‘บิ๊กตู่’ เปิดแถลงผลงาน 1 ปี ยันคนอยู่กับป่าได้ ให้ ‘พีมูฟ’ หยุดเดินขบวนที่ดิน
‘พล.อ.ประยุทธ์’ กล่าวเปิดแถลงผลงานรัฐบาลรอบ 1 ปี ขอโทษเข้ามาคุมอำนาจ จะใช้เวลาที่มีอยู่ให้คุ้มค่า ยันไม่ยึดที่ดินทำกินชาวบ้าน เรียกร้อง ‘พีมูฟ’ ยุติเดินขบวน จะจัดระเบียบ ให้คนอยู่กับป่า พร้อมขับเคลื่อน ปท.ตามยุทธศาสตร์ 20 ปี
วันที่ 23 ธันวาคม 2558 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวเปิดแถลงผลการดำเนินงานรัฐบาลรอบ 1 ปี ตอนหนึ่งระบุถึงประเด็นเศรษฐกิจว่า ตัวเลขจีดีพีไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันเศรษฐกิจดีหรือไม่ แต่สิ่งที่ยืนยันได้ คือ ความพึงพอใจของประชาชน มีการจับจ่ายใช้สอยพอเพียง ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทั้งนี้ ถ้ามองเฉพาะตัวเลขจีดีพีหรือการส่งออกนำเข้า ซึ่งเป็นกฎกติกาของโลก โดยนำตัวเลขเหล่านี้เป็นบรรทัดฐาน มองเหมือนกันหมด ซึ่งบางครั้งไม่เหมือนกัน เนื่องจากอาเซียน ยุโรป หมู่เกาะ อิสลาม หรือแอฟริกา มีความแตกต่างกัน จึง ต้องแยกออกมา และทำให้ประชาคมโลกเข้าใจว่า เรามีความแตกต่างกัน
ฉะนั้นมุมมองและตัวชี้วัดต่าง ๆ อาจต้องเปลี่ยนแปลงในอนาคต ซึ่งจะนำความคิดเห็นดังกล่าวนำเสนอในกลุ่มประเทศ G77 ปีนี้ ว่าจะเดินหน้า 134 ประเทศอย่างไร ให้มีอำนาจการต่อรอง เจรจา พูดคุย
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า วันนี้หากมองว่าเศรษฐกิจดี นำเงินใช้จ่าย ต้องถามว่าเงินเหล่านี้มาอย่างไร มาถูกหรือผิด ถ้าเราเริ่มจากสิ่งที่ผิดจะเป็นอย่างที่ผ่านมา วันนี้จึงต้องจัดระเบียบทุกอย่าง ซึ่งทำให้ประชาชนเดือดร้อนแน่นอน เพราะหาเงินไม่ได้อย่างเดิม มีคนรวยมาก ใช้มาก ถามว่าเงินมาจากไหน สิ่งเหล่านี้ต้องสร้างฐานราก
เราต้องมองทุกอย่างว่า 20 ปีข้างหน้า จะทำให้ประเทศไทยเป็นอย่างไร หรือต้องการเป็นประชาธิปไตยเหมือน 83 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยต้องเป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว
“รัฐบาลเหลือเวลาอีก 1 ปี 6 เดือน ซึ่งการปฏิรูประยะที่ 1 ดำเนินการแล้ว แต่ท่านไม่สนใจ กลับมองเฉพาะเศรษฐกิจอย่างเดียวว่า มีเงินจับจ่ายใช้สอย หรือตัวเลขเศรษฐกิจโลก แต่ไม่ได้มองในส่วนที่ชดเชยมา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว และว่า แม้รายได้ของประเทศหายไปจริง แต่ได้กลับมาจากการท่องเที่ยว แต่ไม่ได้ดูเรื่องเหล่านี้เลย
ดังนั้นสื่อต่าง ๆ ควรทำความเข้าใจด้วย ต้องคิดให้ซับซ้อน ไม่ใช่ 1 บวก 1 เท่ากับ 1 เสมอไป แต่อาจเท่ากับ 3 หรือ 4 ก็ได้ ด้วยการทำงานแบบบูรณาการ
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาประเทศต้องให้ความสำคัญเรื่องการปฏิรูป โดยดูจากความสลับซับซ้อนของปัญหา ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาหลัก ปัญหารอง ที่แฝงเข้ามา บางเรื่องมี 10 กว่าเรื่อง ซ่อนอยู่ในเรื่องเดียว เฉพาะกฎระเบียบว่าด้วยการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ไม่รายงาน และไร้การควบคุม หรือ ไอยูยู (Illegal, Unreported and Unregulated Finishing: IUU) มีการเชื่อมโยงไปถึงการค้ามนุษย์ ดังนั้นต้องรื้อการบริหารจัดการ จัดระเบียบทั้งหมด
ถามว่า สิ่งเหล่านี้คือการปฏิรูปหรือไม่ จึงต้องแก้ไขปัญหาให้ได้ตามหลักการ เหตุผล และข้อเท็จจริง ต้องแก้ไขปัญหาหนึ่งเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหนึ่ง
พล.อ.ประยุทธ์ ยังยกตัวอย่างนโยบายคืนพื้นที่ป่าประมาณ 40 ล้านไร่ เชื่อว่าแต่ละปีจะคืนพื้นที่ป่าไม่เกิด 2 แสนไร่ ถามว่าอีกกี่ปีจะคืนได้ทั้งหมด ดังนั้นควรนำหลักรัฐศาสตร์มาใช้ พื้นที่ใดมีการบุกรุก มีสภาพป่าเสื่อมโทรม คนอาศัยอยู่ ต้องจัดระเบียบให้มีที่ดินทำกิน แต่โฉนด หรือโฉนดชุมชน เลิกออกทั้งหมด แต่อยู่อาศัยได้ มิฉะนั้นจะนำคนกว่า 20 ล้านคน ไปอยู่ที่ไหน จึงควรสนับสนุนป่าชุมชน ป่าเศรษฐกิจ ให้คนอยู่อาศัยร่วมกับป่า
“วันนี้มีการเดินขบวนเรียกร้องเรื่องที่ดินของกลุ่มพีมูฟ กรุณากลับไปจังหวัด อย่าเดินมา ท่านอยู่ตรงไหน อยู่ไปก่อน ไม่ได้เอาคืน แต่จะจัดระเบียบใหม่”
สำหรับการปฏิรูปนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ต้องเสียประชาธิปไตย ท่านไม่ได้เสีย ผมเสีย และผมทำให้ประเทศเสียหาย ท่านก็ต้องเสียด้วย ผมต้องขอโทษที่เข้ามาเอง แต่ใช้เวลาที่มีอยู่ให้ได้ ส่วนนโยบายการปฏิบัติขับเคลื่อน การตรวจสอบทุจริต เจอต้องนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แม้กระทั่งโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล แต่ไม่อยากพูดถึง เพราะยังไม่จบ
“หลายประเทศปฏิรูปมาเป็นสิบปี ยังไม่เสร็จ นี่ปีเดียวถามว่าเสร็จแล้วหรือไม่ เคยคิดหรือไม่ว่า อนาคตจะเกิดอะไรขึ้น มีอะไรเสร็จปีเดียวบ้าง”
“แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ต้องดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติทุก 5 ปี ให้รัฐบาลชุดใหม่ขับเคลื่อนต่อเนื่องเชื่อมโยง ให้ดูแลประชาชน 70 ล้านคนได้ ไม่ใช่ดูแลเฉพาะคนในพรรคการเมือง หรือคนลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเท่านั้น โดยจะเขียนหลักการกว้าง ๆ เพื่อวางเป้าหมายว่า อีก 20 ปีข้างหน้า เช่น ประเทศต้องการเศรษฐกิจ หรือประชาชนแบบใด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว .
ภาพประกอบ:www.newsplus.co.th