เครือข่ายเฝ้าระวังการพนัน เผย พบนศ.ใช้เงินกยศ.แทงบอลจนหมดตัวถึงขั้นอดเรียน
เครือข่ายเฝ้าระวังการพนัน จี้ภาครัฐจริงจังแก้ไขปัญหา พร้อมสร้างเครือข่ายป้องกันภัยพนันในรั้วมหาลัยแนะประสานค่ายมือบล็อกสัญญาณการเข้าถึงเว็บพนันออนไลน์
เมื่อเร็วๆ นี้ ที่สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) กระทรวงสาธารณสุข มีการเสวนากำหนดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนากลไกการลดผลกระทบจากการพนันครั้งที่ 3 โดยนักวิชาการเครือข่ายต้านพนันในมหาวิทยาลัยเข้าร่วมเสวนา
ผศ.ดร.สุระชัย ชูผกา อาจารย์ประจำคณะสื่อสารมวลชน ม.รามคำแหงกล่าวว่า จากผลสำรวจงานวิจัยด้านการพนันระดับอุดมศึกษา ในช่วงปี 2555-2556 ที่สนับสนุนโดย มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ พบว่า นิสิตนักศึกษากว่า 500,000 คน มีประสบการณ์เล่นการพนันในมหาวิทยาลัย ที่นิยมเล่นมากที่สุดคือพนันฟุตบอล รองลงมาคือการเล่นไพ่
และจากการลงพื้นที่สำรวจปัญหานิสิตนักศึกษาติดพนัน ใน 8 มหาวิทยาลัยใน 4 ภูมิภาคทั่วประเทศโดยนิสิตนักศึกษาติดพนันในหลากหลายรูปแบบ อาทิ นักกีฬาฟุตบอลของมหาวิทยาลัย เดินสายขโมยของตามหอพัก เพื่อนำเงินไปเล่นพนันฟุตบอล นักศึกษารวมกลุ่มกัน เพื่อแทงฟุตบอลออนไลน์ โดนมีส่วนลด 10 เปอร์เซ็นต์เป็นตัวล่อ นักศึกษาเวียนเทียนเล่นไพ่เล่นไฮโลตามบ้านเช่าและหอพักรวมไปถึงพบนักศึกษาใช้เวลากับครอบครัว เพื่อเฝ้าวัวชนในบ่อน โดยลงขันร่วมกันเล่นกับพ่อแม่ในเงินจำนวนหลายหมื่นบาท เป็นต้น
“มีอยู่รายหนึ่งเป็นนักศึกษาหญิง ใช้เงินกู้กองทุนกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา หรือ กยศ.มาเล่นพนันฟุตบอลจนหมดตัว ท้ายสุดตัวเองไม่ได้เรียนหนังสือ ต้องออกจากมหาวิทยาลัยกลางคัน เพราะไม่มีเงินเรียนโดยนักศึกษาที่ติดพนัน ยอมรับว่า แม้จะมีความสนุก แต่ก็เกิดความเครียดเป็นอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่จะเสียมากกว่าได้ ไม่เท่านั้นในรั้วมหาวิทยาลัยเอง ยังพบเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยจำนวนไม่น้อยเล่นพนันหวยใต้ดินกันเป็นเรื่องปกติ จะเห็นว่าทั้งมหาวิทยาลัย ชุมชน เต็มไปด้วยสิ่งพนันที่เกี่ยวเนื่องกัน”ผศ.ดร.สุระชัย กล่าว
ด้านนายอติชาต ตันเจริญ อาจารย์ประจำศูนย์สันติวิธีและธรรมาภิบาลนักศึกษา ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ นับเป็นมหาลัยหนึ่ง ที่พบปัญหาการพนัน ร้านเหล้าอยู่รอบมหาลัย และใกล้กับหอพักของนักศึกษา โดยเฉพาะเรื่องพนันเมื่อก่อนยอมรับว่า มีโต๊ะบอลเพื่อกาโพยกัน แต่ปัจจุบันมีการเปิดเว็บแทงพนันในเว็บไซต์ การตักเตือน หรือรู้เท่าทันว่านักศึกษาว่าคนไหนที่เล่นพนัน จึงเป็นเรื่องลำบาก
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบนักศึกษาในหอพัก พร้อมเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อตรวจจับสิ่งพนัน นายอติชาต กล่าวว่า เคยตรวจจับได้บัตรเอทีเอ็มของนักศึกษาในโต๊ะบอลเป็นปึก สอบถามทราบว่า เป็นของนักศึกษาที่มาแทงฟุตบอล โดยทางเจ้าของโต๊ะบอลจะทำการยึดไว้ เมื่อเสียพนัน ก็จะนำบัตรเอทีเอ็มของนักศึกษาไปกดเพื่อใช้หนี้และเมื่อล้วงลึกในข้อมูลเงินในบัตรเอทีเอ็มนั้น ส่วนใหญ่เป็นเงิน กยศ.ที่นักศึกษาทำการกู้ยืมมา
ด้านนายมนา พรหมมี หัวหน้างานวินัยและพัฒนากองกิจการนักศึกษา ม.สงขลานครินทร์ กล่าวว่า จากการพูดคุยนักศึกษาที่ถูกลงโทษเรื่องวินัยซึ่งรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการเล่นการพนันในหมู่นักศึกษา อันดับหนึ่งคือ การพนันฟุตบอล จากเมื่อก่อน มีการเปิดโต๊ะรับแทงพนันบอลไกล้เคียงมหาวิทยาลัย แต่ปัจจุบันมีน้อยลง ส่วนใหญ่นักศึกษาหันไปแทงฟุตบอลออนไลน์แทน การเฝ้าระวังจึงเป็นไปอย่างยากลำบาก
"วิธีแก้ปัญหาในเบื้องต้นที่ทางมหาวิทยาลัยดำเนินการอยู่คือ การบล็อกระบบ Wifi ในเว็บไซต์พนัน เพื่อป้องกันการเล่นพนันออนไลน์ นอกจากนี้ถ้าเป็นไปได้อยากเสนอให้ ค่ายมือถือ ทำการบล็อกในเว็บไซต์พนัน ออนไลน์จากต้นสาย โดยจัดทำเป็นนโยบายที่สามารถทำได้จริง เพื่อลดสิ่งยั่วเย้าสิ่งพนันในเบื้องต้น
" หัวหน้าวินัยและพัฒนากองกิจการนักศึกษา ม.สงขลานครินทร์ กล่าว และว่า ในส่วนของสื่อสารมวลชน อาจต้องมีการทบทวนบทบาท เพราะปัจจุบันจะเห็นว่า ทั้งในสื่อหนังสือพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ บางสื่อ มีการนำเสนอราคาอัตราต่อรองกีฬาฟุตบอลอย่างโจ่งแจ้ง ถือเป็นสิ่งเร้า ส่งเสริมให้เด็กนักศึกษาหันมาเสพสิ่งพนันกันมากขึ้น พร้อมกันนี้ อยากให้ทางภาครัฐหันมาใส่ใจกับปัญหาเยาวชนติดพนันให้มากขึ้น ปัจจุบันมุ่งเน้นเฉพาะ เหล้า บุหรี่ และยาเสพติดมากกว่า ทั้งที่สิ่งพนันส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้างมากกว่ามาก
นายพงศธร จันทรัศมี ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลนโยบายสาธารณะการลดปัญหาจากการพนัน มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ประชุมมีข้อเสนอไปยังสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษาแห่งชาติ(สกอ.) ที่ต้องหยิบยกปัญหาสิ่งพนันในรั้วมหาวิทยาลัยขึ้นมาอย่างจริงจัง พร้อมเร่งสถาปนาเครือข่ายป้องกันภัยพนันสถาบันอุดมศึกษาอย่างมีส่วนร่วมจากชุมชนและภาครัฐ ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง ผู้บริหารมหาวิทยาลัย ตัวแทนองค์กรนักศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงภาคเอกชน เพื่อร่วมกันระวังภัยการพนันรอบรั้วหมาวิทยาลัย
นายพงศธร กล่าวด้วยว่า ในส่วนของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.) ควรริเริ่มสร้างสรรค์ความร่วมมือกับ สมาคมวิชาชีพด้านสื่อต่างๆ ในการร่วมกันจัดตั้งระบบผู้ตรวจการสื่อมวลชน(Media Ombudsman) เพื่อตรวจสอบบทบาทหน้าที่ของสื่อ ในด้านที่มีผลกระทำโดยตรง ในการสร้างภัยพนันให้กับนิสิตนักศึกษา นอกจากนี้จะมีการเสนอไปยังคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช. )ทำการประสานไปยังค่ายมือถือ เพื่อทำการบล็อกการเข้าถึงเว็บพนันออนไลน์ โดยทำงานร่วมกันกับกรมกิจการเด็กและเยาวชน
ที่มาภาพ:http://www.gamblingstudy-th.org