ป.ป.ช.เชือดอดีต ผช.ผู้พิพากษาศาลฎีการับสินบน-ฟัน 7 รายรวดจงใจซุกทรัพย์สิน

ป.ป.ช.เพิ่งชี้มูลอาญา! อดีต ผช.ผู้พิพากษาศาลฎีการับสินบน หลังถูกโทษไล่ออกตั้งแต่ปี’42-43 ส่ง อสส. ฟ้องแล้ว – ฟัน 7 รายรวดจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ‘ผช.เลขาผู้ว่าฯ กทม.-กก.ททท.’ โดนด้วย

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดนายเจริญโรจน์ ลั่นทมทอง หรือรัตนวิจัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา กรณีเรียกรับเงินจากจำเลยในคดีอาญา และเขียนความเห็นเพื่อช่วยเหลือจำเลยมิให้ต้องรับโทษ

คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า นายเจริญ มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และได้ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว สำหรับการดำเนินการทางวินัยนั้น สำนักงานศาลยุติธรรม ได้มีคำสั่งลงโทษ ไล่นายเจริญโรจน์ ออกจากราชการ ในการกระทำความผิดนี้ เหมาะสมแก่กรณีแล้ว จึงไม่มีเหตุจำเป็นต้องส่งเรื่องไปยังประธานคณะกรรมการตุลาการเพื่อลงโทษซ้ำอีก แต่ให้มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยสำนักข่าวอิศราถึงกรณีนี้ว่า คดีนี้เป็นคดีเก่าตั้งแต่สมัยนายสุทัศน์ เงินหมื่น ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในสมัยรัฐบาล นายชวน หลีกภัย ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี และมีมติไล่ออกผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีการายนี้ ไปตั้งแต่ปี 2542-2543 แล้ว จึงน่าแปลกใจว่าทำไมการทำงานของ ป.ป.ช.จึงมีความล่าช้าแบบนี้

(อ่านประกอบ : ป.ป.ช.ตั้งอนุฯสอบอดีตผช.ผู้พิพากษาฎีกา"รับสินบน" ช่วยคดีไม่ต้องรับโทษ)

นอกจากนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังชี้มูลความผิดกรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินอีก 7 คดี ได้แก่

1.น.ส.ศิรินันท์ ศิริพานิช ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี โดยส่งคำร้องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้ น.ส.ศิรินันท์ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 119 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ด้วย

2.น.ส.เมธาวี ตันวัฒนะพงษ์ กรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกรรมการบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด กรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี โดยส่งคำร้องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้ น.ส.เมธาวี ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 119 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ด้วย

3.นายสุวัฒน์ อินทร์เกต รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อุโลกสี่หมื่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี กรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี โดยส่งคำร้องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้ นายสุวัฒน์ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 119 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ด้วย

4.นายกมลเทพ ผาสุก เลขานุการนายก อบต.วังกรด อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร กรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี โดยส่งคำร้องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้ นายกมลเทพ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 119 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ด้วย

5.นายกอหรี แสล่หมัน รองนายก อบต.คลองยาง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ กรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี โดยส่งคำร้องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้ นายกอหรี ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 119 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ด้วย

6.นายยูหนีด นายหนู รองนายก อบต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล กรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี โดยส่งคำร้องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้ นายยูหนีด ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 119 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ด้วย

7.นายบาด๊อน ปานแขวง เลขานุการนายก อบต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล กรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี โดยส่งคำร้องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้ นายบาด๊อน ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 119 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ด้วย

หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก dailynews