'บิ๊กตู่'ลั่นอย่าตกเป็นเครื่องมือพวกหนีคดี-แจงเบนซ์กันกระสุนให้ไปดูซื้อสมัยไหน

“พล.อ.ประยุทธ์” เปิดงานมูลนิธิต่อต้านการทุจริต ลั่นอย่าตกเป็นเครื่องมือพวกหนีคดี ไม่ให้อภัยคนไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยันเข้าคุกแล้วก็อยู่ไทยได้ มีโครงการคืนความสุขให้เหมือนนักโทษ แจงเบนซ์ S600 กันกระสุนซื้อให้ไปดูมาว่าซื้อสมัยไหน 

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2558 ที่สโมสรทหารบก-ถ.วิภาวดีรังสิต มีการเปิดตัวมูลนิธิต่อต้านการทุจริต ที่มีนายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะประธานมูลนิธิ พร้อมด้วยกรรมการมูลนิธิ เช่น พล.อ.จิระ โกมุทพงศ์ นายวิทยา อาคมพิทักษ์ ว่าที่กรรมการ ป.ป.ช. นายประหยัด พวงจำปา รองเลขาธิการ ป.ป.ช. และนายชาตรี ทองสาริ ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. เป็นต้น มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าร่วมงานเปิดตัว และถ่ายภาพร่วมกับกรรมการมูลนิธิฯเพื่อเป็นที่ระลึก ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามข้อตกลงระหว่างอธิการบดีมหาวิทยาลัย 10 สถาบัน กับประธานกรรมการมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด และประธานกรรมการมูลนิธิต่อต้านการทุจริต

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า ปัญหาทุจริตสำคัญต่อบ้านเมืองและมีอยู่มายาวนาน ตั้งแต่ก่อนตนเข้ามา และตอนนี้กำลังดำเนินการอยู่ในทุกมิติ ทั้งนี้ต้องสร้างเครือข่ายกับมูลนิธิต่าง ๆ และความร่วมมือของข้าราชการ ภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม และสถานศึกษา ทุกคนต้องช่วยกันทำอย่างไรประเทศถึงจะปลอดภัยจากการทุจริต ซึ่งมีผลสืบเนื่องไปยังเรื่องอื่นทั้งหมด รัฐบาลให้ความยินดีช่วยเหลือ ซึ่งปัญหาขณะนี้ต้องดำเนินการ 3 อย่าง ได้แก่ ป้องกัน ปราบปราม และปลูกฝังจิตสำนึก เพราะที่ผ่านมาเราเน้นหนักด้านการปราบปราม การใช้กฎหมายต่าง ๆ แต่วันนี้แก้อย่างเดียวไม่ได้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า การทุจริตคอร์รัปชั่นทำให้ประเทศสูญเสียเวลา สูญเสียประชาธิปไตยด้วย เพราะว่ามันไม่เท่าเทียม คนส่วนใหญ่ไม่ได้ประโยชน์ คนส่วนน้อยได้ ต้องเชื่อมโยงทั้งหมด อยากให้ทำความเข้าใจให้ครบถ้วนในเรื่องกลไกต่าง ๆ ที่มีความเชื่อมโยงเหล่านี้ ถ้าครอบครัวเข้มแข็ง สังคมก็จะเข้มแข็ง

“อย่างที่กล่าวไว้ ไม่ได้ว่าใคร แต่ทุกคนมองแต่ว่าต้องมีเงิน ถึงจะได้รับการนับถือ สบาย มีรถใช้ มีบ้านใหญ่ อันนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ แต่ต้องกลับมาดูว่า ถ้าทำมาแล้วถูกหรือผิดควรได้หรือไม่ ถ้ายังไม่ควรได้ก็ไม่ใช่เวลา ต้องพอเพียงไปก่อน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกอย่างที่เสียหายไปเป็นเพราะการเมืองซะหมด ต้องมุ่งหวังเจตนารมณ์ วิสัยทัศน์ชาติ ทุกคนต้องวาดแผนอนาคตว่าจะดำเนินการอย่างไร นักการเมืองกลัวว่าจะเขียนร่างรัฐธรรมนูญให้เดือดร้อน แต่กลับไม่เคยพูดว่าจะแก้ปัญหาการทุจริตอย่างไร อยากให้ถามนักการเมืองดู อย่างไรก็ดีมีเวลาอีกแค่ 18 เดือน แต่ปัญหาเยอะไปหมด ทำไมจึงเยอะนัก ก่อนหน้านั้นก็ดูปกติ แต่ทำไมเลือกตั้งไม่รู้กี่ครั้งต้องปฏิวัติทุกครั้ง ไม่รู้เหมือนกัน ปัญหาก็ยังเยอะอยู่ ถ้าไม่ร่วมมือกันอีกกี่ร้อยครั้งมันก็ไม่จบ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ไม่เคยทำงานแบบเกลียดชังใคร แต่ใช้กฎหมาย ถ้าทุกคนใช้ความรู้สึกส่วนตัว ใช้ความเกลียดชัง ทุกอย่างก็จะพัง เพราะมีคนแสวงหาผลประโยชน์จากตรงนี้อยู่ แต่ไม่ยอมให้มีการทุจริต สมยอม ให้อภัย ถ้าไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ถ้าเข้ากระบวนการยุติธรรมแล้ว รับผิดชอบไปแล้ว กระบวนการทุกประเทศก็เป็นแบบนี้ ติดคุกแล้วอยู่ไทยไม่ได้ มันก็ไม่ใช่ ก็มีโครงการคืนความสุขให้เขา นักโทษหางานได้ แต่ถ้าไม่เข้ากระบวนการยุติธรรม เราต้องนำเข้าไปให้ได้ เพื่อให้องค์กรอิสระ กระบวนการยุติธรรมสบายใจ นี่ทำอะไรก็ไม่ได้ ซ้ายอย่าง ขวาอย่าง ลืมนิติธรรมไปแล้วว่าเป็นอย่างไร

“มีฝ่ายหนึ่งถูกดำเนินการ และอีกฝ่ายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ฝ่ายนี้เขาต่อสู้ทางกฎหมาย มีทางออกก็ต่อสู้เป็นเรื่องของเขา แต่คนที่ไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม กลับพูดจาให้ร้าย จะทำอย่างไร เราอย่าตกไปเป็นเครื่องมือเขา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงปัญหาโครงการรับจำนำข้าวว่า ประเทศกำลังเดินไปข้างหน้าก็ต้องมาแก้เรื่องโครงการรับจำนำข้าว ปัญหานี้เดือดร้อนกันหมด ข้าราชการเสียเวลาเหล่านี้ เสียในเรื่องไม่ควรเสีย ถามว่าวันนี้ถูกบิดเบือนว่ามันดี ดีไม่ดีไม่รู้ ใครได้ประโยชน์ไม่รู้ แต่มันไปบิดบังเรื่องการทุจริตหรือไม่ ไม่รู้ ไปแยกมาให้ออก ถ้าตอนนั้นยังมีการทำแบบนี้อีก ท่านกับตนไม่ได้มานั่งตรงนี้ แต่ประเทศล้มไปแล้ว เพราะไม่มีเงิน วันนี้จะแก้ไขให้ อย่าพูดว่าไม่เป็นธรรม ไม่ยุติธรรม ไม่ให้โอกาส กฎหมายมีทุกตัว อย่าไปฟังมากนัก สื่อโซเชียลเน็ตเวิร์คเขียนออกมา จะไม่ให้หงุดหงิดได้อย่างไร ถึงจะทะเลาะกับเขา ก็ไม่เคยเกลียด แต่อธิบายแล้วก็ไม่ฟัง

ส่วนกรณีการสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จัดซื้อรถเบนซ์ S600 กันกระสุน 4 คัน 78 ล้านบาทนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวสั้น ๆ ว่า “ก็มีการไปขุดคุ้ยกัน ไปดูมาว่าซื้อมาตั้งแต่สมัยไหน แล้วทำไมเพิ่งได้มาปีนี้”

อ่านประกอบ :
เปิดตัวเบนซ์ S600 'รถกันกระสุน' สุดหรู สำนักเลขานายกฯซื้อ 4 คันรวด 78 ล.
สำนักเลขาฯนายกฯซื้อรถเบนซ์ S 600 4 คัน 78 ล้าน

เจาะรถกันกระสุนยุค“ปู-ยิ่งลักษณ์”โฟล์คตู้ 2 คัน 7.8 ล้านสั่งตรงจากบ.ค้าอาวุธใหญ่กองทัพ

อึ้ง!รถประจำตำแหน่งใครคันละ 7.5 ล้าน? - 2 กระทรวงใหญ่ถอยป้ายแดงให้รัฐมนตรี

ประเคนรถประจำตำแหน่ง 2 รมช.คลัง 6.9 ล้าน

เปิดค่าตัวรถ“ประจำตำแหน่ง”บิ๊ก ขรก. ฮือฮา!นายก อบจ.แพงกว่ารัฐมนตรี

“บิ๊กตู่”เข้ม! ให้ คตร.สุ่มตรวจทุกหน่วยงานทำสัญญาเช่ารถ ป้องเปลืองงบ

บ.ใหญ่เหมาเรียบ“รถตำแหน่ง”คนมหาดไทย“แคมรี่ไฮบริด”บิ๊กลอต 183 ล้าน

หมายเหตุ : ภาพประกอบ พล.อ.ประยุทธ์ จาก newsplus