ละเมิดสิทธิบ่อยครั้ง! ครม.บิ๊กตู่ สั่ง 'ตร.' ทบทวนแนวปฏิบัตินำผู้ต้องหาแถลงข่าว
เผยมติ ครม. 'ประยุทธ์' สั่งการให้ 'ตร.' ทบทวนแนวทางปฏิบัตินำตัวผู้ต้องหาแถลงข่าวจ้อสื่อ รวมถึงจัดทำแผนประทุษกรรม ภายใน 30 วัน หลังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ชงเรื่องเสนอโดยยกเหตุกรณี สน.ทองหล่อประกอบ ระบุชัดเคยทำเรื่องไปแล้ว แต่ยังเกิดเหตุขึ้นบ่อยครั้ง
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ในช่วงปลายเดือนพ.ย.2558 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติรับทราบรายงานผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน และรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิในกระบวนการยุติธรรม กรณีขอความช่วยเหลือเรื่องคดีความ และกรณีกล่าวอ้างว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ แถลงข่าวการจับกุมทำให้ได้รับความเสียหายต่อเกียรติยศและชื่อเสียง ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับไปพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
โดยมีข้อเสนอแนะ ดังนี้
1. สำนักงานตำรวจแห่งชาติควรให้มีการเน้นย้ำและกำชับไปยังหน่วยงานในสังกัดเพื่อให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และหนังสือสั่งการของหน่วยงานอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในการนำตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาไปนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ และการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
2. สำนักงานตำรวจแห่งชาติควรกำหนดแนวทางในการหาวิธีการทดแทนในการนำตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาไปนำชี้ที่เกิดเหตุ หรือการจัดทำแผนประทุษกรรม เพื่อเป็นประโยชน์ในการแสวงหาพยานหลักฐาน และการดำเนินคดี รวมทั้งเพื่อป้องกันมิให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าว เป็นผลมาจากการที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้รับเรื่องร้องเรียนเป็นหนังสือลงวันที่ 27 ต.ค.2557 จากผู้ร้องที่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แดน 1 ในคดีลักทรัพย์
ระบุว่า เดิมเมื่อวันที่ 5 ม.ค.2557 เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้ส่งตัวผู้ร้องเข้ารับการรักษาตัวที่สถาบันแห่งหนึ่ง กรณีที่ผู้ร้องป่วยเป็นโรคไบโพล่าร์ตามคำสั่งศาลอุทธรณ์ ผู้ร้องเข้ารับการรักษาตัวไ้ดประมาณ 1 เดือน และพบเห็นเจ้าหน้าที่สถาบันแห่งนี้ ทำร้ายผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาคนอื่นๆ รวมทั้งมีการกักขังให้อยู่ภายในอาคารทั้งวัน ทำให้ผู้ร้องเกิดอาการหวาดระแวง จึงหลบหนีออกจากสถาบันโดยไม่กลับเข้ารักษาตัว
ต่อมา ผู้ร้องได้ถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับ เนื่องจากผิดเงื่อนไขของศาลอุทธรณ์ ระหว่างการหลบหนี ผู้ร้องมีอาการป่วยกำเริบ เนื่องจากขาดยาและไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง จึงไปก่อคดีลักทรัพย์อีกหลายคดี และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ จับกุมดำเนินคดี
ผู้ร้องอ้างว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม เป็นเหตุให้สื่อมวลชนนำข้อมูลจากการแถลงข่าวออกเผยแพร่สู่สาธารณชน ทำให้ผู้ร้องได้รับความเสียหายต่อเกียรติยศและชื่อเสียง จึงร้องเรียนเพื่อขอให้ตรวจสอบ
เบื้องต้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน พิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ร้องนั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล รวมทั้งสิทธิของบุคคลในเกียรติยศและชื่อเสียง จึงถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ที่ผ่านมาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เคยมีรายงานผลการพิจารณาคำร้องถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ปรับปรุงการดำเนินการเรื่องนี้ให้เป็นไปตามข้อปฏิบัติทางกฎหมาย แต่ก็ยังเกิดเหตุขึ้นบ่อยครั้ง จึงเห็นสมควรเสนอ ครม. พิจารณาเรื่องนี้เพื่อแจ้งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันมิให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อไป
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก Google