู่ระหว่างดำเนินการสำรวจข้อมูลนำเสนอคณะกรรมการตั้งชื่อถนน ตรอก ซอยในพื้นที่เขต ฯ และจนถึงปัจจุบัน ซอยดังกล่าวยังไม่มีชื่อซอย แต่อย่างใด โดย ผู้ร้องต้องการทราบว่า ต้องใช้เวลานานเท่าใด จึงจะได้รับการแก้ไข
ขณะที่ ชาวบ้านรายหนึ่ง กล่าวว่า มีบ้านอยู่ใน ซ.แยก 15 หลังบ้านติดกับ ซ.ย่อยไม่มีชื่อดังกล่าว และทุกวันจะมีการนำรถเข็นขายของมาจอดไว้หลังบ้านเป็นจำนวนมาก เนื่องจาก ปากซอยระหว่างแยก 15 ถึง 17 มีตลาดนัดของผู้หญิงชื่อ ‘มาลัย’ ซึ่งไม่รู้ว่าใช้วิธีใด จึงสามารถเปิดเป็นตลาดได้ เพราะเป็นพื้นที่สาธารณะ และตลาดดังกล่าวกีดขวางการจราจร โดยเฉพาะรถยนต์ส่วนตัวของชาวบ้านใน ซ.แยก 17 ที่ แทบจะเข้า-ออกไม่ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ พื้นที่ดังกล่าวเป็นสนามเด็กเล่นของหมู่บ้านภายใน ซ.แยก 17
“ต้องบอกว่า เห็นมาลัยมาตั้งแต่ขายก๋วยเตี๋ยว มาลัยโตเร็วมาก เรื่องนั้นก็ไม่ได้สนใจหรอก แต่ที่เกิดปัญหากับเรา คือ รถเข็นที่มาจอดหลังบ้านจำนวนมาก ทำให้ใช้พื้นที่หลังบ้านตัวเองไม่ได้ รวมถึง มีคนงานชอบมานั่งสูบบุหรี่กันบริเวณนั้น ก่อนหน้านี้ เคยคุยกันแล้วว่า จะกั้นรั้วบ้านใครบ้านมัน มาลัยบอกว่า กั้นได้เลย แต่พอกั้นเสร็จ กลับไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาบอกให้รื้อ เพราะเป็นที่ดินสาธารณะ จึงเอาออก แต่เราร้องเรียนตั้งหลายครั้ง เรื่อง ซ.ย่อยไม่มีชื่อ ที่มาลัยใช้ประโยชน์เสมือนเป็นเจ้าของ เขาบอกกำลังดำเนินการ ล่าช้าจนคนใน ซ.แยก 17 เขาถอดใจกันไปหมดแล้ว เพราะการสู้คดีมันต้องใช้เงิน บางคนเขาก็ไม่ไหวจะจ่ายแล้ว แต่มาลัยใช้เงินสู้ เลี้ยงโยธาเขต ฯ ไว้หนุนหลัง จนเราก็จะถอดใจแล้วเหมือนกัน เพราะสู้มาหลายปีแล้ว”
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปที่สำนักงานเขตวังทองหลาง และติดต่อขอสัมภาษณ์หัวหน้าฝายโยธา เพื่อขอให้ชี้แจงในกรณีดังกล่าว โดย เจ้าหน้าที่รายหนึ่งรับสาย เผยว่า “หัวหน้าไม่อยู่ ออกไปทำงานข้างนอก” ผู้สื่อข่าวจึงพยายามขอเบอร์ติดต่อ โดย บุคคลดังกล่าวให้เบอร์หัวหน้าฝ่ายโยธา พร้อมระบุชื่อ “นายชลธี ชัยประสิทธิ์”
ผู้สื่อข่าวจึงโทรศัพท์ติดต่อไปที่นายชลธี ตามหมายเลขที่ได้รับ ผู้ชายคนหนึ่งรับสาย ยืนยันว่าเป็นชลธี พร้อมกล่าวว่า ทางเขตเคยดำเนินการเรื่องดังกล่าวแล้ว โดย เจ้าหน้าที่เทศกิจได้เข้าไปจัดการเรื่องระเบียบการจอดรถแล้วครั้งหนึ่ง ส่วนอาคารหน้า ซ.ที่ไม่มีชื่อของมาลัยก็ดำเนินคดีไปแล้ว ตอนนี้เรื่องอยู่ที่ตำรวจ สน.โชคชัย แล้ว เป็นการต่อเติมอาคารโดยไม่รับอนุญาต
“ส่วนปัญหาเรื่องคนงาน เราจะไปเฝ้าเขาก็ไม่ได้ แต่พอมีคนร้องเรียนมา เราก็ได้แจ้งไปทางหัวหน้าของเขาแล้วว่า ให้ดูแลลูกน้องด้วย อย่าให้ไปรบกวนคนอื่นเขา เพราะเรื่องตรงนี้มันไม่ได้มีกฎหมายควบคุมไว้” นายชลธี ระบุ
ขณะที่ เมื่อถามถึงกรณีการตั้งชื่อ ซ.ย่อยดังกล่าว ดำเนินการไปถึงไหนแล้วและจะมีการตั้งชื่อซอยหรือไม่ นายชลธี กล่าวว่า “เรื่องนี้ต้องติดต่อไปที่คุณสมพร” โดยยืนยันให้ผู้สื่อข่าวติดต่อไปที่สำนักงานเขต เนื่องจาก ขับรถอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำเนาระบบงานเรื่องราวร้องทุกข์ ศูนย์ กทม. 1555 ที่ผู้ร้องเรียนนำมายืนยัน นั้น รับรองสำเนาถูกต้อง โดย น.ส.ศิริรัตน์ วรรณบุตร นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการฝ่ายปกครอง สำนักงานเขตวังทองหลาง (ดูเอกสาร)


