กก.กสทช.ท้ากรีนเวฟฟ้อง“ยึดคืนคลื่นมาจัดบริการสาธารณะ”

“สุภิญญา”แจงกสทช.มีอำนาจนำ 9 คลื่นวิทยุรัฐมาจัดสรรใหม่เพื่อบริการสาธารณะ ชี้ปลายปีก็หมดสัญญาแล้วไม่กลัวกรีนเวฟฟ้อง ยอมรับบอร์ดยังเสียงแตก คาดปลายปีคลอดแผนแม่บทจัดสรรคลื่นความถี่

จากกรณีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.มีมติระงับการต่อสัญญาสถานีวิทยุ 1 ปณ. กับผู้ประกอบการเอกชนที่ได้ทำสัญญาเช่าคลื่นรวม 9 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือบริษัท จีเอ็มเอ็มมีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือที่รู้จักกันทั่วไปในนามแกรมมี่ซึ่งบริหารจัดการสถานีวิทยุกรีนเวฟ 106.5 FM ซึ่งจะหมดอายุสิ้นเดือน ธ.ค.นี้

“สุภิญญา กลางณรงค์” กรรมการ กสทช. ให้สัมภาษณ์ “ศูนย์ข่าวเพื่อชุมชน สำนักข่าวอิศรา” ว่า มติกสทช.เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมาให้มีการระงับการดำเนินการใดๆในเรื่องสัญญาไม่ให้มีการต่อสัญญา ซึ่งตามกรอบกฎหมายสามารถทำได้เลย เพราะต้องมีการนำคลื่นเดิมกลับมาบริหารใหม่ เรื่องนี้บอร์ดบริหารชุดใหญ่มอบหมายให้บอร์ดชุดเล็กด้านวิทยุโทรทัศน์ไปคิดกระบวนการวิธีการดำเนินการ เมื่อมีมติออกไปก็เกิดปฏิกิริยาตามมามากมาย ทั้งเจ้าของสัญญาหรือผู้ฟัง

“การกำกับดูแลของกสทช.จะต้องนำคลื่นมาประกอบกิจการสาธารณะ ในขณะเดียวกันคลื่น1ปณ.ที่กรีนเวฟทำอยู่มีลักษณะพิเศษในการทำธุรกิจตรงนี้คนก็เลยจับตามองตรงนี้มีคำถามตามมากสทช.จะปรับเปลี่ยนไปสู่การให้บริการสาธารณะอย่างไรที่ไม่ต้องเจอกับคำครหาว่าให้เอกชนเข้ามาทำธุรกิจได้ เรื่องนี้บอร์ดกสทช.เองก็เสียงแตกมีความเห็นไม่เป็นเอกฉันท์ว่าสุดท้ายจะยุติหรือเปลี่ยนผ่าน 1 ปณ.ในช่วงเวลาเท่าไหร่ แต่คิดว่าการประชุมคราวหน้าประมาณปลายเดือนธันวาคมคงมีการตัดสินใจหรืออาจได้ข้อสรุปร่วมกันว่ากระบวนการเปลี่ยนผ่านควรจะเป็นระยะเวลากี่เดือนกี่ปี”

อย่างไรก็ตาม กรรมการกสทช. กล่าวอีกว่า ระยะยาวต้องนำคลื่นของรัฐมาทำเป็นพื้นที่ส่วนกลาง กสทช.มีหน้าที่กำกับดูแลภาพรวมไม่ควรถือใบอนุญาตในการครอบครองคลื่นความถี่ ฉะนั้นกระบวนการคืนคลื่นเพื่อนำไปสู่การจัดสรรใหม่จะต้องเกิดขึ้น แต่ในช่วงเปลี่ยนผ่านเพื่อรอแผนแม่บท กสทช.ต้องแสดงให้สังคมเห็นถึงความโปร่งใสเพื่อยึดหลักธรรมาภิบาล เพื่อที่จะทำให้เกิดกรณีตัวอย่าง ส่วนรูปแบบจะออกมาแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับการพูดคุยในคณะผู้บริหาร

 “กรณีการขอคืนคลื่นกรีนเวฟคงรอดูมติสุดท้ายเพื่อความชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง เข้าใจว่าถ้ามติบอร์ดออกมาถูกใจกรีนเวฟคงไม่ฟ้อง แต่ถ้ามติบอร์ดออกมาไม่ถูกใจเขาก็สามารถใช้สิทธิ์ฟ้องศาลปกครองได้ก็ต้องไปสู้กันในชั้นศาล ซึ่งต้องดูว่าสุดท้ายมติเสียงส่วนใหญ่จะออกเป็นยังไง แต่เรายืนยันความตรงไปตรงมา ส่วนตัวมีความคิดเห็น มีจุดยืนที่ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่กลัวฟ้องก็สู้กันในชั้นศาล” สุภิญญา กล่าว