ขีดเส้น15วันสอบปมครูให้นักเรียนกินหมู ยันเรียกร้องทุบซุ้มประตูวัดไม่จริง
ผู้อำนวยการสำนักเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานีเขต 2 ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีครูปล่อยให้นักเรียนมุสลิมรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อหมูระหว่างไปทัศนศึกษาที่กรุงเทพฯแล้ว พร้อมยืนยันว่าประเด็นที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ว่าชาวบ้านที่เป็นมุสลิมเรียกร้องให้ทุบซุ้มประตูวัดซึ่งเป็นทางเข้าโรงเรียนนั้น ไม่เป็นความจริง
กรณีพิพาทที่สุ่มเสี่ยงบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างศาสนาที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งนี้ เกิดจากครูโรงเรียนชุมชนวัดอัมพวนาราม ตำบลเมาะวี อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พานักเรียนและผู้ปกครองไปทัศนศึกษาที่กรุงเทพฯ และปรากฏว่าอาหารบางมื้อที่จัดให้นักเรียนซึ่งส่วนหนึ่งเป็นมุสลิมนั้น มีส่วนผสมของเนื้อหมู ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ไม่พอใจ เรียกร้องให้ขับไล่ครูและผู้อำนวยการโรงเรียนออกจากพื้นที่ ทำให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตัดสินใจย้ายครูและผู้อำนวยการโรงเรียนไปช่วยราชการตามข้อเรียกร้อง และส่งครูที่เป็นมุสลิมมารักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนแทน
นายอรรถสิทธิ์ รัตนแคล้ว ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานีเขต 2 กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วจำนวน 7 คน ประกอบด้วย อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนวัดอัมพวนารามที่เป็นมุสลิม, ผู้อำนวยการโรงเรียนที่นับถือศาสนาพุทธ, กำนันตำบลเมาะมาวี, ตัวแทนกรรมการสถานศึกษา, รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเมาะมาวี, ตัวแทนชมรมอิหม่าม และผู้อำนวยการกลุ่มบุคคล โดยวางกรอบการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เสร็จภายใน 15 วัน
“เบื้องต้นได้คุยกับครูเจ้าของโครงการแล้ว ได้รับการชี้แจงว่าตลอด 3 วันที่ไปทัศนศึกษา ได้สั่งข้าวกล่องจากร้านเดิมตลอด และทางร้านทราบว่ามีเด็กที่เป็นมุสลิมร่วมอยู่ในคณะด้วย แต่บังเอิญวันเกิดเหตุวันสุดท้าย ร้านบอกว่าเนื้อไก่หมด จึงใช้เนื้อหมูเสริมเข้าไป เพราะร้านทราบว่าเด็กและครูที่เป็นพุทธมีอยู่ 30 คน จึงทำข้าวที่มีเนื้อหมู 30 กล่อง แต่ร้านไม่ได้แจ้งให้ครูทราบว่ามีข้าวกล่องที่ใช้เนื้อหมูผสมมา ครูจึงแจกให้เด็กรับประทาน และครูก็บอกว่าทางร้านฝากขอโทษมา วันที่ส่งข้าวกล่องก็รีบ จึงไม่ทันแจ้งให้ครูทราบ” นายอรรถสิทธิ์ กล่าว และว่าข้อมูลส่วนนี้คือข้อมูลที่คณะกรรมการไปสอบถามครู จากนั้นคณะกรรมการจะไปสอบถามร้านทำข้าวกล่องที่กรุงเทพฯ เพื่อพิจารณาว่าตรงกับที่ครูชี้แจงหรือไม่ จากนั้นจะมาหารือกันอีกครั้งเรื่องการลงโทษ
ส่วนข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดียที่ว่าชาวบ้านที่เป็นมุสลิมเรียกร้องให้ทุบซุ้มประตูทางเข้าโรงเรียน ซึ่งเป็นซุ้มประตูวัดนั้น นายอรรถสิทธิ์ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และยอมไม่ได้หากจะมีการทำเช่นนั้น เพราะซุ้มประตูวัดเป็นสมบัติของวัด จะไปรื้อถอนหรือทำลายไม่ได้ ไม่มีใครยอม
“ขอร้องทุกคนว่าให้ใช้สติในการรับข่าวสาร เรื่องนี้มีเฉพาะเรื่องครูให้เด็กและผู้ปกครองกินหมูเท่านั้น ไม่มีเรื่องอื่นเข้ามา และขอย้ำว่าผู้อำนวยการคนใหม่แค่ไปรักษาการ เพื่อเข้าไปแก้ปัญหา ไม่ได้เข้าไปสร้างปัญหา”
สำหรับโรงเรียนวัดอัมพวนาราม มีนักเรียนทั้งหมด 232 คน มีครูทั้งหมด 37 คน แยกเป็นที่นับถือศาสนาอิสลาม 10 คน นับถือศาสนาพุทธ 27 คน โรงเรียนอยู่ในเขตพื้นที่ของวัด วันเกิดเหตุครูมุสลิมไม่ได้ไปทัศนศึกษากับนักเรียน มีเพียงครูพุทธทั้งหมดที่ไป และต้องดูแลเด็กร้อยกว่าคน ทั้งหมดมีเด็กที่เป็นพุทธและครูพุทธ 30 คน
แถลงการณ์สหพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมฯ
ด้าน สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ในเรื่องนี้ โดยมีข้อเรียกร้องเป็นข้อๆ ได้แก่
1.ให้ผู้อำนวยการโรงเรียนและครูที่ถูกย้าย ออกมาชี้แจงกับสาธารณชนอย่างกระจ่างว่าเป็นข้อผิดพลาดหรือจงใจ เพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยกระหว่างคนไทยมุสลิมและไทยพุทธในพื้นที่
2.เรียกร้องให้สำนักเขตพื้นที่การศึกษาทุกพื้นที่ จัดอบรมบุคลากรครูในพื้นที่ให้เกิดจิตสำนึกความเข้าใจต่อวิถีชีวิตและหลักศาสนาอิสลาม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีกในอนาคต
3.ขอเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการ สร้างมาตรการคุ้มครองสิทธินักเรียนที่นับถือศาสนาอิสลามในระดับโรงเรียนให้ครอบคลุมทั้งระบบ และตรวจสอบพฤติกรรมของครูที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมในโรงเรียนอื่นๆ ทั่วประเทศ
4.ขอให้รัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สร้างความตระหนักให้ทุกภาคส่วนราชการ เคารพและเข้าใจถึงความสำคัญในการใช้สิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนารวมถึงการปฏิบัติศาสนกิจทางศาสนาของทุกศาสนาในประเทศไทย เพื่อให้เกิดความปรองดองและสมานฉันท์ของคนในชาติอย่างแท้จริงและเร็วไว
5.ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนทุกแขนง ควรนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง อย่านำเสนอข่าวเพื่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนชาวไทยทุกท่าน โปรดใช้วิจารณญาณในการบริโภคข้อมูล และขอเป็นกำลังใจให้กับครู เจ้าหน้าที่โรงเรียนชุมชนวัดอัมพวนารามและผู้ปกครองนักเรียนทุกท่าน
แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า อิสลามมิให้รับประทานเนื้อหมูเนื่องจากเป็นคำสั่งห้ามจากพระเจ้า โดยมีท่านศาสนทูต นบีมูฮัมหมัด (ซ.ล) ซึ่งเป็นศาสนทูตคนสุดท้ายแห่งอิสลาม ถ่ายทอดมายังมนุษยชาติ "แท้จริงพระองค์เพียงแค่ทรงห้ามสูเจ้า (มิให้บริโภค) สัตว์ที่ตายเองและเลือดและเนื้อของสุกร และที่ถูกเปล่งนามอื่นนอกจากอัลลอฮฺ (เมื่อเชือด) แต่ผู้ใดก็ดีที่อยู่ในภาวะคับขัน ไม่เจตนาดื้อดึง และมิใช่ละเมิด ฉะนั้นแท้จริง อัลลอฮฺเป็นผู้ทรงให้อภัย ผู้เมตตาเสมอ (อัลกุรอาน บทที่ 16 อันนะหฺลฺ โองการที่ 115)
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ภาพประกอบ : แฟ้มภาพอิศรา เป็นภาพเด็กมุสลิมรับประทานอาหารกลางวัน ไม่เกี่ยวกับกรณีพิพาทในข่าว