สองมุม...พยาบาลสาวเจาะไอร้องเล่านาทีชีวิต - รปภ.โวยถูกโยงเอี่ยวคนร้าย
เหตุรุนแรงที่โรงพยาบาลเจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 มี.ค.59 นอกจากคนร้ายจะบุกเข้าไปในพื้นที่โรงพยาบาล และใช้เป็นที่กำบังเพื่อยิงใส่ฐานทหารพรานที่ตั้งอยู่ข้างๆ รั้วโรงพยาบาลแล้ว คนร้ายยังได้ทำลายข้าวของภายใน และมัดมือพยาบาลสาวคนหนึ่งเอาไว้ เพื่อความสะดวกในการก่อเหตุด้วย
พยาบาลคนนี้ประจำอยู่ที่ตึกเวชศาสตร์ครอบครัวฯ ซึ่งเป็นอาคารสูง 2 ชั้น ที่สำคัญเธอกำลังตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน และเธอได้ร้องขอชีวิตจากกลุ่มคนร้าย เธอมีตำแหน่งเป็นพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ของโรงพยาบาลเจาะไอร้อง เธอเข้าเวรในวันหยุด ซึ่งปกติจะมีคนเข้าเวรเยอะกว่านี้ แต่เผอิญเมื่อวานซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ มีงานเลี้ยงต่างงานของคนในพื้นที่ ทำให้หลายคนไปร่วมงาน มีเธอเฝ้าตึกอยู่คนเดียว
"คนร้ายเข้ามาในโรงพยาบาลหลายสิบคน เท่าที่เห็นมากกว่าสิบแน่นอน เขาเข้ามาหาแล้วบอกให้อยู่นิ่งๆ พร้อมกับมัดมือไพล่หลังไว้ แล้วให้นั่งบนเก้าอี้ ก้มหน้า จากนั้นเขาก็เดินกันขึ้นไป แล้วก็ได้ยินเสียงปืน เขาใช้อาวุธสงครามที่ถือเข้ามากราดยิงออกไปข้างนอก หันไปทางฐานทหารพราน เขายิงประมาณ 20 นาทีก็ล่าถอยไป"
เมื่อขอดูร่องรอยจากการถูกมัดมือ พยาบาลสาวบอกว่า ไม่มีรอยหรือแผลใดๆ เพราะคนร้ายมัดหลวมๆ ด้วยเชือกฟาง คงต้องการแค่ไม่ให้ขยับไปไหน
เธอบอกอีกว่า สภาพจิตใจของเธอขณะถูกจับ คิดว่าไม่รอดแน่ โอกาสตายสูงถึง 90% เพราะคนร้าย แต่ละคนมีอาวุธสงครามครบมือ เดินไปเดินมารอบๆ ตัวเธอ
"ถือว่าโชคดีที่มีสติดี ไม่ได้โวยวาย ถ้าโวยวายก็ไม่รู้จะโดนอะไร ตอนนั้นคิดว่าต้องตายแน่นอน แต่ก็รู้สึกได้ว่าคนร้ายเข้ามาเขาไม่ต้องการทำร้ายเรา เป้าหมายของเขาไม่ได้อยู่ที่เรา"
"เคยคิดว่าในโรงพยาบาลเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่สุด แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจแล้ว อยากให้เจ้าหน้าที่วางกรอบการรักษาความปลดภัยในโรงพยาบาลให้ดีกว่านี้ เพราะว่า พยาบาลและเจ้าหน้าที่ทุกคนรักษาผู้ป่วยโดยไม่คิดว่าเป็นคนร้ายหรือ ใครเรารักษาคนทุกคน" พยาบาลสาว ระบุ
ผู้ป่วยยังมั่นใจ– ผอ.ยันโรงพยาบาลไม่มีวันหยุด
สำหรับโรงพยาบาลเจาะไอร้อง เป็นโรงพยาบาลขนาด 30 เตียง ถือเป็นโรงพยาบาลระดับอำเภอที่ชาวบ้านในพื้นที่เข้ารักษาอาการเจ็บป่วยมากที่สุด เพราะอยู่ใกล้กับชุมชน
โรงพยาบาลแห่งนี้มีแพทย์ปฏิบัติหน้าที่ประจำ 4 คน มีพยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล และบุคลากรอื่นๆ อีกรวม 161 คน ที่ผ่านมาแต่ละวันมีผู้ป่วยนอนรักษาตัวอยู่เต็มทุกเตียงของโรงพยาบาล แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ขณะนี้จำนวนผู้ป่วยลดลงเหลือแค่ 11 เตียงเท่านั้น
แต่สำหรับคนที่ยังอยู่ โดยเฉพาะผู้ที่มีหน้าที่อย่าง แพทย์ พยาบาล ไม่สามารถถอยหนีไปไหน พวกเขาและเธอยังคงเชื่อมั่นในมาตรการรักษาความปลอดภัยของฝ่ายความมั่นคง
ผู้ป่วยชายรายหนึ่งที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลเจาะไอร้อง และนอนอยู่ในโรงพยาบาลในวันเกิดเหตุ บอกว่า ยังเชื่อมั่นเสมอในเรื่องความปลอดภัย เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่สำหรับการรักษาพยาบาลของผู้ป่วย
ขณะที่ แพทย์หญิง บุญรัตน์ ประพันธ์วงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจาะไอร้อง บอกว่า ไม่ว่าจะเกิดภาวะความรุนแรงด้านใด โรงพยาบาลก็จะทำหน้าที่ในการรักษาผู้ป่วยตามจรรยาบรรณของแพทย์ต่อไป ไม่มีหยุด โดยวันรุ่งขึ้นหลังเกิดเหตุ โรงพยาบาลก็ไม่ได้ปิดทำการ ยังคงเปิดรักษาผู้ป่วยตามปกติ
รปภ.โรงพยาบาลโวยตกเป็นผู้ต้องสงสัย
ด้าน นายเจะวา เป็งดีวาโซ๊ะ พนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของโรงพยาบาลเจาะไอร้อง เปิดใจกับ "ทีมข่าวอิศรา" ว่า เหตุการณ์ผ่านไปแล้ว แต่ตนและครอบครัวเหมือนยังอยู่ในความรุนแรง เพราะหลังจากเกิดเหตุ ทุกคนต่างเข้ามาให้กำลังใจทั้งพยาบาลและหมอ ทุกคนในอำเภอให้ความสนใจเรื่องนี้
แต่เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ กลับมองว่าตนกับเพื่อน คือ นายอีชาฮา เจะแต ที่เป็น รปภ.ด้วยกัน เป็นคนร้ายที่ร่วมในเหตุการณ์ด้วย
"เจ้าหน้าที่ได้มาเอาโทรศัพท์ผมและเพื่อน ถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนไปด้วย บอกว่าสงสัยว่าอาจจะมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ ให้รอผลพิสูจน์โทรศัพท์และประวัติถึงจะสามารถคืนโทรศัพท์ให้ แล้วจะบอกได้ว่าผมและเพื่อนเป็นคนร่วมในเหตุการณ์ครั้งนี้หรือไม่"
"แค่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมก็ตกใจกลัวอย่างบอกไม่ถูก แถมยังมาถูกกล่าวหาว่าไปร่วมอีก ผมยืนยันว่าผมไม่ได้ทำ เมื่อเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องรอผลพิสูจน์ ผมก็พร้อม แต่ก็ขอภาวนาให้ผมได้รับความเป็นธรรมด้วย ระหว่างรอผล ผมและครอบครัวเหมือนต้องอยู่ในเหตุการณ์ร้ายอย่างต่อเนื่อง เพราะกลัวว่าจะมีการโยนบาปให้กัน ถ้าเอาตรงๆ ผมไม่กลัวเลย" นายเจะวา กล่าว
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : (คนขวา) พยาบาลสาวที่ถูกคนร้ายมัดมือขณะปฏิบัติการบุกโรงพยาบาลเจาะไอร้อง
หมายเหตุ : ใช้เทคนิคเบลอภาพเพื่อสวัสดิภาพของผู้ให้สัมภาษณ์