กลุ่มธรรมภิบาลฯ ชงก.คลัง ระงับสิทธิพิเศษขุดคลองอผศ.-เชื่อคนปภ.เอี่ยว!
กลุ่มธรรมภิบาลฯ ลุยต่อเตรียมเข้ายื่นหนังสือ ชง ก.คลัง สัปดาห์หน้า ให้ระงับสิทธิพิเศษขุดคลอง อผศ. หลังพบปัญหาจ้างช่วงงาน ฝ่าฝืนข้อกำหนดชัดเจน -เชื่อคนปภ.มีเอี่ยว!
จากกรณี กลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีที่มีบุคคลแอบอ้างชื่อของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในการเรียกรับผลประโยชน์และเก็บค่าหัวคิวโครงการขุดลอกแหล่งน้ำ ขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) เมื่อวันที่ 5 ก.พ.2558 ที่ผ่านมา
โดยล่าสุด นายพีระ ทองโพธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารประชาชน ปฏิบัติราชการแทนสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือแจ้งถึงกลุ่มธรรมาภิบาลฯ ว่า สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ประสานส่งเรื่องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
(อ่านประกอบ : สั่ง สตช. ลุยสอบปม 'คุณนายอ.-ส.จ.' อ้างชื่อ'บิ๊กป้อม'เรียกหัวคิวขุดคลอง อผศ.)
เมื่อวันที่ 29 ก.พ.2559 นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น เปิดเผย สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ในช่วงสัปดาห์หน้า จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อกระทรวงการคลัง เพื่อขอให้เพิกถอนสิทธิพิเศษกับอผศ. ในการเข้าไปรับจ้างงานขุดลอกคูคลองจากหน่วยงานราชการต่างๆ หลังจากมีการตรวจสอบพบข้อมูลว่า มีผู้รับเหมาได้รับจ้างช่วงเข้ามาขุดคลองแทน อผศ. ซึ่งตามระเบียบกระทรวงการคลัง จะต้องสั่งยกเลิกสิทธิพิเศษทันที
นายวิวัฒน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลของกลุ่มพบว่า อผศ. ได้รับความเห็นชอบเรื่องการให้สิทธิพิเศษเข้าไปรับงานขุดลอกคูคลองจากคณะกรรมการสิทธิพิเศษของกระทรวงการคลัง มาตั้งแต่ปี 2556 แล้ว แต่เพิ่งจะมีการเสนอเรื่องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รับทราบ ช่วงเดือนก.ค.2557 หลังรัฐประหาร 2 เดือน จึงทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตว่า กระทรวงการคลัง อาจจะมีความเกรงใจรัฐบาลทหาร จึงรีบอนุมัติให้
" ในการเสนอเรื่องขอสิทธิพิเศษการขุดลอกคูคลองของอผศ. นั้น ทางกลุ่มฯ เชื่อว่า น่าจะมีผู้บริหารระดับสูงของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากงานขุดลอกคูคลอง ที่อผศ.ได้รับส่วนใหญ่จะเป็นงานของ ปภ. และผู้รับเหมารายย่อยที่เข้าไปรับจ้างช่วงงานต่อก็ยืนยันว่า ผู้รับเหมารายใหญ่ที่นำงานมาแจกจ่าย เป็นผู้รับเหมาที่วิ่งเข้านอกออกใน รับงานปภ.อยู่เป็นประจำ"
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จากเว็บไซต์สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี พบว่า ภายหลังรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 ประมาณ 2 เดือน คือเมื่อวันที่ 15 ก.ค.2557 คสช.ได้ลงมติรับทราบมติคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษของหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจ ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2557เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2556 ที่ให้ อผศ. ได้รับสิทธิพิเศษประเภทไม่บังคับในการรับจ้างพัฒนาหรือก่อสร้างปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ งานขุดลอกคูคลอง ลำรางสาธารณะ งานสร้างฝายกั้นน้ำ และงานลอกท่อระบายน้ำ ให้แก่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
พร้อมระบุว่า ให้ อผศ. ดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามระเบียบ หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเงื่อนไขที่คณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษของหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจกำหนด ตลอดจนขีดความสามารถและความพร้อมของ อผศ. เองด้วย
จากการตรวจสอบพบว่า คณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษของหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจ ให้เหตุผลในการนำเสนอเรื่องนี้ต่อ คสช. ว่า อผศ.อ้างว่ามีความจำเป็นที่ต้องหารายได้มาสมทบงบประมาณในการสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ครอบครัวทหารผ่านศึก และทหารนอกประจำการที่อยู่ในความดูแลซึ่งปัจจุบันมีอยู่จำนวน 2 ล้านคนเศษ และอาจจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่3 จังหวัดชายแดนใต้เนื่องจากงบประมาณที่ได่รับจากกระทรวงกลาโหมไม่เพียงพอ และมีขีดความสามารถที่จะดำเนินการได้เอง ตลอดจนมีทหารผ่านศึกอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ และการขอรบสิทธิพิเศษครั้งนี้ไม่ได้เป็นการบังคับ ส่วนราชการ รสก.หรือหน่วยงานอื่นของรัฐเลือกที่จะจ้าง อผศ.หรือไม่ก็ได้
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษของหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจ กำหนดเงื่อนไขไว้ชัดเจนว่า อผศ.จะต้องเป็นผู้ดำเนินการเอง โดยมิได้เป็นการประกอบการงานหรือร่วมการงานหรือสมทบกับบุคคลอื่นไม่ว่าจะเป็นการค้าหรือการอื่น และกระทรวงการคลัง โดยคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษฯ มีอำนาจในการระงับสิทธิพิเศษได้ ในกรณีที่ตรวจพบว่า อผศ.นำงานจ้างไปให้เอกชนรับช่วงดำเนินการต่อ