เมื่อ 'UNDP' จับมือ 'อิศรา' ปลุกพลัง 'นักศึกษา' เรียนรู้งานข่าวสืบสวนต้านทุจริต
สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ(UNDP) ร่วมมือสถาบันอิศรา เปิดโครงการ “คอร์รัปชั่น ฉันไม่ขอรับ” อบรมฝึกทำข่าว หลักสูตรเยาวชน พร้อมเทคนิคการถ่ายภาพจากช่างภาพมืออาชีพ ตลอดจน ลงพื้นที่หาข้อมูลทำข่าวจริง
โครงการอบรมการฝึกทำข่าว หลักสูตรระยะสั้น สำหรับเยาวชนในร้านกาแฟ “คอร์รัปชั่น ฉันไม่ขอรับ” ถูกจัดขึ้นเป็นทางการ เมื่อวันที่ 24-25 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา ที่ห้องเรียนชั้น 2 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ด้วยความร่วมมือระหว่าง สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ(UNDP) และ สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย
มีวัตถุประสงค์สำคัญในการเปิดโอกาสให้นักศึกษา ได้เรียนรู้แนวคิดและวิธีการทำข่าวแบบมืออาชีพ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการตรวจสอบปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ในรั่วมหาวิทยาลัยของตนเอง โดยการจัดงานครั้งนี้ มีนักศึกษาที่สนใจเข้าร่วมการอบรม จาก 3 มหาวิทยาลัย คือ มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จำนวน 25 คน
รูปแบบการจัดอบรม เน้นให้นักษาศึกษา รู้จักการทำงานเป็นทีม (กระจายนักศึกษาแต่ละมหาวิทยาลัยลงตามกลุ่มต่างๆ ประมาณ 5กลุ่ม) ตั้งคำถามจากข้อมูลที่มี เสาะหาประเด็นจากการลงพื้นที่ รวมถึงการปรึกษาประเด็นข่าวกับพี่เลี้ยงประจำกลุ่ม
สำหรับวัตถุประสงค์โครงการอบรมฝึกการทำข่าวครั้งนี้ ดร.ฐิติพล ภักดีวานิช อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี หัวหน้าโครงการร้านกาแฟ “คอร์รัปชั่น ฉันไม่ขอรับ” และผู้ประสานงานกับทาง UNPD เผยว่า จุดประสงค์หลักของโครงการจะมุ่งไปที่ การมีบทบาทสำคัญและ การมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาของเยาวชนในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น
“ร้านกาแฟ ‘คอร์รัปชั่น ฉันไม่ขอรับ’ ที่เปิดขึ้นที่ ม.อุบลฯ เป็นครั้งแรกนั้น กิจกรรมของทางร้านจะเน้นให้นักศึกษามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาทุจริตในสังคม ไม่ใช่แค่เป็นหน้าที่ของรัฐอย่างเดียว โดยในอนาคตก็ต้องคิดว่า จะทำอย่างไรให้กลุ่มของเราเข้มแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็มีบทบาท มีกิจกรรมที่ต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้เพียงแค่พึ่งเริ่มต้น งบประมาณต่อไป เรามองว่า ถ้าธุรกิจร้านกาแฟก้าวหน้า ตรงนั้นเราจะมีงบประมาณในการทำกิจกรรมต่อไปได้ด้วยตัวเอง”
ดร.ฐิติพล ยังระบุด้วยว่า กำไรที่ได้จะแบ่งให้ทางร้านกาแฟ เพื่อเอาไว้ใช้ในการจัดทำกิจกรรมโครงการ 30 เปอร์เซ็นต์ และให้กับทรู คอฟฟี่ 70 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจาก งบประมาณในส่วนของการก่อสร้างร้านกาแฟดังกล่าว ได้งบทั้งหมดจาก “ทรู คอฟฟี่”
ขณะที่ นักศึกษาหลายคนที่เข้ารับการอบรม ต่างแสดงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า จะนำความรู้ที่ได้กับไปใช้ในรั้วมหาวิทยาลัยของตนเอง โดยการนำเสนอข่าวติดตามตรวจสอบปัญหาการทุจริต เพื่อรักษาผลประโยชน์ของสาธารณะ
นายสราวุฒิ สร้อยโสม นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยถึงความรู้สึกหลังเข้ารับการอบรมว่า ได้รู้และเข้าใจถึงหลักการการเขียนข่าว องค์ประกอบข่าว และลักษณะข่าวที่ถูกต้อง รวมถึงตระหนักถึงความสำคัญของความสุจริต และรู้สำนึกถึงผลกระทบของการทุจริต ตลอดจน สามารถนำไปใช้ในการเขียนข่าวมหาวิทยาลัยและชุมชนได้
“เป็นเรื่องธรรมดาของคนไทยไปแล้ว และเป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขให้หมดสิ้น แต่นั่นคือความคิดของคน หาใช่ผู้มีปัญญาไม่ คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันล้วนถูกกิเลสครอบงำ กฎที่ตั้งก็มีไว้แหก"
"การจะทำให้คอร์รัปชันสูญหายไปจากประเทศไทย ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน ปลูกฝั่งความคิดอันอุดมด้วยคุณธรรม ให้คิดให้รู้ให้ทำดี เพื่อประโยชน์ส่วนรวม”
ส่วน "น้องแชมเปญ" หรือ "นายประเสริฐ คำเสียง" นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ระบุว่า ตอนแรกไม่ค่อยอยากมาเข้าร่วมการอบรมเท่าไร เพราะเป็นช่วงวันหยุดยาวด้วย แต่พอได้มีโอกาสมาแล้ว ก็รู้สึกว่า ตัดสินใจถูก
"ช่วงเวลา 2 วัน 1 คืน ได้รับประสบการณ์อย่างมาก ในเรื่องการทำข่าว ได้รู้ว่านักข่าวเขาทำงานกันอย่างไร นอกจากนี้ยังได้รู้จักเพื่อนจากมหาวิทยาลัยอื่นด้วย ซึ่งบางคนไม่ได้เรียนสายนิเทศฯ มา แต่เขาก็ทำข่าวได้ เขียนข่าวได้ ถ้าตั้งใจจริง"
"สำหรับหนู จะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับมาใช้ประโยชน์ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเพื่อต่อต้านการทุจริตในมหาวิทยาลัยต่อไป อย่างแน่นอน"
ทั้งหมดนี้ คือ ภาพรวมการฝึกอบรมปฏิบัติทำข่าว โครงการ ร้านกาแฟ “คอร์รัปชั่น ฉันไม่ขอรับ” ที่เกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์บ้านเมืองที่อยู่ในช่วงการปฏิรูปประเทศ ซึ่งหัวข้อการป้องกันทุจริตคอร์รัปชั่น ถูกระบุไว้เป็นหัวข้อใหญ่ที่ต้องมีการปฏิรูป กวาดล้างการทุจริต ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
ส่วนหลังการอบรมครั้งนี้ นักศึกษาที่เข้ารับการอบรม จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ความรู้การทำข่าว และนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อการต่อต้านปัญหาการทุจริตในพื้นที่ของตนเองได้มากน้อยแค่ไหน
"เรา -ท่าน" คงต้องรอคอยดูผลงานที่จะออกมาในอนาคตกันต่อไป
(ดูรูปภาพประกอบ)