ที่สุดข่าวจ่ายหนัก! แห่งปี รัฐเสียค่าโง่เซ่นคลองด่าน 9 พันล.
การที่รัฐบาลต้องชำระเงินให้กับบริษัทเอกชน ในโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านนั้น มือกฎหมายรัฐบาลต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เหตุที่ชะลอ หรือยื้อต่ไปไม่ได้ เพราะไม่อยากเสียดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2557 ศาลปกครองสูงสุด พิพากษายืน ให้กรมควบคุมมลพิษ แพ้คดี โดยให้ปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ในการชำระเงินค่าจ้างในการออกแบบและก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย โครงการก่อสร้างระบบรวบรวมและ กำจัดน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดสมุทรปราการ หรือ โครงการคลองด่าน เป็นเงินจำนวน 9,618 ล้านบาท ให้แก่กิจการร่วมค้า เอ็นวีพีเอสเคจี (NVPSKG) ภายใน 90 วันนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด
จากคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการนี้ ทำให้วันที่ 17 พฤศจิกายน 2558 คณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อนุมัติงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 เพื่อนำไปชำระให้แก่ผู้ร้องตามคำพิพากษาของ ศาลปกครองสูงสุด (กรณีคลองด่าน) รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 9.8 พันล้านบาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
การที่รัฐบาลต้องชำระเงินให้กับบริษัทเอกชน ในโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านนั้น มือกฎหมายรัฐบาลต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เหตุที่ชะลอ หรือยื้อต่ไปไม่ได้ เพราะไม่อยากเสียดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ซึ่งไม่ใช่เงินเล็กน้อย
งวดแรกรัฐบาลจึงควักจ่ายไปทันทีกว่า 3 พันล้าน
ซึ่งที่ผ่านมาสังคมไทย นอกจากยกโครงการนี้ให้เป็นคดีมหากาพย์การทุจริตครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว ปี 2558 ยังมีการนำเงินภาษีประชาชนไปจ่ายค่าโง่ซ้ำซากอีกด้วย
ปี 2559 จึงน่าจับตาการทำหน้าที่ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมควบคุมมลพิษ) ซึ่งรับผิดชอบการดำเนินคดีที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการฯ นี้ จะสามารถรักษาผลประโยชน์สูงสุดของทางราชการเร่งรัดการดำเนินการเพื่อให้บุคคลที่รับผิดชอบหรือเกี่ยวข้องชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นได้หรือไม่