ผบ.ตร.แถลงโต้"ปวีณ" อย่าเอาองค์กรมาขาย อย่าทำร้ายประเทศ
นายตำรวจระดับสูง ทั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ดาหน้าออกมาตอบโต้ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮิงญาว่าทำลายประเทศชาติ หลังไปสัมภาษณ์สื่อต่างประเทศเกี่ยวกับปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทย
พล.ต.ต.ปวีณ ยังคงให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากสื่อโทรทัศน์ในออสเตรเลีย สื่อออนไลน์ และล่าสุดคือ บีบีซี กรณีที่เขากำลังทำเรื่องขอลี้ภัยทางการเมืองที่ประเทศออสเตรเลีย ภายหลังต้องลาออกจากราชการด้วยเหตุผลที่เขาระบุว่าถูกข่มขู่จากแก๊งค้ามนุษย์ที่เขาจับกุมดำเนินคดี ซี่งล้วนเป็นผู้มีอิทธิพลและเชื่อมโยงกับคนมีสีที่มีอำนาจ โดยที่ผู้บังคับบัญชาไม่ปกป้อง ซ้ำยังย้ายเข้าไปอยู่ในพื้นที่อันตรายอย่างสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
เมื่อวันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม 2558 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมทีมโฆษก ได้ตั้งโต๊ะแถลงเรื่องนี้ และตอบโต้ พล.ต.ต.ปวีณ อย่างดุเดือด โดยบอกว่าไม่ทราบเหตุผลว่าทำไม พล.ต.ต.ปวีณ ต้องขอลี้ภัย เพราะเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ โดยส่วนตัวไม่รู้ว่ามีเรื่องการเมืองเข้ามาแอบแฝงหรือไม่ และการทำแบบนี้ถือว่าเป็นการทำร้ายประเทศหรือไม่ ที่ออกมาให้ข่าวในลักษณะว่า ตำรวจเลว ทหารเลว ซึ่งไม่ทราบว่าหมายถึงใคร จริงๆ อยากขอให้ระบุชื่อมา จะได้ฟ้องกันถูกตัว สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่มีความขัดแย้งอยู่แล้ว
ส่วนกรณีการแต่งตั้งโยกย้ายที่ พล.ต.ต.ปวีณ อ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะต้องไปปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ผบ.ตร.บอกว่า มีการพูดคุยกันก่อนหน้านี้แล้วว่าอยากจะไปทำงานในส่วนไหน
“บางครั้งท่านปวีณก็พูดไม่หมด ถ้าพูดหมดสังคมคงไม่สับสน การแต่งตั้งโยกย้ายผมดูแลคนเดียว ก่อนแต่งตั้งมีการสอบถามไปยังผู้บัญชาการแต่ละภาคแล้วว่าใครจะปรับย้ายใคร ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.ภาค 8)ก็ชัดเจน ท่านไม่เอา พล.ต.ต.ปวีณ ถ้ายัดเยียดเขาไป ทุกอย่างก็พัง อยู่ไม่ได้”
“ตอนนั้ น ผบช.ภาค 8 ย้าย 2 คน หนึ่งในนั้นมี พล.ต.ต.ปวีณ ผมต้องหาที่ให้อยู่ ในเมื่อผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดไม่รับ ก็เป็นอำนาจของท่าน แต่วันนี้ออกมาโวยวาย มีวินัยหรือเปล่า คนอื่นก็ทำคดีนี้ แต่ไม่เห็นมีใครโวยวาย ไม่มีใครถูกข่มขู่ จึงอยากให้ พล.ต.ต.ปวีณ ระบุชื่อมาเลยจะได้ดำเนินการ”
“เรื่องโรฮิงญาจะใหญ่อะไรนักหนา อย่าเอาองค์กรมาขาย อย่าทำร้ายประเทศ เรื่องส่วนตัวคือเรื่องส่วนตัว ท่านจะคาดหวังหรือผิดหวังอะไรไม่รู้ ผมไม่เคยมีความขัดแย้งอะไรกับท่าน ถ้าสิ่งที่ พล.ต.ต.ปวีณ พูดมาไม่เป็นเรื่องจริง อาจจะเข้าข่ายหมิ่นประมาทได้ ผมไม่ทราบพูดอย่างนี้เพราะอะไร” ผบ.ตร.ระบุ
และว่า การเสนอย้ายไปศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) เนื่องจากผู้บัญชาการ ศชต.ยอมรับ ต้องการให้ พล.ต.ต.ปวีณ ไปดูแลสำนวนคดีซึ่งมีเยอะมากในพื้นที่ ส่วนเรื่องที่ว่าเสี่ยงอันตราย ไม่ทราบว่าพูดอย่างนี้แล้วผู้ใต้บังคับบัญชาคนอื่นๆ จะอยู่ได้อย่างไร เพราะคนอื่นก็ลงไปทำงาน บางคนไม่อยากกลับด้วยซ้ำ
พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชา ไม่ได้นิ่งนอนใจเกี่ยวกับปัญหาของ พล.ต.ต.ปวีณ และได้เรียกตัว พล.ต.ต.ปวีณ มาพูดคุยให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้เหตุผลในการแต่งตั้งว่า เพื่อปรับภาพรวมการทำงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้มีประสิทธิภาพ เพื่อตอบสนองการทำงานด้านต่างๆ ของประเทศ ซึ่ง พล.ต.ต.ปวีณ ก็เข้าใจดี ส่วนเรื่องการถูกคุกคามนั้น ถ้าคิดว่าไม่ได้รับความปลอดภัย ควรนำเรียนให้ ผบ.ตร.ได้ทราบ เพราะจะได้แก้ปัญหาให้
ผบช.ภาค 8 ถามเป็นคนไทยหรือเปล่า
ด้าน พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.ภาค 8) รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ตอนบน อดีตผู้บังคับบัญชาของ พล.ต.ต.ปวีณ เปิดแถลงข่าวเช่นกันว่า พล.ต.ต.พลตำรวจตรี ปวีณ เป็นตำรวจที่ไร้วินัย ไม่เชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา และพูดความจริงไม่หมด ทำให้ประเทศไทยเสียหาย ที่สำคัญเป็นถึงตำรวจชั้นผู้ใหญ่เมื่อพูดในลักษณะนี้ ต่างประเทศจะมองอย่างไร ทำให้ตำรวจระดับใต้บังคับบัญชาเป็นหมื่นคนเสียกำลังใจ อยากถามว่า พล.ต.ต.ปวีณ เป็นคนไทยหรือเปล่า
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. (แฟ้มภาพอิศรา)