ไม่มีใครจุดไฟเผาบ้านตัวเอง! คำต่อคำประธาน กกต.แจงปมล้วงลูก-ทุจริต
“…ปกติมันไม่ใครหรอกนะที่ออกจากบ้านตัวเอง แล้วมาจุดไฟเผาบ้านตัวเอง ออกมาพูดจาโดยใช้โมหะจริต โทสะจริต มันเป็นเรื่องไม่ดี ผมก็ต้องอดทน อดกลั้น อดทนต่อสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้น ผมต้องนำพาองค์กรให้ก้าวผ่านความขัดแย้ง แต่คนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ มันมีแต่ผลเสีย เชื่อผมเหอะ คอยดูผลเสียจะเกิดกับตัวของท่านเอง…”
หลัง “คณะกรรมการการเลือกตั้ง” (กกต.) มีมติ 4 ต่อ 1 ไม่ให้ “ภุชงค์ นุตราวงศ์” เลขาธิการ กกต. ผ่านการประเมิน ส่งผลให้ต้องเลิกจ้าง “ภุชงค์” ในตำแหน่งเลขาธิการกกต.ไปโดยปริยาย
แต่ทุกอย่างไม่จบเมื่อ “ภุชงค์” เปิดหน้าชนออกมาแฉว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นใน “กกต.” โดยพาดพิงไปยัง “คณะกรรมการ กกต.บางคน” พร้อมระบุว่าคนในสำนักงานกกต.ไม่มีความสุขกับการทำงาน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ต่อสายสอบถามข้อเท็จจริงไปยัง “ศุภชัย สมเจริญ” ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง-ข้อกล่าวหา ที่ “ภุชงค์” ออกมาเปิดเผยให้สังคมรับทราบ
@สาเหตุที่เสียงส่วนใหญ่ประเมินนายภุชงค์ไม่ผ่าน
เป็นความเห็นของ กกต.เสียงส่วนใหญ่ ผมเป็นแค่คนเดียวที่ประเมินให้ท่านผ่าน ก็ต้องไปถามกรรมการ กกต.คนอื่นว่าทำไมถึงไม่ให้ผ่าน ผมให้คำตอบไม่ได้หรอก ตอนนี้ก็แค่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับกกต. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ผมดูแล
@โดนกล่าวหาว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจะส่งผลต่อภาพลักษณ์หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาต้องทำหน้าที่ตัดสินคนอื่น
ผมยืนยันได้ว่าในส่วนของผมไม่มีการทุจริตแน่นอน ผมกำชับที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญของผมตลอดว่าอย่าให้เกิดข้อครหาว่าทุจริต งานอะไรถ้ามันต้องให้ผมตัดสินใจก็ให้ส่งเรื่องมาให้ผม ไม่ใช่เอาไปตัดสินใจเอง แล้วผมเองก็ไม่เคยไปก้าวล่วงการทำงานของสำนักงาน กกต.
@แต่ก็มีข้อกล่าวหาออกมา
ผมไม่รู้เขากล่าวหาใคร แต่ของผมกำชับอย่างนี้ และมั่นใจว่าที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญของผม ไม่ทำอะไรนอกลู่นอกทางแน่นอน ส่วนกรรมการ กกต.คนอื่นก็ไปถามเขาเอาเอง
@นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการ กกต. ออกมาตอบโต้ทันควันอาจจะโดนเป็นเป้าหรือไม่
ก็แล้วแต่ท่านกรรมการ เขาอยากตอบโต้ก็เป็นสิทธิที่จะทำได้ ผมในฐานะผู้ใหญ่โตแล้วไม่อยากตอบโต้อะไรมาก พูดไปมันก็เสียเปล่า ๆ
แล้วปกติมันไม่ใครหรอกนะที่ออกจากบ้านตัวเอง แล้วมาจุดไฟเผาบ้านตัวเอง ออกมาพูดจาโดยใช้โมหะจริต โทสะจริต มันเป็นเรื่องไม่ดี ผมก็ต้องอดทน อดกลั้น อดทนต่อสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้น ผมต้องนำพาองค์กรให้ก้าวผ่านความขัดแย้ง แต่คนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ มันมีแต่ผลเสีย เชื่อผมเหอะ คอยดูผลเสียจะเกิดกับตัวของท่านเอง
@มีข้อกล่าวหาว่ามีการล้วงลูกแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม
เขาก็กล่าวหาไป ผมบอกไว้เลยว่าไม่เคยล้วงลูกการแต่งตั้งโยกย้าย หน้าห้องของผมไปสอบเป็นผู้บริหารระดับกลาง 2 คน เขายังสอบไม่ผ่านเลย ผมบอกกับหน้าห้องว่าอย่ามาคิดว่าเป็นเด็กผมแล้วจะสอบได้ ต้องสอบได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่สอบได้เพราะเป็นเด็กของผม และผมก็บอกแบบนี้กับคนในสำนักงาน กกต.ทุกคน ว่าคนจะสอบได้ก็ต้องสอบได้ด้วยตัวเอง เก่งด้วยตัวเอง
@ข้อกล่าวหาการเลื่อน 2 ขั้นในปีเดียวมีจริงหรือไม่
มีจริง ผมก็แบ่งให้อดีตเลขาฯไป 1 คน ของผมให้ไป 4-5 คน ส่วนกรรมการ กกต.คนอื่นก็กระจายกันไป แต่ที่ผมให้เพราะผมเห็นแล้วว่าเป็นคนที่ทำงานหนักจริง ผมงานตลอดเวลา ไม่ได้ให้ 2 ขั้นด้วยความเสน่หา
@ข้อกล่าวหาเดินทางไปต่างประเทศหลายครั้งจริงหรือไม่
ไม่จริง ผมไปต่างประเทศจะไปตามหมายที่เป็นการเชิญมาเท่านั้น แล้วมากล่าวหากันว่ากรรมการ กกต.ไปต่างประเทศ 20-30 คน ก็พูดไปไม่ใช่เรื่องจริงเลย
@จะกอบกู้ภาพลักษณ์ของกกต.อย่างไร
เดี๋ยวก็ต้องหารือกัน แต่ผมคงไม่ใช้วิธีการตอบโต้กันไปมา เพราะพูดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ส่วนท่านจะฟ้องร้องขอความยุติธรรมก็ไปฟ้องร้องต่อศาลได้ ผมไม่ได้กังวลอะไร
ส่วนตัวผมก็ไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งอะไร ถ้าผมผิดจริง ผมไม่ดีจริงมาบอกผมได้ ผมพร้อมลาออก ไม่ต้องมาไล่ผมเลย เพราะผมก็มีเกียรติยศศักดิ์ศรีของผม ผมมาจากการสรรหาของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ผมก็ต้องทำงานให้ดี ไม่ให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเสียแรงที่ไว้ใจผม
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายสมชัย จาก tnews