เจรจา 2 ฝ่ายล่ม ปธ.มูลนิธิเซนต์คาเบรียลฯ ยันจุดยืน กก.สภาเอแบคทุกคนลาออก
มูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลฯ พร้อมรับการใช้มาตรา 86 แห่ง พ.ร.บ. สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. 2546 ยันไม่ขอรับข้อเสนออื่นใด และจะไม่เจรจาต่อรองในวันที่ 14 มกราคม 2559
ตามที่ได้มีการนัดประชุมเพื่อเจรจาหาทางไกล่เกลี่ยระหว่างกรรมการสภาทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนที่ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.กระทรวงศึกษาธิการ จะตัดสินใจแก้ปัญหาในวันศุกร์ที่ 15 มกราคม 2559 ตามที่ได้มีการเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชนไปแล้วนั้น
วันที่ 13 มกราคม ศูนย์สื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ แจ้งว่า ภราดาสุรสิทธิ์ สุขชัย ประธานมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย ผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ในฐานะนายกสภามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ขอยืนยันข้อเสนอเดิมเพียงข้อเดียว เพื่อเป็นการรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นต่อสังคม จึงเสนอให้กรรมการสภาทุกคนลาออกเพื่อคืนอำนาจแก่เจ้าของผู้รับใบอนุญาตฯ นั่นก็คือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้จะไม่ประชุมเจรจารับข้อเสนออื่นใดอีก ในวันพฤหัสบดี ที่ 14 มกราคม 2559 ที่อาคารมูลนิธิเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทยตามที่ได้มีการรายงานข่าวผ่านสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า มีความพยายามจากบุคคลภายนอก ยื่นข้อเสนอแก่มูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลฯ หลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการให้ ภราดาสุรสิทธิ์ สุขชัย ลาออกจากตำแหน่งนายกสภา การเจรจาให้ภราดาบัญชา แสงหิรัญ ลาออกจากตำแหน่งอธิการบดี หรือแม้แต่การกล่าวอ้างแสดงสิทธิ “รักษาการอธิการบดี” ของนายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล ที่ไม่มีตำแหน่งนี้บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ. สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. 2546 หรือแม้กระทั่งการเสนอชื่อกรรมการสภาครึ่งหนึ่งเพื่อเป็นกรรมการสภาชุดใหม่เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ทางมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลฯ ได้พิจารณาแล้ว เห็นควรประกาศยืนยันจุดยืนเดิมเท่านั้น เพราะมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญเป็นสถาบันสถานศึกษาที่ดำเนินการอย่างถูกต้องตามใบอนุญาตกระทรวงศึกษาธิการเลขที่ 1/2515 มีนายบัญชา แสงหิรัญ เป็นผู้บริหารสถาบัน ตำแหน่งอธิการบดีตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2545 มีอำนาจบริหารและทำการแทนมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญในการดำเนินการกิจการใดๆ ตามนัยมาตรา 39 แห่งพ.ร.บ. สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2546 ตามที่ระบุในหนังสือรับรองที่ ศธ. 0505(6)/7149
ดังนั้นทางผู้รับใบอนุญาตฯ จึงยืนยันสิทธิความเป็นเจ้าของ สิทธิในการดูแลบริหารจัดการมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญของมูลนิธิเซนต์คาเบรียลฯ เท่านั้น
ส่วนกรรมการสภาที่ทางมหาวิทยาลัยได้เชิญจากภายนอกมานั้น เป็นเพียงการเชิญเพื่อมาเป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำเพื่อการพัฒนาทางการศึกษาเท่านั้น แต่สถานการณ์หาเป็นเช่นนั้นไม่ ผู้รับใบอนุญาตฯ จึงขอให้คณะกรรมการสภาฯ ทุกคน แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม แสดงความรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยการลาออกเพื่อคืนอำนาจแก่มูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทยเจ้าของผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หากไม่เป็นเช่นนั้น มูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลฯ ก็พร้อมที่จะยอมรับการใช้มาตรา 86 แห่ง พ.ร.บ. สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. 2546 ทันที โดยไม่ขอรับข้อเสนออื่นใด และจะไม่เจรจาต่อรองในวันที่ 14 มกราคม 2559 ด้วยเหตุแห่งข้อเท็จจริงในคำชี้แจงการกล่างอ้างการเป็นรักษาหารอธิการบดี ของนายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล ที่ยังไม่สามารถยืนยันสภาพตนได้อย่างถูกต้องตามหลักจารีตประเพณีและหลักนิติธรรม