บ.ซื้อหวย'อดีตส.ว.' เพิ่งถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ พบเพิ่มทุนพรวด150 ล.
เปิดข้อมูลบ.เทวาสิทธิ พิฆเนศ ร่วมระดมทุนซื้อหวย อดีต ส.ว.สรรหา พบถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ช่วงต้นปี 58 เผยทำธุรกิจไม่กี่ปี เพิ่มทุนจดทะเบียนพรวด 150 ล้าน
กรณีนายศรีสุข รุ่งวิสัย อดีต ส.ว.สรรหา ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีมติอายัดทรัพย์สินกว่า 300 ล้านบาท ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน กรณีบริษัท เทวาสิทธิ พิฆเนศ จำกัด ที่มีนายศรีสุข โฆษณาระดมทุนให้ร่วมลงทุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลมาจำหน่าย โดยอ้างว่ารับโควตาสลากจากกรุงเทพฯ และเสนอผลประโยชน์ต่างตอบแทนเงินส่วนต่างให้ผู้ร่วมลงทุน อัตราฉบับละ 10 บาท แต่สหกรณ์ต่าง ๆ ไม่เคยได้รับสลากฯแต่อย่างใด นั้น
(อ่านประกอบ : ทรัพย์สิน 1.8 พันล.‘ศรีสุข รุ่งวิสัย’ก่อน ปปง.อายัดทรัพย์ 300 ล.โกงหวยครู)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลพบว่า สถานะปัจจุบันของบริษัท เทวาสิทธิ พิฆเนศ จำกัด ได้ถูกศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติ ล้มละลาย พุทธศักราช 2483 ในคดีหมายเลขแดงที่ ล.1467/2558 ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมา
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท เทวาสิทธิ พิฆเนศ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2547 ทุนปัจจุบัน 150 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 2/1 ซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 26 แยก 2 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำดื่ม ปรากฎชื่อ นาย ภัคพล ชวีวัฒน์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ นาย เสวียน ผ้าน้ำฝน และนาย พัศรุตม์ พรหมชุติมา รวมเป็นกรรมการ
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 19 กรกฎาคม 2556 นาย เสวียน ผ้าน้ำฝน ถืออยู่ 13,000,000 หุ้น มูลค่า 130,000,000 บาท นาย ธนวัฒน์ ดิษาภิรมย์ ถืออยู่ 1,500,000 หุ้น มูลค่า 15,000,000 บาท นาย ศักดา กาญจนตรานันท์ ถืออยู่ 500,000 หุ้น มูลค่า 5,000,000 บาท
นำส่งงบการเงินล่าสุด ปี 2553 แจ้งว่ามีรายได้รวม 500,076.71 บาท เป็นเงินจากดอกเบี้ยรับ มีรายจ่ายรวม 121,931.71 บาท กำไรสุทธิ 261,588.41 บาท
จากการตรวจสอบพบว่า ในช่วงจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัทฯ แจ้งทุนจดทะเบียน ไว้ที่ตัวเลข 1 ล้านบาท ก่อนจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 40 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2549 และปรับเพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2553 และปรับเพิ่มครั้งสุดท้ายเป็น 150 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2554
จากการตรวจสอบพบว่า นาย เสวียน ผ้าน้ำฝน ยังปรากฎชื่อเป็นกรรมการผู้ถือหุ้นบริษัทอีกแห่งหนึ่ง คือ บริษัท ศรีโสภามาร์เก็ตติ้ง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2553 ทุน 150 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่เดียวกับบริษัท เทวาสิทธิ พิฆเนศ จำกัด
แจ้งประกอบธุรกิจ ขาย ให้เช่า ผลิต หรือรับจ้างผลิต แผ่นซีดี แถบบึนทึก เสียง วีดิทัศน์ ดีวีดี
นาย เสวียน ผ้าน้ำฝน ถือหุ้นใหญ่สุด 149,998 หุ้น มูลค่า 149,998,000 บาท นาย ณัฐวัสส์ รัตนประภา นาย วรเทพ รัตนประภา ถืออยู่คนละ 1 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1,000 บาท
ทั้งนี้ ในช่วงจดทะเบียนตั้งบริษัทฯ มีทุน 2 ล้านบาท ก่อนจะปรับเพิ่มเป็น 150 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2554 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังการเพิ่มทุนเป็น 150 ล้านบาท ของ บริษัท เทวาสิทธิ พิฆเนศ จำกัด ประมาณ 2 เดือน
อย่างไรก็ตาม ในการทำธุรกิจที่ผ่านมา บริษัท ศรีโสภามาร์เก็ตติ้ง จำกัด ยังไม่ได้นำส่งงบการเงินให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้ารับทราบแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงปี 2555 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เคยระบุว่า คดีนี้เป็นความผิดเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน หรือแชร์ลอตเตอรี่ ซึ่งเกิดขึ้นกับสหกรณ์ออมทรัพย์ในจังหวัดต่างๆได้แก่ จังหวัดเลย ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด สกลนคร กาฬสินธุ์ ยโสธร ปทุมธานี ราชบุรี สงขลา และเชียงราย สหกรณ์ออม– ทรัพย์ดังกล่าวทำสัญญาซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลกับบริษัทเทวาสิทธิพิฆเนศ จำกัด บริษัทศรีโสภามาร์เก็ตติ้ง จำกัด และบริษัทจัมโบ้ซัพพลาย แอนด์ เซอร์วิส จำกัด 3 บริษัท รวม 18 สัญญา ความเสียหายตามสัญญาประมาณ 25,561 ล้านบาท
พฤติการณ์การกระทำ ความผิด คือ บริษัทเทวาสิทธิพิฆเนศฯ และบริษัทศรีโสภาฯ โดยนายศรีสุข รุ่งวิสัย กับพวก ร่วมกันหลอกลวงสหกรณ์ออมทรัพย์จังหวัดต่างๆให้เข้าเป็นคู่สัญญาซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาล หลอกลวงว่า บริษัทเทวาสิทธิพิฆเนศฯ และบริษัทศรีโสภาฯ เป็นคู่ค้ากับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สามารถจัดหาสลากกินแบ่งรัฐบาลราคาถูกมาจำหน่ายให้สหกรณ์ เพื่อนำไปจำหน่ายต่อและทำกำไร ความจริงแล้วบริษัททั้งสองไม่ได้เป็นคู่สัญญากับสำนักงานสลากฯ ตามที่กล่าวอ้าง เมื่อสหกรณ์ ออมทรัพย์จังหวัดต่างๆ โดยประธานและผู้จัดการสหกรณ์หลงเชื่อทำสัญญาซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลและจ่ายเงินล่วงหน้าให้กับนายศรีสุข หลังรับเงินไป แล้วไม่ได้ส่งมอบสลากตามสัญญา และไม่ได้คืนเงินให้กับสหกรณ์ทำให้ได้รับความเสียหาย
จึงมีความเห็นควรสั่งฟ้องนายศรีสุขกับพวกรวม 14 ราย และสั่งไม่ฟ้องอดีตผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์จังหวัดต่างๆ รวมทั้งนิติบุคคลและบุคคลบางราย เพื่อกันไว้เป็นพยานสำคัญในคดี ก่อนที่ล่าสุด ปปง.จะประกาศอายัดทรัพย์สินกว่า 300 ล้านบาท ดังกล่าว