12 ปีปล้นปืน...อาวุธร้ายแรงอีก 1,272 กระบอกอยู่ในมือใคร?
ปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เต็มไปด้วยเหตุรุนแรงรายวันรูปแบบต่างๆ เนิ่นนานถึง 12 ปีนั้น มีจุดเริ่มต้นจากปฏิบัติการปล้นปืนครั้งใหญ่จากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือค่ายปิเหล็ง อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 หรือวันนี้เมื่อ 12 ปีที่แล้ว
ครั้งนั้นมีอาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และปืนพกสั้นขนาด 11 มม.ถูกปล้นไปมากถึง 413 กระบอก
แต่ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา ยังคงมีปืนถูกปล้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากเหตุโจมตีฐานปฏิบัติการ เหตุซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อส. หรือแม้แต่เหตุฆ่าครู ที่คนร้ายมักปล้นชิงเอาอาวุธปืนประจำกายไปด้วย ทำให้จนถึงปัจจุบันมีอาวุธปืนถูกปล้นไปแล้วมากถึง 2,076 กระบอก โดยฝ่ายความมั่นคงติดตามคืนมาได้เพียง 804 กระบอกเท่านั้น
เหตุปล้นปืนล็อตใหญ่ตลอด 12 ปีไฟใต้ เกิดขึ้น 2 ครั้ง คือจากค่ายปิเหล็ง เมื่อปี 2547 จำนวน 413 กระบอก ปัจจุบันติดตามปืนคืนได้ 98 กระบอก และเหตุโจมตีฐานพระองค์ดำ กองร้อยทหารราบที่ 15121 อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ในปี 2554 ปล้นปืนไป 65 กระบอก ปัจจุบันติดตามคืนได้ 20 กระบอก
ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้เปิดปฏิบัติการปิดล้อม ตรวจค้น จับกุมผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ส่วนหนึ่งก็เพื่อติดตามหาปืนที่ถูกปล้นไป โดยตลอด 12 ปีมีการปิดล้อมตรวจค้นทั้งสิ้นเกือบ 8 หมื่นครั้ง กว่า 1 แสน 3 หมื่นเป้าหมาย แต่ยังติดตามปืนคืนได้เพียง 804 กระบอก
เมื่อยังเหลือปืนในมือผู้ก่อความไม่สงบอีกถึง 1,272 กระบอก คำถามก็คือไฟใต้จะดับมอดลงได้อย่างไร