เชือด‘อดีตซี 9’สรรพากร! ป.ป.ช.ชี้มูลรวยผิดปกติ 31 ล.พันคดีคืนภาษี
ป.ป.ช. เชือด ‘อดีตซี 9’ กรมสรรพากร รวยผิดปกติ 31 ล้าน พันคดีคืนภาษี 4.3 พันล้าน พบนำเงินในบัญชีไปซื้อที่ดิน-รถยนต์ ส่ง อสส. ฟ้องศาลยึดทรัพย์กลับคืนสู่แผ่นดินแล้ว
จากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า นายศุภกิจ ริยะการ หรือสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 22 ร่ำรวยผิดปกติ ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของนายสิริพงศ์เป็นการชั่วคราว เป็นจำนวนเงินประมาณ 48 ล้านบาทนั้น
ล่าสุด นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีนี้ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณารายงานผลการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีเงินฝากธนาคารของนายสิริพงศ์ ที่อยู่ในชื่อนายสิริพงศ์ อดีตคู่สมรส และบุตร เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้นายสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาว่าทรัพย์สินที่แจ้งข้อกล่าวหามีที่มาจากการขายทองคำแท่ง การกู้ยืมเงินจากบุคคลใกล้ชิด หรือได้รับคืนเงินให้กู้ยืมจากญาติพี่น้องของคู่สมรส และอดีตผู้ใต้บังคับบัญชา เป็นคำชี้แจงที่ฟังไม่ขึ้น จึงมีมติว่า นายสิริพงศ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 22 ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ ทั้งในชื่อของนายสิริพงศ์ อดีตคู่สมรส บุตร และบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมมูลค่า 31,754,337.38 บาท
แต่เนื่องจากเงินในบัญชีเงินฝาก รวมเป็นเงิน 11,883,000 บาท ที่นายสิริพงศ์ ได้มาโดยร่ำรวยผิดปกติ มีการถอนไปฝากเข้าบัญชีเงินฝากอื่น ซื้อที่ดิน และรถยนต์ ในชื่อของนายสิริพงศ์ และบุตร รวมเป็นเงิน 3,917,317.25 บาท จึงเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยร่ำรวยผิดปกติด้วย
ส่วนเงินคงเหลือ จำนวน 7,965,682.75 บาท ให้ดำเนินการกับทรัพย์สินอื่นของนายสิริพงศ์ อดีตคู่สมรส และบุตร ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีคำสั่งอายัดไว้เป็นการชั่วคราวแล้ว ทั้งนี้ ตามมาตรา 83 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด ยื่นคำร้องต่อศาลให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน ตามมาตรา 80 และริบทรัพย์สิน ตามมาตรา 123/6 และมาตรา 123/8 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
สำหรับนายศุภกิจ หรือสิริพงศ์ เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดร่วมกับนายสาธิต รังคสิริ อดีตอธิบดีกรมสรรพการ ในความผิดทางอาญาและวินัยอย่างร้ายแรงคดีทุจริตคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มของกรรมสรรพากร 4.3 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันกระทรวงการคลังมีคำสั่งไล่นายศุภกิจ หรือนายสิริพงศ์ และนายสาธิตออกจากราชการแล้ว
อ่านประกอบ : ป.ป.ช.เชือด'สาธิต-ศุภกิจ'คดีทุจริตคืนภาษี-พบเอาเงินไปซื้อทองคำแท่ง 179 ล.