ความจริง-ความเชื่อ กรรมสิทธิ์บนผืนดินหาดราไวย์
"..เขาได้เอกสารสิทธิ์มาอย่างถูกต้อง"รองผู้ว่าฯภูเก็ต ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ โดยที่ยังไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง เขาพยายามหาทางลง โดยให้ความเป็นเจ้าของของชาวเลหดเล็กลงเรือยๆ ท้ั้งๆที่ความจริงแล้วผืนดินย่านนี้เกือบทั้งหมดเคยเป็นของชาวเล.."
ตอนเด็กๆบ้านของ "สนิท"อยู่ใกล้ท้องนา แค่เปิดประตูบ้านเขาก็เห็นทุ่งเขียวขจี
เขาจำได้ว่าผืนดินย่านหาดราไวย์นอกจากเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเลแล้ว ยังเป็นผืนนา แปลงผัก ป่าสมุนไพร บ่อน้ำ และอื่นๆอีกมากมาย
สมัยก่อนชาวเลทำนารวม ใครขยันมากก็ได้ส่วนแบ่งมาก ใครขยันน้อยก็ได้ส่วนแบ่งน้อย แต่พวกเขาไม่ค่อยเดือร้อนเมื่อไม่มีข้าวกินนัก เพราะชีวิตของพวกเขามุ่งสู่ทะเลและหาปลากินเป็นหลัก
พอสนิทอายุ 8 ขวบ สถานการณ์รอบบ้านเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อมีนายทุนเข้ามาอ้างกรรมสิทธิ์ ครอบครองที่ดิน ผืนนา แปลงผักค่อยๆ หายไป
ที่ดินของชาวเลราไวย์ทั้งหมดถูกแอบอ้างนำไปออกเอกสารสิทธิ์ บางแปลงถูกขายเปลียนมือไปเรื่อยๆ
ยามนี้สนิทและชาวเลราไวย์เจ็บปวดทุกครั้้งเมื่อได้ยินผู้ใหญ่ในบ้านเมืองบอกว่า "ที่ดินแปลงนั้น นายทุนได้มาอย่างถูกต้อง"
วันนี้ผืนนาที่สนิทเคยวิ่งเล่นกำลังกลายเป็นวิลล่า
เมื่อชาวเลออกมาขวางเพื่อไม่ให้ปิดกั้นเส้นทางสาธารณะที่พวกเขาเคยเดินไปบาลัย หรือเดินไปยังที่จอดเรือ ก็ถูกตีถูกยำจนเลือดตกยากออก
"เขาได้เอกสารสิทธิ์มาอย่างถูกต้อง"รองผู้ว่าฯภูเก็ต ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ โดยที่ยังไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง เขาพยายามหาทางลง โดยให้ความเป็นเจ้าของของชาวเลหดเล็กลงเรือยๆ ท้ั้งๆที่ความจริงแล้วผืนดินย่านนี้เกือบทั้งหมดเคยเป็นของชาวเล
ทุกวันนี้ผู้มีอำนาจหลายคนใช้"ความเชื่อ" มาตัดสินว่าเอกสารสิทธิ์คือความถูกต้อง
แต่ไม่คิดถึงที่มาของเอกสารสิทธ์ว่า "ถูกต้อง"หรือไม่
จากผืนดินที่เคยกว้างใหญ่นับร้อยไร่ วันนี้ชาวเลราไวย์ต้องอยู่กันอย่างแออัดยัดเยียดในที่ดินแค่19 ไร่ แถมที่ดินแปลงนี้ก็ถูกแอบอ้างเอกสารสิทธิ์เช่นกัน
ดูเหมือนความจริงที่สนิทและชาวเลราไวย์รู้เห็นและสัมผัสมาทั้งชีวิต
กับความจริงของใครบางคนจะเป็นคนละชุดกัน
-------------
ภาพ -สนิทกับยาย
อ่านประกอบ: