ไร้วิจารณญาณ! ‘เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์’ เสนอข่าวปู โลกเบี้ยว ทาย ‘น้องมะลิ’ เป็นสาวห้าว
“ฟังข่าวช่อง 3 มีข่าวปู โลกเบี้ยว ที่ตอนนี้เป็นหมอดู ไปเยี่ยมปอ แล้วก็ทำนายอะไรไปเรื่อยเปื่อย แต่ที่แย่ คือ ดันมาทำนายอนาคตน้องมะลิ ว่าโตขึ้นแล้วจะผิดเพศ กลายเป็นสาวทอม เพราะสนิทกับพ่อมาก?! นี่เด็ก 2 ขวบ หมอเดานี่ก็น่าด่าในขั้นต้นแล้ว..."
“ฟังข่าวช่อง 3 มีข่าวปู โลกเบี้ยว ที่ตอนนี้เป็นหมอดู ไปเยี่ยมปอ แล้วก็ทำนายอะไรไปเรื่อยเปื่อย แต่ที่แย่ คือ ดันมาทำนายอนาคตน้องมะลิ ว่าโตขึ้นแล้วจะผิดเพศ กลายเป็นสาวทอม เพราะสนิทกับพ่อมาก?! นี่เด็ก 2 ขวบ หมอเดานี่ก็น่าด่าในขั้นต้นแล้ว
สื่อที่นำมาออกยิ่งน่าถูกตำหนิด้วย ตั้งแต่คนเขียนข่าว บก. และคนอ่านข่าว (กุ๊ก กฤติกา ที่ตัวเองก็มีลูกเหมือนกัน) ด้วย ‘วิจารณญาณ’ อยู่ที่ตรงไหน ถ้ามีคนมาอ่านข่าวว่า มีหมอดูทำนาย ว่าลูกตัวเองโตขึ้นแล้วจะผิดเพศ ตัวเองจะรู้สึกอย่างไร?”
เป็นถ้อยคำตำหนิสื่อของ ‘ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต’ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Warat Karuchit ภายหลังรับชมรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ทางช่อง 3 ออริจินัล และช่อง 3 HD เมื่อวันที่ 2 ม.ค.59 มีสรยุทธ สุทัศนะจินดา และกุ๊ก กฤติกา เป็นผู้ดำเนินรายการ
ทั้งนี้ เป็นปกติที่รายการจะมีการอัพเดทอาการป่วยของ ‘ปอ ทฤษฎี’ เป็นประจำ เนื่องจากเป็นนักแสดงนิสัยดีของวิกพระรามสี่ แต่ในมุมมองของนักวิชาการข้างต้นกลับเห็นว่า เนื้อหาข่าวในบางประเด็นไม่มีความจำเป็นต้องถูกนำเสนอหรือไม่ ดังเช่นกรณี ‘ปู โลกเบี้ยว’ ทำนายดวงชะตา ‘น้องมะลิ’ โตขึ้นจะเป็นสาวห้าว
การจัดรายการวันนั้น บางช่วงบางตอน ‘กุ๊ก กฤติกา’ เล่าข่าวว่า “ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วดวงน้องมะลิจะเป็นซุปตาร์เหมือนคุณพ่อหรือเปล่า คุณปูบอกว่า เรื่องนี้อาน้ำอ้อยพาไปดูหมอหลายคน ทุกคนบอกเหมือนกันว่า เด็กคนนี้จะพาให้ร่ำรวย คือ ตัวของปูเองก็เห็นว่าเป็นเด็กฉลาด เรียนรู้เร็ว
แต่คุณปูบอกไว้นิดหนึ่งว่า กลัวโตมาอาจไม่ได้เป็นผู้หญิง เพราะว่าดูแล้วจะเป็นเด็กห้าว ๆ ให้สังเกตจจากคาง คางจะเหมือนคุณตุ๋ย มนฤดี ยมาภัย และคุณเจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพูดไว้แค่นี้ล่ะกัน โตมาก็เป็นผู้หญิงจริง ๆ ก็เป็นไปได้ แต่ดูแล้วอาจเป็นแนวหญิงห้าว ๆ สาวแก่น ๆ”
หากรับชมแบบผ่าน ๆ ไม่คิดอะไร ข่าวชิ้นนี้เปรียบได้กับ ‘สีสัน’ ที่ตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของผู้ชม นอกเหนือจากความคืบหน้าอาการป่วยของ ‘ปอ ทฤษฎี’ ซึ่งเป็นแก่นสาระสำคัญของเรื่อง แต่เมื่อนำมาผูกโยงเข้ากับ ‘ดวงชะตา/โชคลาง’ ที่คนไทยเชื่อถือ มั่นใจจะขายได้แน่นอน
โดยเฉพาะเกี่ยวข้องกับ ‘น้องมะลิ’ ซึ่งยอมรับว่า ลูกสาวของพระเอกดังผู้นี้ กำลังอยู่ในความสนใจของสื่อมวลชน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีการนำเสนอข่าว ‘ปู โลกเบี้ยว’ ทำนายดวงชะตา
เชื่อว่าจะไม่เป็นประเด็น หากการทำนายดวงชะตาที่ว่านั้น เป็นไปในลักษณะสร้างสรรค์กับเด็ก มิใช่หยาบโลน เลอะเทอะ ประหนึ่งจ้องจะเกาะกระแส หรือสร้างกระแส อย่างไร้จิตสำนึก หรือวิจารณญาณที่ดีพอ
ถามว่า การนำเสนอข่าวเช่นนี้มีความจำเป็นหรือไม่? และหากไม่นำเสนอจะทำให้สารที่ส่งออกไปเปลี่ยนแปลงหรือไม่
คำตอบ คือ ไม่!!!! ไม่มีความจำเป็นต้องนำเสนอข่าวในลักษณะนี้ เพราะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ชม มีประเด็นอีกมากมายเกี่ยวกับ ‘ปอ ทฤษฎี’ ที่นำเสนอได้ และสร้างสรรค์ แต่ขึ้นอยู่กับจะเลือกนำเสนอหรือไม่เท่านั้น
ทั้งนี้ ต่อให้ไม่นำเสนอข่าวลักษณะนี้ สารที่ต้องการสื่อออกไปยังผู้ชมก็ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเชื่อว่า ผู้ชมต้องการทราบความคืบหน้าอาการป่วยของดารานักแสดงที่พวกเขารักมากกว่า
จึงเห็นด้วยกับถ้อยคำตำหนิของ ‘ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต’ ทุกประการ แม้ไม่ใช่ความผิด แต่ไม่เหมาะสม ในการทำนายดวงชะตาเด็ก ว่าเติบโตขึ้นจะมีเพศสภาพแบบใด เพราะพฤติกรรมเช่นนั้นถือเป็นการดูถูกดูแคลน
ฉะนั้นจะกล่าวโทษ ‘ปู โลกเบี้ยว’ ฝ่ายเดียวไม่ถูก ต้องตำหนิสื่อในฐานะผู้นำเสนอ ไล่ระดับชั้นตั้งแต่ ผู้สื่อข่าว บก. ผู้ดำเนินรายการ ที่ขาดวิจารณญาณ ความรอบคอบ อย่างไม่น่าให้อภัย
ทั้งนี้ หากใครรับชมจะสังเกตว่า ‘สรยุทธ สุทัศนะจินดา’ จะทำหน้าที่กล่าวตบท้ายหลังจาก ‘กุ๊ก กฤติกา’ เล่าข่าวจบว่า “ก็ดูเด็กครับ อย่าเพิ่งไปคิดอะไร”
ทว่า การกล่าวตบท้ายดังกล่าวนั้น อาจเป็นกลยุทธ์การเล่าข่าวที่หวังสร้างภาพลักษณ์การนำเสนอให้เเลดูถูกต้องก็เป็นได้
เเละแม้จะช่วยให้ผู้ชมฉุกคิด ไม่ให้หลงงมงายไปกับคำทำนายนั่น แต่ก็สายเกินไปหรือไม่ ทางที่ดีควรใช้ความเป็นมืออาชีพ คัดกรองข่าวสารที่จะนำเสนอก่อนทุกครั้งมากกว่า
‘มืออาชีพ’ ผิดพลาดได้ แต่พลาดบ่อยเข้า มีหวังกลายเป็นรายการเกรดตก ก็ด้วยเพราะคิดจะเสนออะไรตามใจฉัน โดยไม่คำนึงถึงคุณค่าข่าว
ปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป มีหวังวงการสื่อคงเเย่ลงเรื่อย ๆ เป็นเเน่
เอวัง .
อ่านประกอบ:ครอบครัวใจชื้น 'ปอ ทฤษฎี' อาการทรงตัว ร่างกายอยู่ในช่วงฟื้นตัว
ภาพประกอบ:เว็บไซต์มติชน-yornlang.blogspot.com