14 ปี 39 องค์การมหาชน ใช้งบฯ 1.2 แสนล้าน
สำนักงบประมาณ ระบุ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2544 -2558 องค์การมหาชนทั้ง 39 แห่งใช้งบฯ รวมทั้งสิ้น 1.2 แสนล้าน มากสุด สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน 2 หมื่นล้าน
หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ได้รายงานผลการประเมินองค์การมหาชน จำนวน 39 แห่ง ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ( ครม.) โดยคะแนนองค์การมหาชนบางแห่ง มีทั้งดีมาก ปานกลาง และสอบตก นั้น
สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบข้อมูลในรายงานของคณะกรรมการศึกษาการปฏิรูปองค์การมหาชน สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ก่อนหน้านี้ โดยอ้างอิงข้อมูลจากสำนักงบประมาณ ระบุว่า ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2544 -2558 องค์การมหาชนทั้ง 39 แห่งใช้งบประมาณแล้วโดยรวมทั้งสิ้น 1.2 แสนล้านบาท
สำหรับองค์การมหาชน ที่ใช้งบประมาณสูงสุด ได้แก่ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ใช้งบประมาณสูงสุดถึง 2 หมื่นล้านบาท โดยใช้ในช่วงปีงบประมาณ 2550-2553 ซึ่งเกิดจากการช่วยดำเนินนโยบายของรัฐบาลสมัยนั้นเกี่ยวกับนโยบายบ้านมั่นคง เพื่อแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยของประชาชนทั้งประเทศ โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัด
รองลงมา ได้แก่ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ 1.1 หมื่นล้านบาท
และสํานักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (สบร.) ซึ่งมี สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (สอร.) หรือ Thailand Knowledge Park (TK Park) เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีนิสัยรักการอ่าน รู้จักการแสวงหาความรู้และการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ และศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ศสบ.) หรือ Thailand Creative and Design Center (TCDC) อยู่ภายใต้ สบร.ใช้งบ 1.1 หมื่นล้านบาท
ซึ่งในรายงานของคณะกรรมการศึกษาการปฏิรูปองค์การมหาชน สปช. ระบุไว้ชัดว่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมากว่า 15 ปี องค์การมหาชนของไทยมีทั้งที่ประสบความสำเร็จและมีปัญหาอุปสรรค โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายที่ต้องจัดสรรจากงบประมาณแผ่นดินนี้ ให้กับองค์การมหาชนทั้ง 39 แห่ง คาดว่าจะมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยังไม่สามารถยุบเลิกองค์การมหาชนที่จัดตั้งแล้วได้ ยังมีการกำหนดค่าตอบแทนที่กำหนดไว้ในอัตราที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะองค์การมหาชนที่ให้บริการสาธารณะทั่วไป เมื่อเปรียบเทียบภาระหน้าที่ ขนาดองค์กร และคุณวุฒิของผู้ปฏิบัติงาน
การกำหนดค่าตอบแทนที่ไม่สอดคล้องกับภาระหน้าที่ ความรับผิดชอบ และภาระงาน เช่น การกำหนดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรขององค์การมหาชนด้านสังคมศาสตร์ ยังนำไปเทียบกับองค์การมหาชนด้านวิทยาศาสตร์ ทำให้เกิดคำถามว่า ทำไมต้องจ่ายค่าตอบแทนสูงถึง 2-3 แสนบาทต่อเดือน
รวมถึงการคัดเลือก สรรหา และแต่งตั้งบุคลากรในบางองค์การมหาชนไม่เหมาะสม มีการใช้ระบบอุปถัมภ์ เล่นพรรคเล่นพวก การปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหาร หรือบอร์ด และผู้บริหารเกือบทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ส่งผลให้การดำเนินงานไม่ต่อเนื่อง คลาดเคลื่อนไปจากวัตถุประสงค์หลัก
ทั้งนี้ ในรายงานดังกล่าว ยังเสนอปฏิรูประบบค่าตอบแทนในองค์การมหาชนทั้งระบบให้สอดคล้องกับภาระงาน โดยการกำหนดอัตราค่าตอบแทนให้เน้นหลักคุณภาพ หลักความยุติธรรม หลักการจูงใจ และใช้หลักความรู้ความสามารถ
อ่านประกอบ:รายงานของคณะกรรมการศึกษาการปฏิรูปองค์การมหาชน สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)