ชูกรณี "จับสดสรรพากร-วิศวกรยุติธรรมรีดเงิน" นำร่อง! 'บิ๊กตู่'สั่งไขลานคดีทุจริตค้าง
ยกกรณี "จับสด จนท.สรรพากร -วิศวกรก.ยุติธรรม รีดเงิน" โมเดลศึกษาโครงการนำร่องไขลานปรับปรุงระบบตรวจสอบคดีทุจริตให้รวดเร็วขึ้น เลขาฯ ป.ป.ท.เผยเตรียมชงเรื่องหารือที่ประชุม ศอตช. เป็นทางการ ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมตรี เร็วๆ นี้
นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มีบัญชาให้หน่วยงานด้านการตรวจสอบของภาครัฐ เร่งรัดกระบวนการตรวจสอบคดีทุจริตที่ค้างอยู่ให้เร็วขึ้น ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตนจึงเตรียมที่จะนำเรื่องนี้เข้าไปหารือในที่ประชุมศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เพื่อหารือถึงแนวทางการปฏิบัติงานตามนโยบายดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรมมากที่สุด
"ขณะนี้หน่วยงานด้านการตรวจสอบหลายแห่ง มีการปรับระบบการตรวจสอบให้รวดเร็วขึ้น ขณะที่ฝ่ายอัยการก็มีการตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแลรับผิดชอบคดีทุจริตโดยตรง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ การตรวจสอบคดีทุจริตต่างๆ ยังมีความล่าช้าอยู่ จำเป็นที่ทุกฝ่ายจะต้องมีประชุมหารือร่วมกัน เพื่อดูว่าปัญหาและอุปสรรคที่ทำให้งานมีความล่าช้าอยู่ตรงไหนบ้าง จะได้แก้ไขให้หมดไป"
นายประยงค์ ยังระบุด้วยว่า การพิจารณาคดีทุจริตให้มีความรวดเร็วขึ้น จะส่งผลดี 2 ประการ คือ หนึ่งในส่วนผู้ถูกกล่าวหา จะได้พิสูจน์ความบริสุทธ์เร็วขึ้น สองหากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงและมีการลงโทษ ก็จะเป็นการปรามให้ผู้ที่คิดจะกระทำความผิดเกิดความเกรงกลัว ไม่กล้าที่จะลงมือทำ เพราะที่ผ่านมามีคดีทุจริตจำนวนมากที่ใช้เวลาตรวจสอบยาวนานหลายปีก็ยังไม่ได้ข้อสรุป ทำให้ผู้ที่คิดจะทำความผิดไม่กลัวเกรง
"สำหรับคดีที่คิดว่าจะหยิบยกขึ้นมานำร่อง เป็นคดีตัวอย่าง หลังการปรับปรุงระบบการตรวจสอบคดีทุจริตให้มีความรวดเร็วขึ้นตามนโยบายดังกล่าว คือ กรณีจับสดเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร เรียกรับเงินจากผู้ประกอบการจำนวน 1.5 แสนบาท เพื่อแลกเปลี่ยนการทำเรื่องขอคืนภาษี และกรณีวิศวกร ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง ที่กองออกแบบ สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม เรียกรับเงินค่าตอบแทนเครื่องปั๊มน้ำในโครงการก่อสร้างอาคารชุดที่พักข้าราชการของศูนย์ฝึกและอบรมและเยาวชนจังหวัดลพบุรี กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เป็นเงินจำนวน 40,000 บาท แต่มีการต่อรองเหลือ 30,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการจับกุมภายในห้องพักที่กระทรวงยุติธรรม เนื่องจากมีหลักฐานการกระทำความผิดที่ครบถ้วนแล้ว" เลขาฯ ป.ป.ท.ระบุ
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก www.tnews.co.th