แม่ทัพ 4 รับผู้ต้องสงสัยโยงไอเอสเข้านราฯ นายกฯไม่ปฏิเสธ อ้างเรื่องลับความมั่นคง
แม่ทัพภาคที่ 4 ยอมรับมีบุคคลต้องสงสัยเชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอส เข้ามาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และขอให้ผู้นำศาสนาสอนนักเรียนเกี่ยวกับเรื่องรัฐอิสลามจริง ตามที่ “ทีมข่าวอิศรา” เปิดประเด็นไปก่อนหน้านี้
วันพฤหัสบดีที่ 21 ม.ค.2559 สำนักข่าวเนชั่นรายงานข่าวโดยอ้างคำกล่าวของ พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 ที่ยอมรับว่า มีการแจ้งข่าวว่ามีกลุ่มผู้ต้องสงสัย 3 รายเข้ามาในพื้นที่ และมอบเงินบริจาคให้กับมัสยิด รวมทั้งโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส จริง พร้อมขอให้ผู้นำสอนศาสนาจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับเรื่องรัฐอิสลามกับนักเรียนด้วย โดยในเบื้องต้นได้ให้หน่วยในพื้นที่เข้าไปตรวจสอบข้อมูลที่แท้จริงกับผู้นำศาสนาดังกล่าวแล้ว
ส่วนที่มีข่าวว่า มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยเชื่อมโยงเหตุโจมตีกลางกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ได้ที่จังหวัดนราธิวาสนั้น พล.ท.วิวรรธน์ ยืนยันว่า ข่าวนี้ไม่เป็นความจริง มีแต่ข่าวบุคคลต้องสงสัยเชื่อมโยงกลุ่มไอเอสเข้ามามอบเงินให้มัสยิด เรื่องนี้ถือว่าละเอียดอ่อนมาก ต้องดำเนินการตรวจสอบให้รอบคอบ เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ได้พบตัว
ผู้นำศาสนาแจงมีคนมาพบจริงแต่ไม่โยงไอเอส
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหารจากจังหวัดนราธิวาส ได้เดินทางไปที่โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาแห่งหนึ่งใน อำเภอสุไหงโก-ลก ซึ่งตามข้อมูลการข่าวระบุว่ามีบุคคลจากประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซีย เข้าพบผู้นำศาสนาที่โรงเรียนแห่งนี้ พร้อมให้เงินบริจาค โดยแลกเปลี่ยนกับการเพิ่มหลักสูตรการสอนนักเรียนในเรื่อง “รัฐอิสลาม”
จากการพูดคุยกับผู้บริหารโรงเรียนดังกล่าว ยอมรับว่ามีบุคคลจากประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซีย เข้ามาเยี่ยมโรงเรียนช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้วจริง แต่บุคคลที่มาเป็นศิษย์เก่าของบาบอ (ผู้รู้ทางศาสนาอิสลาม) ซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตให้เปิดโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาแห่งนี้ และการพบปะพูดคุยก็ไม่ได้มีการพูดถึงข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับกลุ่มไอเอส หรือกลุ่มรัฐอิสลาม
ส่วนการรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธานั้น ทางโรงเรียนได้เปิดรับบริจาค 2 ครั้ง เมื่อปี 2555 กับปี 2558 ได้เงินกว่า 10 ล้านบาท เพื่อนำมาก่อสร้างอาคารและพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน โดยผู้บริหารโรงเรียนยืนยันว่า ทางโรงเรียนเปิดสอนสายสามัญ เน้นเรื่องภาษาอาเซียน หลักสูตรอิสลามสากล และการอยู่ร่วมกับศาสนิกอื่นโดยปราศจากเงื่อนไข พร้อมทั้งย้ำว่าทั้งบาบอและโรงเรียนไม่มีนโยบายสอนหรือบรรยายด้วยแนวคิดแบบสุดโต่ง โดยที่ผ่านมามีหน่วยงานด้านความมั่นคงเข้ามาตรวจเยี่ยมและพูดคุยพบปะกันเสมอ
ปัดข่าวจับผู้ต้องสงสัยไอเอสที่นราฯ
สำหรับข่าวการจับกุมผู้ต้องสงสัยเชื่อมโยงเหตุรุนแรงกลางกรุงจาการ์ตา เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2559 ที่จังหวัดนราธิวาสนั้น เป็นข่าวจากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง โดยอ้างคำสัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่ามีการจับกุมแล้ว แต่ทุกหน่วยปฏิเสธว่าไม่มีการจับกุม
คำต่อคำ “ประยุทธ์” ตอบปมไอเอส
พล.อ.ประยุทธ์ ตอบข้อถามของสื่อมวลชนในเรื่องนี้ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยไม่ได้พูดชัดๆ เกี่ยวกับการจับกุมผู้ต้องสงสัยเชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอสที่จังหวัดนราธิวาส และไม่มีคำสัมภาษณ์ส่วนใดพาดพิงถึงเหตุการณ์โจมตีกลางกรุงจาการ์ตา โดยนายกฯตอบเฉพาะประเด็นข้อมูลการข่าวมีบุคคล 3 คนที่อาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอส เข้าไปในพื้นที่ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส
“กำลังตรวจสอบอยู่ เรื่องอะไรที่เป็นเรื่องลับ เป็นเรื่องที่มีผลกระทบกับประเทศอื่น และกระทบกับประชาคมโลกเราต้องระวัง บางทีบางเรื่องถ้าพูดออกมาก็ไม่เกิดประโยชน์ จะทำให้ผู้ก่อเหตุสามารถหลบหนีไปได้เรื่อย และจะทำให้เราเข้าไปอยู่ในกระบวนการขัดแย้งเสียเอง และปัญหาก็จะเกิดที่บ้านเรามากขึ้น”
“เรามีการให้ความร่วมมือในด้านการข่าว ด้านการป้องกัน การจัดหาระบบเทคโนโลยีต่าง ๆ ผมอยากให้ทุกคนมองอย่างนี้ ไม่ใช่อยากรู้ไปทุกเรื่อง บางเรื่องก็ต้องมีความลับ ลับมาก ลับที่สุด บางเรื่องต้องใช้ในเชิงบริหาร ทำอย่างไรไม่ให้ประเทศวุ่นวาย ตื่นตระหนก นี่คือประเด็นของผม ไม่ใช่ประชาชนทุกคนต้องรู้ทุกเรื่อง”
“บางเรื่องเป็นเรื่องของการบริหารประเทศ เพื่อให้ประเทศไปได้ เป็นนโยบายด้านความมั่นคง ก็ต้องทำให้มั่นคง ไม่ใช่ลับทั้งหมด แต่มีลับเป็นขั้นๆ ถ้าถามว่าจับได้หรือยัง ก็จับได้ แล้วเป็นไอเอสหรือเปล่า แล้วจะเอาอย่างไร จะเอาได้หรือไม่ได้ ต้องให้ชัดเจนหรือ ใช่หรือไม่ใช่ แล้วถ้าใช่จะได้อะไรขึ้นมา แล้วจะเสนออะไรต่อ บ้านเราเริ่มมีกระบวนการแบบนี้เข้ามาแล้ว แล้วจะได้อะไรขึ้นมาอีก ความขัดแย้งก็เกิดขึ้น คราวนี้ก็เกิดบ้านเรา” นายกรัฐมนตรี ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า รัฐบาลมีการปรับยุทธวิธีเพื่อตั้งรับกลุ่มไอเอสหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีแผนอยู่แล้ว ทำไปตั้งนานแล้ว มาตรการความมั่นคงนั้นมีหลายอย่าง ทั้งเพิ่มประสิทธิภาพข้าราชการ กำลังพล เพิ่มเทคโนโลยี เพิ่มอุปกรณ์ พัฒนาการศึกษา เพิ่มการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่มีทุกระดับ ทุกประเทศ การร่วมมือด้านการข่าวกรองที่มีการประชุมตลอดเวลา
“หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีข้อมูล แต่จะเอามาแฉทุกอันได้หรือไม่ ไม่ใช่ต้องมาปรับแผนทุกวัน ซึ่งหลักการของแผนคือความร่วมมือ คน เครื่องมือ ยุทโธปกรณ์ กฎหมาย และความร่วมมือกับนานาประเทศที่มีการดำเนินการมาตลอดตามยุทธศาสตร์ชาติ แต่ปัญหาอยู่ที่การปฏิบัติ เพราะทุกคนก็ไม่ไว้ใจหมด ข้าราชการก็เสมอตัว ทำดีไม่ได้รับคำชม ทำผิดนิดเดียวก็โดนด่า”
“จะมีการสั่งซื้อเครื่องมือ เช่น เครื่องมือตรวจสอบใบหน้า ตรวจสอบลายนิ้วมือ ก็มีการวิจารณ์กันไปว่าแพงไปหรือไม่ จริงๆ ต้องดูที่ขั้นตอนว่าถูกต้องหรือไม่ กฎหมายว่าอย่างไร พอจะคิดอะไร ซื้ออาวุธอะไรก็ผิดหมด แล้วจะมาเรียกร้องอะไรจากผม แทนที่จะเอาเงินมาซื้อของเหล่านี้ให้เกิดความแข็งแรง ไม่ให้เงินรั่วไหลออกไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามแห่งหนึ่งใน อำเภอสุไหงโก-ลก ที่มีข่าวบุคคลต้องสงสัยอาจเชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอส เข้าไปพบผู้นำศาสนา ซึ่งเป็นบาบอของโรงเรียน
หมายเหตุ : พรางภาพโดยศูนย์ข่าวอิศรา