"ปวีณ"เขย่า สตช.ลามถึงรัฐบาล

การแถลงตอบโต้ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อย่างรุนแรง กรณีออกมาให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ แฉซ้ำอิทธิพลของเครือข่ายค้ามนุษย์ในประเทศไทย จนทำให้เขาในฐานะอดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาต้องลาออกจากราชการ และกำลังทำเรื่องขอลี้ภัยไปอยู่ที่ประเทศออสเตรเลียนั้น 

          กำลังกลายเป็นคำถามที่สังคมให้ความสนใจว่า การข่มขู่คุกคาม พล.ต.ต.ปวีณ รุนแรงถึงขนาดอยู่ในประเทศไทยไม่ได้จริงหรือ

          หากย้อนพิจารณาจากคำให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.ต.ปวีณ ผ่านสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ กับข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการที่เล็ดลอดออกมาจากทีมสอบสวน สรุปได้ว่า ประเด็นที่ พล.ต.ต.ปวีณ หนักใจและคิดว่าถูกแทรกแซงการทำงาน รวมถึงถูกกลั่นแกล้งจากผู้บังคับบัญชานั้น มีอยู่ 4 ประเด็น คือ

          หนึ่ง การถูกข่มขู่โดยตรงจากกลุ่มอิทธิพลค้ามนุษย์ที่ถูกออกหมายจับดำเนินคดี ทั้งนักการเมืองท้องถิ่น และคนมีสี โดยเฉพาะนายทหารระดับสูง ซึ่งเพื่อนร่วมรุ่นของนายทหารผู้นี้มีอำนาจอยู่ในภาคใต้ โดยเฉพาะสามจังหวัดชายแดน

          สอง ข้อมูลการข่มขู่พยานปากสำคัญจากกลุ่มผู้ต้องหาในคดีซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้มีอิทธิพล ทำให้พยานบางคนไม่กล้าเข้าให้ปากคำ และผู้ต้องหาที่เป็นคนมีสีบางคน ไม่ยอมเข้าพบพนักงานสอบสวน

          สาม การมอบตัวของผู้ต้องหาสำคัญบางราย ที่เข้ามอบตัวกับนายตำรวจระดับสูงในกรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันมีอำนาจอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

          สี่ การถูกย้ายระนาบไปปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่อิทธิพลของเครือข่ายค้ามนุษย์ และเคยเป็นพื้นที่รับราชการของผู้ต้องหาคนสำคัญซึ่งเป็นนายทหารระดับสูง ขณะที่ตำรวจในทีมสอบสวนคดีค้ามนุษย์ ไม่มีใครได้ดำรงตำแหน่งที่ดีขึ้นเลยแม้แต่คนเดียว

          ทั้ง 4 ประเด็นนี้ เป็นเหตุปัจจัยให้ พล.ต.ต.ปวีณ ตัดสินใจยื่นใบลาออกจากราชการ และจบลงด้วยการพาครอบครัวเดินทางออกนอกประเทศ

          มีข้อสังเกตที่น่าสนใจก็คือ สังคมรับรู้การลาออกของ พล.ต.ต.ปวีณ ว่าเขาถูกบีบให้ลาออก แม้ภายหลังจะพยายามยื่นขอทบทวนการลาออก แต่ผู้มีอำนาจก็ยืนกรานให้เขาออกจากราชการ ซึ่งสวนทางกับข้อมูลที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผ่านสื่อเมื่อวันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม ที่ว่าพยายามแก้ปัญหาและหาตำแหน่งใหม่ให้ พล.ต.ต.ปวีณ

          แม้ข้อมูลที่ออกมาจากทั้งสองฝ่ายจะไม่ตรงนัก แต่ประเด็นที่น่าคิดก็คือ เรื่องราวและคำให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.ตงปวีณ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยและรัฐบาลเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์อย่างแน่นอน ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไทยถูกสหรัฐอเมริกาจัดอันดับต่ำสุดเรื่องความพยายามในการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ และกำลังถูกกีดกันทางการค้าจากสหภาพยุโรป

          ฉะนั้นท่าทีของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มุ่งให้ข่าวตอบโต้ พล.ต.ต.ตรี ปวีณ อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีนักสำหรับสถานการณ์นี้ เพราะผลงานการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ต่างหากที่จะเป็นเครื่องการันตีความจริงใจของรัฐบาลให้ปรากฏต่อประชาคมโลก

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บรรยายภาพ : พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ (แฟ้มภาพอิศรา)