'ประวิตร' สั่งสกัดด่วน! ต่างชาติตั้งบ.นอมินีท้องถิ่นรุกธุรกิจเกษตรไทย
เผยมติครม. 'ประวิตร' นั่งหัวโต๊ะรักษาการแทน ประยุทธ์ สั่งสกัดด่วน ต่างชาติตั้งบ.นอมินีท้องถิ่นรุกธุรกิจเกษตรไทย-จี้ ก.ยุติธรรม ทำแผนดึงอัยการเกษียณอายุ ช่วยเคลียร์คดีค้าง
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้แจ้งหนังสือเวียนให้หน่วยงานราชการ รับทราบข้อสั่งการ ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 16 ก.พ.2559 ที่มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น กระทรวงมหาดไทย เร่งดำเนินการตรวจสอบกรณีที่มีบริษัทซึ่งเป็นตัวแทนของชาวต่างชาติ (นอมินี) เข้ามาลงทุนทำธุรกิจท้องถิ่นในประเทศไทย โดยเฉพาะด้านการเกษตร และส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทย
นอกจากนี้ ยังเร่งรัดให้กระทรวงยุติธรรม ประสานงานกับองค์กรที่เกี่ยวข้องกับงานด้านกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับการจัดการคดี โดยมีเป้าหมายให้การพิจารณาคดีรวดเร็วขึ้น ตามข้อสั่งการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นากยรัฐมนตรี เนื่องจากปัจจุบันมีคดีค้างการพิจารณาเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะคดีเกี่ยวกับการค้ามุนษย การประพฤติผิดของเจ้าหน้าที่ การหลบหนีเข้าเมือง ยาเสพติด หรือการทุจริต เพื่อให้คดีเหล่านี้ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว จึงให้กระทรวงยุติธรรมประสานงานกับสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในการให้พนักงานอัยการที่เกษียณอายุราชการแล้วช่วยดำเนินคดีในส่วนนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีการตรวจสอบบริษัทนอมินีของชาวต่างชาติ ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยนั้น เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2559 ที่ผ่านมา นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังการประชุมครม.ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีคำสั่งให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (นอมินี) อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เป็นต้น ไปหามาตรการปราบปรามธุรกิจนอมินีในประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์ ขณะเดียวกันหลังจากนี้ หากแต่ละกระทรวงต้องการจะปรับเพิ่มหรือแก้ไขกฎหมายเพื่ออำนวยความสะดวกในการปราบปราม ก็ให้แต่ละกระทรวงไปทำการพิจารณาเพื่อนำมาเสนอกับรัฐบาลต่อไป
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นกระทรวงได้มอบหมายให้กรมการท่องเที่ยว ไปจัดหามาตรการแก้ปัญหา โดยกำหนดไว้ 6 ข้อหลัก ที่จะต้องดำเนินการให้ได้ภายในปี 59 ได้แก่ การแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองและตรวจสอบคุณสมบัตินิติบุคคล ที่มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจท่องเที่ยว, การร่วมกับกองบังคับการตำรวจ ท่องเที่ยว ทำการตรวจสอบผู้ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์, การร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงยุติธรรม และกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อตรวจสอบธุรกิจนอมินีท่องเที่ยวอย่างเข้มข้นและให้เป็นเชิงลึกมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำบันทึกข้อตกลงการบริหารจัดการ แก้ไขปัญหาการประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์แก่นักท่องเที่ยวจีน, การร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติตามมาตรการ 10 กลุ่มต้องห้าม อาทิ 1.ทัวร์ด้อยคุณภาพ 2. หลอกลวงสินค้าและบริการ 3. ยานพาหนะเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว 4. สถานบริการผิดกฎหมาย 5. จัดระเบียบการจราจรในแหล่งท่องเที่ยว และสุดท้ายการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาทัวร์จีนราคาต่ำกว่าทุนอย่างไม่มีเหตุผล ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับนอมินีในไทยมาก ใน 2 สัปดาห์นี้ก็จะหารือกับ กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงมหาดไทยให้เร็วที่สุด โดยตั้งเป้าหมายหลังจากนี้จะต้องไม่มีธุรกิจนอมินีท่องเที่ยวใหม่เกิดขึ้น (อ้างอิงข้อมูลข่าวส่วนนี้จากไทยรัฐออนไลน์ )
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก Google