แจ้ง ผบ.ตร.ช่วย! ป.ป.ช.ล่าตัว อดีตจนท.เทศบาลบางซ้าย เปลี่ยนชื่อหนีคดีทุจริต
ป.ป.ช.ออกหมายจับปูพรมล่าตัว อดีต จนท.เทศบาลบางซ้าย เปลี่ยนชื่อหนีคดีทุจริตเงิน3.4 แสน -แจ้งประสานงานให้ ผบ.ตร.ช่วย!
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าการดำเนินคดีทางอาญากับ นางจีรพร เชยประทุม หรือนางนิชาภา หอมชื่น เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานการเงิน และบัญชี สังกัดเทศบาลเมืองปราจีนบุรี กรณีถูกกล่าวหาว่า กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีการเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลจำนวน 88,548 บาท และการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์การเรียนการสอนของเทศบาลเมืองปราจีนบุรีจำนวน 251,790 บาท ไปเป็นของตนเองหรือผู้อื่น
โดยระบุว่า ป.ป.ช. มีหนังสือ ลับ ด่วน ที่ ปช 0014/2675 ลว. 1 ก.ย. 58 ถึงอัยการสูงสุด เรื่อง ขอให้ดำเนินคดีอาญา ขณะที่ . สำนักงานอัยการมีหนังสือ ที่ อส 0049.2/13914 ลว. 17 พ.ย.58 เรื่อง ขอให้ดำเนินคดีอาญา มีสั่งดำเนินคดีอาญาฟ้องนางจีรพร หรือนางนิชาภา เชยประทุม หรือหอมชื่น ผู้ถูกกล่าวหา และให้สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการให้ได้ตัวผู้ถูกกล่าวหา เพื่อฟ้องต่อศาลจังหวัดปราจีนบุรี
จากนั้น ป.ป.ช. ได้มีหนังสือ ถึง อัยการจังหวัดปราจีนบุรี ที่ ปช 0014/3477 ลว. 1 ธ.ค. 58 เรื่อง แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหามารายงานตัว 4. มีหนังสือ ถึง นางจีรพร เชยประทุม หรือนางนิชาภาหอมชื่น ที่ ปช 0014/3478 และ ที่ ปช 0014/3479 ลว. 1 ธ.ค. 58 เรื่อง ขอให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการ
ขณะที่ สำนักงานอัยการจังหวัดปราจีนบุรี มีหนังสือที่ อส0042 (ปจ) / 4244 ลว.9 ธ.ค.58 แจ้งมายังสำนักงาน ป.ป.ช. ให้ทราบว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่มารายงานตัวตามกำหนด สำนักงาน ป.ป.ช. จึงได้ดำเนินการออกหมายจับที่ 237/2558 วันที่ 9 ธ.ค.58 7. สตม.3 ได้มีบันทึกที่ 14/3069 ลว. 11 ธ.ค.58 แจ้งและส่งสำเนาหมายจับให้สำนักการข่าว และ. มีหนังสือ ลับ ด่วน ที่ ปช. 0014/3583 ลว. 17 ธ.ค. 58 แจ้งและสำเนาหมายจับไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ. มีหนังสือ ลับ ด่วน ที่ ปช. 0014/3584 ลว. 17 ธ.ค. 58 แจ้งและสำเนาหมายจับไปยังอัยการจังหวัดปราจีนบุรี แล้ว
ส่วนความคืบหน้าการลงโทษทางวินัย นั้น เนื่องจากเทศบาลตำบลบางซ้าย อำเภอบางซ้าย จังหวัดพระนครศีอยุธยา ได้มีคำสั่งที่ 141/2554 ลงวันที่ 30 กันยายน 2554 ลงโทษไล่ นางจีรพร เชยประทุม หรือนางนิชาภา หอมชื่น ออกจากราชการแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะต้องส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโทษทางวินัย
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบพบว่านางจีรพร ได้เปลี่ยนชื่อเป็น นิชาภา หอมชื่น ซึ่งพนักงานไต่สวนได้มีหนังสือลับไปยังนางจีรพร ตามที่อยู่ในทะเบียนราษฎร แต่ปรากฏว่า ไปรษณีย์แจ้งให้ทราบว่าย้ายไปที่อยู่ใหม่ แต่จากการตรวจสอบทะเบียนราษฎรอีกครั้ง ก็ยังปรากฏชื่อนางนิชาภา อยู่ในบ้านเลขที่ดังกล่าว
ส่วนพฤติการณ์กระทำความผิด เกิดขึ้น ระหว่างวันที่ 6 มิ.ย. 2543-5 ก.ค. 2543 หลังจากพนักงานจากเทศบาลเมืองปราจีนบุรีเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยใช้สิทธิการรักษาพยาบาล ตามหนังสือรับรองการมีสิทธิรับเงินค่ารักษาพยาบาลของพนักงานส่วนท้องถิ่น สำนักงานเทศบาลเมืองปราจีนบุรี และมีค่ารักษาพยาบาลที่จะต้องชำระรวมทั้งสิ้น 88,548 บาท
ต่อมาโรงพยาบาลตำรวจได้มีหนังสือขอรับเงินค่ารักษาพยาบาลดังกล่าวมายังเทศบาลเมืองปราจีนบุรีรวม 4 ฉบับ ซึ่งเทศบาลเมืองปราจีนบุรีได้มีฎีกาเบิกจ่ายเงิน และสั่งจ่ายเช็คเพื่อเบิกจ่ายเงินให้โรงพยาบาลตำรวจแล้ว โดยสั่งจ่ายเช็คลงวันที่ 18 ธันวาคม 2543 จำนวน 88,548 บาททั้งนี้เช็คฉบับดังกล่าว ระบุว่า เพื่อซื้อดร๊าฟท์ “โรงพยาบาลตำรวจ” โดยผู้ที่มีหน้าที่ในการจัดทำฎีกา และเบิกจ่ายเงินของเทศบาลเมืองปราจีนบุรีไปจ่ายให้กับโรงพยาบาลตำรวจ คือ นางจีรพร
แต่ปรากฏว่า นางจีรพร ไม่นำเงินที่เบิกจ่ายตามเช็คฉบับดังกล่าวไปซื้อดร๊าฟท์ และจ่ายให้โรงพยาบาลตำรวจแต่อย่างใด ได้เบียดบังเงินจำนวนดังกล่าวไปเป็นของตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ
อีกกรณีหนึ่งคือ เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2540 เทศบาลเมืองปราจีนบุรี ได้สั่งซื้อวัสดุอุปกรณ์การเรียนการสอนขององค์การค้าคุรุสภา และองค์การค้าคุรุสภาได้ส่งมอบสินค้าให้เทศบาลเมืองปราจีนบุรี ซึ่งเทศบาลเมืองปราจีนบุรีได้ชำระค่าสินค้าแล้วบางส่วน ยังคงค้าชำระตามใบส่งของอีกจำนวน 63 รายการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 251,790 บาท
องค์การค้าคุรุสภาได้มีหนังสือขอให้ชำระหนี้ค้างมายังนายกเทศมนตรีเมืองปราจีนบุรี ต่อมาเทศบาลเมืองปราจีนบุรีได้มีหนังสือแจ้งไปยังหัวหน้าส่วนพัฒนาสินทรัพย์องค์การค้าคุรุสภาว่า เทศบาลเมืองปราจีนบุรีมีความประสงค์ขอผ่อนชำระหนี้ โดยจะเริ่มผ่อนชำระตั้งแต่เดือน ม.ค. 2544 เป็นต้นไป และท้ายหนังสือฉบับดังกล่าวมีข้อความว่า “หมายเหตุ เมื่อต้องการติดต่อหรือขอทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ กรุณาติดต่อที่หัวหน้างานการเงิน คุณจีรพร”
จากนั้นองค์การค้าคุรุสภาได้มีหนังสือตอบรับพร้อมกับสัญญารับสภาพหนี้ไปยังเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ซึ่งเทศบาลเมืองปราจีนบุรีโดยนายกเทศมนตรีฯ ได้ลงลายมือชื่อเป็นผู้รับสภาพหนี้ และนางจีรพร ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกัน เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2543 ซึ่งเทศบาลเมืองปราจีนบุรีได้จัดส่งสัญญารับสภาพหนี้ดังกล่าวไปให้องค์การค้าคุรุสภา ลงวันที่ 16 ม.ค. 2544
ต่อมาวันที่ 13 ก.ย. 2544 นางจีรพร ได้นำตั๋วแลกเงิน ลงวันที่ 6 ก.ย. 2544 จำนวนเงิน 38,336 บาท ไปชำระให้องค์การค้าคุรุสภา ต่อมาองค์การค้าคุรุสภาได้มีหนังสือ ลงวันที่ 14 ส.ค. 2546 ทวงถามให้ชำระเงินมายังนายกเทศมนตรีฯอีกครั้ง และเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2546 นางจีรพร ได้นำเงินสดจำนวน 213,654 บาท ไปชำระให้กับองค์การค้าคุรุสภา ซึ่งเทศบาลเมืองปราจีนบุรีไม่เคยมีหนี้ค้างชำระกับองค์การค้าคุรุสภา และไม่มีรายการค้างจ่ายตามเช็คของเทศบาลเมืองปราจีนบุรีแต่อย่างใด และมีการปลอมลายมือชื่อในหนังสือขอผ่อนผันหนี้ และสัญญารับสภาพหนี้กับองค์การค้าคุรุสภา ซึ่งผู้ที่มีหน้าที่ในการจัดทำฎีกา และเบิกจ่ายเงินของเทศบาลเมืองปราจีนบุรีไปจ่ายให้องค์การค้าคุรุสภาคือ นางจีรพร
(อ่านประกอบ : อดีตจนท.บัญชีเปลี่ยนชื่อ-ย้ายบ้าน! ป.ป.ช.สอบปมอมเงินเทศบาลปราจีนฯ)