ครม.อนุมัติงบฟื้นฟูน้ำท่วมฉุกเฉิน 9 โครงการ กว่า 2 หมื่นล้าน
ครม.เห็นชอบโครงการที่ดำเนินการได้ทันทีจนถึง ม.ค,55 เร่งชดเชยน้ำท่วมครัวละ 5 พันบาท ฟื้นฟูคุณภาพชีวิต-สาธารณสุข-โรงเรียน-ถนน-โบราณสถาน บรรเทาปัญหาเลิกจ้าง ตั้งศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน
นายวรวิทย์ จำปีรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)นัดพิเศษวันที่ 12 ธ.ค.54 ได้พิจารณาโครงการฟื้นฟูและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย ที่ ครม.ได้อนุมัติกรอบวงเงินให้หน่วยงานต่างๆไปดำเนินการ 6 หมื่นล้านบาทแล้ว โดยเห็นชอบโครงการที่สามารถเริ่มดำเนินการทันทีจนถึงภายในเดือน ม.ค.55 จำนวน 9 โครงการ 20,110.557 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุกทกภัยครัวเรือนละ 5 พันบาท ใน 62 จังหวัดและเขตกรุงเทพฯ 2,635,110 ครัวเรือน 13,175.55 ล้านบาท 2.โครงการฟื้นฟูคุณภาพชีวิตตามข้อเสนอของจังหวัด 314.544 ล้านบาท 3.โครงการเตรียมความพร้อมให้นักเรียนและโรงเรียน 2,006 แห่ง 456.039 ล้านบาท 4.โครงการช่วยเหลือประชาชนด้านสาธารณสุขในพื้นที่ประสบอุทกภัยร้ายแรง 9 จังหวัด 121.918 ล้านบาท
5.โครงการป้องกันและบรรเทาปัญหาเลิกจ้าง 100,000 ราย 606 ล้านบาท 6.โครงการจัดศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน 17.85 ล้านบาท 7.โครงการฟื้นฟูบูรณะโบราณสถาน 296 แห่ง 1,382.619 ล้านบาท 8.โครงการฟื้นฟูเร่งด่วนทางสายหลักและโครงข่ายสำคัญ 708 สายทาง 1,813.87 ล้านบาท 9.โครงการฟื้นฟูทางหลวงชนบทอันเนื่องมาจากอุทกภัย 11 สายทาง 139.81 ล้านบาท
ด้าน นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่าสำนักงบประมาณและสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้กำหนดหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายงบประมาณ 5 ข้อ ประกอบด้วย 1.ต้องคำนึงถึงงบประมาณที่ใช้ได้ในวงเงิน 47,600 ล้านบาท 2.คำนึงถึงความซ้ำซ้อนในกระทรวงหรือระหว่างกระทรวง โดยยึดหลักเป้าหมายไม่ให้ซ้ำซ้อน 3.คำนึงถึงความเร่งด่วน ความสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะดำเนินการได้ทันที โดยเฉพาะในไตรมาสที่สี่ที่จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจโดยที่เม็ดเงินต้องพุ่งตรงสู่ประชาชน 4.ต้องบูรณาการหน่วยงานในการแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว
ซึ่งนายกรัฐมนตรีกำชับว่าต้องไม่กระทบหรือขัดแย้งกับการดำเนินการของ กยน.หรือต้องไม่กระทบแผนงานแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนด้วย และ 5.แหล่งเงินงบประมาณที่ช่วยเหลือต้องลงถึงชุมชน หรือเป้าหมายเดียวกันโดยอาจพิจารณาจากกองทุนชุมชนพอเพียงได้ ซึ่งสำนักงบประมาณได้อธิบายเพิ่มเติมว่าการดำเนินการที่เป้าหมายเร่งด่วนของสำนักงบประมาณกับสภาพัฒน์ฯนั้นต้องช่วยเหลือประชาชน อุตสาหกรรม ภาคการเกษตรให้กลับมาฟื้นตัวโดยเร็ว ซึ่งแผนงานต้องกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมรวมทั้งต้องดูด้านความพร้อมและต้องป้องกันการซ้ำซ้อน
นอกจากนี้งบประมาณที่อนุมัติให้ใช้ไปพลางก่อน 47,600 ล้านบาทนั้น จำนวนนี้ ครม.ได้อนุมัติ 20,110.55 ล้านบาทเป็นการดำเนินการโครงการที่สามารถเริ่มดำเนินการได้ทันทีจนถึงภายในเดือน ม.ค.55 ซึ่งดำเนินการด้านเศรษฐกิจในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครัวเรือนละ 5,000 บาทใน 62 จังหวัดและเขตกรุงเทพฯ 2,635,110 ครัวเรือน 13,175.5550 ล้านบาท
“จากเดิมที่ทุกหน่วยงานเสนองบประมาณมาทั้งสิ้น 60,983 ล้านบาท แต่เนื่องจากส่วนราชการสามารถใช้งบประมาณปี 2554 ไปพลางก่อนได้เพียง 47,600ล้านบาทเท่านั้นจากงบ 120,000 ล้านบาทที่ตั้งไว้ และในการประชุม ครม.นัดพิเศษนี้ ได้อนุมัติไปแล้วในกรอบ 20,110.5572 ล้านบาท ที่ส่วนราชการที่ต้องการก็สามารถส่งเรื่องมายังสำนักงบเพื่ออนุมัติได้ภายใน 3 วัน แต่ที่ประชุมยังย้ำว่าเงินดังกล่าวจะต้องเป็นโครงงานเร่งด่วน ช่วยเหลือประชาชน สถานประกอบการ และแรงงานภาคอุตสาหกรรม ที่เน้นอีกว่าจะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจได้โดยเร็ว อีกทั้งไม่ซ้ำซ้อนกับแผนงานหรือโครงการในแต่ละกระทรวง” นางฐิติมา กล่าว .