สังคมหลั่งไหลช่วยเหลือ ‘เด็กหญิงอารดา’ หลังเผยแพร่เรียงความ ‘ชีวิตลูกกำพร้า’
“หลังจากที่เรียงความของน้องอารดาได้ถูกแชร์กันมาก มีผู้ใจบุญมากมายช่วยเหลือน้องและคุณย่า ทำให้กองทุนสวัสดิการนี้โตมากจริง ๆ ครับ กรรมการทั้ง 3 ท่าน เริ่มรู้สึกหนักใจที่จะดูแลกองทุนนี้ในระยะยาว คงจะนำเรียนท่าน นพ.สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ต่อไป แต่ในขณะนี้จะทำหน้าที่ดูแลให้ดีที่สุดครับ โปร่งใส ตรวจสอบได้”
กรณี เด็กหญิงอารดา วงษ์ดีเลิศ บุตรสาวของ คุณหมอกฤษดา วงศ์ดีเลิศ อดีตแพทย์ รพ.กบินทร์บุรี จบแพทย์จากจุฬารุ่นที่ 42 ที่ล้มป่วยและเสียชีวิตจากการทุ่มเทรักษาคนไข้ ได้เขียนเรียงความบอกเล่าความความเดือดร้อนของครอบครัวจนมีผู้เผยแพร่ต่อและนำไปสู่ความความช่วยเหลือจากสังคม (อ่านประกอบ : เรียงความ'ชีวิตลูกกำพร้า' ด.ญ.อารดา วงษ์ดีเลิศ:พ่อหนูจากไปเพราะห่วงคนไข้)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2559 พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อว่า Ittaporn Kanacharoen ระบุว่า มีผู้ใจบุญบริจาคน้ำใจช่วยเด็กหญิงอารดา 1.6 ล้านบาทแล้ว โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ มีข้อความดังนี้
ความคืบหน้าจาก นพ.พงศธร สร้อยคีรี ผู้รับผิดชอบกองทุนช่วยน้องอารดา : รายงานว่า มีผู้ใจบุญบริจาคน้ำใจช่วยน้อง 1.6 ล้านบาทแล้วครับ ... ขอให้มีรายงานที่โปร่งใสเช่นนี้จะมีประโยชน์มากครับ
--------------------------------------------
สวัสดีครับ ผมนพ.พงศธร สร้อยคีรี ผอ.รพ.ประจันตคาม ได้รับมอบหมายให้เปิดและดูแลกองทุนสวัสดิการเพื่อ น.ส.อารดา วงศ์ดีเลิศ ผมเป็นเพื่อนแพทย์รุ่นเดียวกับนพ.กฤษฎา หลังจากที่จบการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิต เมื่อปี 2535 ต่างคนก็ย้ายไปทำงานที่โรงพยาบาลที่ได้บรรจุ สมัยนั้นการสื่อสารไม่ทันสมัยเหมือนในขณะนี้ จึงไม่ได้รับข่าวสารจากเพื่อนเลย จนกระทั่ง ปลายเดือน ม.ค. 2559 ที่ผ่านมา มีเพื่อนแพทย์ท่านนึง ที่รพ.ชัยภูมิ ส่งโพสต์เรียงความ ชีวิตลูกกำพร้า ของน้องอารดา วงศ์ดีเลิศ จากเฟซบุ๊คคุณครูน็อต สานิตย์ เข้ามาในกลุ่มไลน์แพทย์จุฬา 42 บอกว่า มีเพื่อนท่านใดอยู่ปราจีนบุรี ให้ไปตรวจสอบข้อมูลหน่อยว่าเป็นความจริงหรือไม่ สำหรับเรื่องราวของครอบครัวกฤษฎา วงศ์ดีเลิศหรือโต้ง
ผมได้รับมอบหมายจากกลุ่มเพื่อนให้มาตรวจสอบข้อมูลและเยี่ยมน้องและคุณย่า ผมจึงลงพื้นที่ไปที่ รร.เทศบาล 2 กบินทร์บุรีก่อน เข้าพบกับคุณครูที่ดูแลน้องอารดาตอนที่เรียนอยู่จนจบ ม.3 คุณครูบอกว่าเป็นเรื่องจริง และได้พาไปพบครอบครัวน้องและคุณย่า เป็นบ้านเช่าอยู่ไม่ไกลจาก รร.มากนัก เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2559
หลังจากนั้น ได้นำเรื่องนี้มาเรียนให้ท่าน นพ.สสจ.รับทราบ ท่าน นพ.สสจ.เสนอให้ร่วมกันช่วยเหลือครอบครัวน้องและคุณย่า โดยให้ตั้งกองทุนสวัสดิการเพื่อช่วยเหลือร่วมกัน วันรุ่งขึ้น ผมและพี่โชคชัย มานะดี ผอ.รพ.กบินทร์บุรี นำเงินจำนวนหนึ่ง และของอุปโภค บริโภคที่จำเป็นมามอบให้น้องและคุณย่า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น และได้เปิดบัญชีธนาคาร ธกส. ชื่อบัญชี กองทุนสวัสดิการเพื่อ น.ส.อารดา วงศ์ดีเลิศ เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2559 มีกรรมการเบิกจ่าย 3 ท่าน
1.นพ.พงศธร สร้อยคีรี ผอ.รพ.ประจันตคาม
2.นางกิ่งกาญจน์ ฮะไล้ หัวหน้าพยาบาล รพ.ประจันตคาม
3.นายสราวุฒิ วงศ์เจริญ จนท.ธุรการ รพ.ประจันตคาม
โดยใช้ลายเซ็น 2 ใน 3 เบิกจ่าย โดยมีท่าน นพ.สสจ.ปราจีนบุรีและกลุ่มแพทย์จุฬารุ่น 42 เป็นที่ปรึกษา
เริ่มแรกจัดตั้งกองทุน วันที่ 4 กพ. 2559 มีจุดประสงค์ตามนี้ครับ
กองทุนสวัสดิการเพื่อ น.ส.อารดา วงศ์ดีเลิศ
จุดประสงค์ : เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพประจำวันน้องอารดาและคุณย่า เพื่อเป็นค่าเช่าบ้านและค่าสาธารณูปโภค เพื่อเป็นทุนการศึกษาเล่าเรียนของน้องอารดาจนจบปริญญาตรี เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆของน้องอารดาและคุณย่า
ผู้จัดการกองทุน : นพ.พงศธร สร้อยคีรี : กรรมการรักษาบัญชี : นพ.พงศธร สร้อยคีรี : นางกิ่งกาญจน์ ฮะไล้ : นายสราวุฒิ วงศ์เจริญ : ที่ปรึกษากองทุน : นพ.สสจ.ปราจีนบุรี : กลุ่มแพทย์จุฬา 42
หมายเหตุ : ค่าครองชีพประจำวัน เดือนละ 6,400 บาท ค่าเช่าบ้าน ค่าสาธารณูปโภค เดือนละ 2,000 บาท
หลังจากนั้น มีผู้ใจบุญหลายท่านไม่สะดวกโอนผ่านบัญชีธนาคาร ธกส. ผมจึงได้ไปสอบถามธนาคารอื่น ๆ ธนาคารไทยพาณิชย์ไม่รับเปิดบัญชีลักษณะนี้ ธนาคารทหารไทยรับ แต่ต้องเปลี่ยนชื่อ จากกองทุนสวัสดิการเพื่อ...เป็นชื่อกรรมการ3ท่านเพื่อ...จึงเป็นที่มาของชื่อบัญชีที่2ครับ
หลังจากที่เรียงความของน้องอารดาได้ถูกแชร์กันมาก มีผู้ใจบุญมากมายช่วยเหลือน้องและคุณย่า ทำให้กองทุนสวัสดิการนี้โตมากจริง ๆ ครับ กรรมการทั้ง 3 ท่าน เริ่มรู้สึกหนักใจที่จะดูแลกองทุนนี้ในระยะยาว คงจะนำเรียนท่าน นพ.สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ต่อไป แต่ในขณะนี้จะทำหน้าที่ดูแลให้ดีที่สุดครับ โปร่งใส ตรวจสอบได้
นพ.พงศธร สร้อยคีรี
โรงพยาบาลประจันตคาม
ผู้แทนแพทย์จุฬารุ่น 42 ผู้ดูแลน้องอารดา
------------------------------
หมายเหตุ: ท่านใดมีข้อแนะนำเสนอแนะใดติดต่อน้องเขาได้โดยตรงนะครับ..
ส่วนหน่วยงานหลัก คือ แพทยสภา แพทยสมาคม และสมาคมศิษย์เก่าแพทย์จุฬา กำลังดำเนินการช่วยเหลือในด้านอื่น ๆ อยู่ครับ