บุรีรัมย์นำโด่งจว.ที่มีเด็กแรกเกิดได้รับเงินอุดหนุน 400 บาท/เดือน
รัฐบาลตั้งงบฯ 600 ล้านบาท โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดในครอบครัวยากจน คาดตลอดระยะเวลา 1 ปี มีเด็กแรกเกิดได้รับเงินอุดหนุน 1.3 แสนราย
พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดในครอบครัวยากจน เดือนละ 400 บาท ว่า นับตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้มีจำนวนเด็กลงทะเบียนเพื่อรับเงินอุดหนุน ทั้งสิ้น 27,622 ราย จำแนกเป็นในภูมิภาคจำนวน 26,920 ราย และในกรุงเทพมหานคร จำนวน 702 ราย
"จังหวัดที่มีเด็กที่อยู่ในเกณฑ์ได้รับเงินอุดหนุนสูงสุด 3 อันดับแรกคือ บุรีรัมย์ จำนวน 1,448 ราย อุบลราชธานี 1,353 ราย และสุรินทร์ 1,271 ราย สำหรับพ่อแม่ที่คาดว่าจะคลอดบุตรภายในวันที่ 30 ก.ย. 2559 ในขั้นต้น ยังคงไปลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้จนถึงวันที่ 31 มี.ค. 2559 ในกรุงเทพฯสามารถลงทะเบียนที่สำนักงานเขตทุกเขต ส่วนต่างจังหวัดสามารถลงทะเบียนได้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามที่อยู่อาศัยจริง"
พลตรี สรรเสริญ กล่าวถึงโครงการเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดในครอบครัวยากจนและเสี่ยงที่จะยากจน เดือนละ 400 บาท จนอายุครบ 1 ปี เป็นหนึ่งในนโยบายแผนการพัฒนาประชากรตลอดช่วงอายุ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เด็กแรกเกิดได้รับการดูแลด้านสุขภาพอนามัยอย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น และเป็นการแบ่งเบาภาระครอบครัวยากจนให้สามารถจัดหาข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับเด็กแรกเกิดอย่างพอเพียง โดยคาดว่าตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการ 1 ปี จะมีเด็กแรกเกิดได้รับเงินอุดหนุน จำนวน 135,768 ราย ซึ่งรัฐบาลได้ตั้งงบประมาณสำหรับดำเนินโครงการในปีแรกไว้จำนวน 600 ล้านบาท
"รัฐบาลเชื่อมั่นว่าการวางรากฐานคุณภาพชีวิตที่เหมาะสมแก่เด็กตั้งแต่เล็กจะช่วยให้เขาเติบโตเป็นประชากรที่มีคุณภาพของประเทศในอนาคต ทั้งนี้ท่านนายกรัฐมนตรียังได้ฝากชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ทั้งท้องถิ่น ท้องที่ และทุกหน่วย ทั้งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย ที่ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพ ทำให้โครงการเดินหน้าได้ตามเป้าหมายที่วางไว้"