เหยื่อตากใบ : อยากลืมมาก...แต่ยากจะลืม
"11 ปีแล้วที่เกิดเหตุการณ์กับคนตากใบ มันยากที่จะลืมได้...ชีวิตคน ตายแล้วคือจบ นั่นคือในความรู้สึกของคนอื่นที่ไม่ได้รับผลกระทบ แต่สำหรับครอบครัวของเขา ไม่ว่าจะนานแค่ไหนเขาก็ไม่ลืม"
เป็นความรู้สึกสั้นๆ เพียงไม่กี่ประโยคของ แยนะ สะแลแม หรือที่รู้จักกันในนาม "ก๊ะแยนะ" แกนนำผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ตากใบ ซึ่งอาจตอบคำถามคนทั่วไปและเจ้าหน้าที่รัฐได้ว่า 11 ปีผ่านไป พวกเขาลืมเรื่องร้ายๆ ที่เคยเกิดขึ้นหรือยัง
ก๊ะแยนะ เป็นหนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบ เพราะลูกชายก็ถูกจับในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 นางบอกว่า ทหารชอบถามชาวบ้านว่า 11 ปีแล้วยังไม่จบอีกหรือ แต่ทุกครั้งที่มีการจับกุมผู้ต้องสงสัย เจ้าหน้าที่เองที่มักตั้งคำถามว่าได้ไปร่วมชุมนุมที่ตากใบหรือเปล่า ถ้าพบข้อมูลว่าเคยไปร่วมชุมนุมที่ตากใบ ผู้ต้องสงสัยคนนั้นจะต้องถูกขยายเวลาในการควบคุมตัว จาก 7 วัน (ตามกฎอัยการศึก) เป็น 1 เดือน (ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548) แต่ถ้าไม่เคยชุมนุมที่ตากใบ ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่จับวันเดียวก็ปล่อยตัว
"ตกลงชาวบ้านหรือรัฐกันแน่ที่ยังไม่ลืมเหตุการณ์นี้" ก๊ะแยนะ ย้อนถาม ก่อนจะขยายความว่า "สิ่งเหล่านี้คอยเตือนความจำคนในพื้นที่ตากใบตลอด โดยที่พวกเขาไม่ต้องจำ เจ้าหน้าที่จะคอยย้ำพวกเรา ถามว่าใครที่ไม่ลืม ชาวบ้านหรือเจ้าหน้าที่ ใครที่คอยเตือนใจชาวบ้านให้นึกถึง ก๊ะว่าถ้าอยากให้มันจบจริงๆ ก็อย่ามาเตือนความจำชาวบ้านแบบนี้ หยุดกล่าวหาว่าคนที่ร่วมชุมนุมเป็นคนร้าย พวกเขาแค่ต้องการเรียกร้องให้ปล่อย ชรบ. (ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน) ที่ถูกจับ ไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร"
อย่างไรก็ดี ก๊ะแยนะ ยอมรับว่า จนถึงวันนี้ชีวิตของคนในครอบครัวผู้สูญเสียเกือบทุกคนดีขึ้นเยอะ หลังจากที่พวกเขามีงานทำ และได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.
"หลังจากที่ได้เงินเยียวยา พวกเขาก็มีชีวิตที่ดีขึ้น ต่างจากช่วงแรกๆ หลังเกิดเหตุการณ์ ตอนนี้เวลาไปเจอพวกเขา สีหน้าก็ดีขึ้น แต่ความในใจลึกๆ พวกเขาก็เศร้าใจกับเหตุการณ์ตากใบ แต่ทุกคนถือว่า ทุกอย่างอัลลอฮ์กำหนด เมื่อรัฐมาดูแล ก็ทำให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม จากคนที่บาดเจ็บพิการไม่สามารถทำงานได้ ไม่มีรายได้ ก็พอจะมีเงินเอาไปซื้อสวนยาง เอาไปลงทุนค้าขาย ทำให้มีรายได้ เมื่อมีรายได้ ชีวิตในครอบครัวก็ดีขึ้น"
สำหรับคดีความ ก๊ะแยนะ บอกว่า คดีของผู้ที่ถูกจับ 58 คน ข้อหาปลุกปั่นยุยงให้เกิดความวุ่นวาย อัยการถอนฟ้อง (ตามนโยบายของรัฐบาล พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์) ส่วนคดีผู้เสียชีวิตบ ชาวบ้านไม่ฟ้องเอง เพราะทุกคนคิดว่าต้องใช้เวลามากหลายคนมีปัญหาเรื่องภาษา เรื่องการเดินทาง ทำให้ตัดสินใจไม่ฟ้องต่อ (ภายหลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง จากคำสั่งไต่สวนชันสูตรพลิกศพของศาลว่าผู้ตายขาดอากาศหายใจ) ทุกอย่างตอนนี้ในทางคดีหยุดหมดแล้ว
ด้าน มาลีกี ดอเลาะ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ตากใบ จนแขนขาลีบ ใช้การไม่ได้ บอกว่า ตอนนี้ชีวิตความเป็นอยู่ก็ดีขึ้นบ้าง อยู่ตามหลักศาสนา ไปฟังการบรรยายธรรม ว่างหน่อยก็จะไปตกปลา ไม่อยากพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น อยากลืม
ขณะที่ คอรีเยาะ เจ๊ะกอมา ชาวบ้านตากใบ บอกว่า ครบรอบ 11 ปีแล้ว จำได้ว่าจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณที่เป็นสนามเด็กเล่น ตรงข้ามโรงพักเก่าในวันนี้ โรงพักฝั่งนั้นปัจจุบันกำลังสร้างแฟลตตำรวจ ตัวโรงพักย้ายไปอยู่อีกด้านหนึ่ง วันนี้ลานตรงข้ามโรงพักกลายเป็นสนามเด็กเล่น แต่ร้าง ไม่มีเด็ก ไม่มีคนเข้าไปใช้ประโยชน์
ที่นั่นยังมี ร่องรอยกระสุนอีกหลายจุด ใครเข้าไปก็เห็น ทั้งบริเวณศาลา และรั้วเหล็กที่กั้นระหว่างทางเดินจากสนามเด็กเล่นไปแม่น้ำตากใบ ข้างๆ สนามเด็กเล่นเป็นศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนเจ๊ะเห ที่เพิ่งเกิดระเบิดรถ อส.อำเภอตากใบ เมื่อวันอังคารที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา
"พื้นที่แถบนี้ปัจจุบันพัฒนาให้เป็นจุดชมวิว ส่วนสะพานข้ามแม่น้ำตากใบไป บ้านเกาะยาว หมู่ 1 ตำบลเจ๊ะเห เรียกว่าสะพานร้อยปี จากที่เคยเป็นสะพานไม้ ทุกวันนี้กลายเป็นสะพานคอนกรีตสวยงาม มีตลาดน้ำในวันเสาร์-อาทิตย์ เป็นการพัฒนาพื้นที่ตามโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ ใช้เงินอุดหนุนเฉพาะกิจสำหรับชดเชยรายได้จาก เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประมาณ 1,900,000 บาท"
"ภาพรวมในด้านวัตถุมีความเปลี่ยนแปลงมากทุกปี และ 11 ปีผ่านไปเหมือนจะนาน อาจลืมไปแล้วสำหรับคนอื่นๆ แต่สำหรับครอบครัวผู้สูญเสีย มั่นใจว่าพวกเขาไม่มีวันลืมสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเจ็บปวดแค่ไหน โดยเฉพาะ กับข้อกล่าวหาว่าคนที่ร่วมชุมนุมเป็นคนร้าย เป็นโจร" คอรีเยาะ กล่าว
11 ปีตากใบ กลายเป็นฝันร้ายที่ครอบครัวผู้สูญเสียอยากลืมมาก...แต่กลับยากที่จะลืม!
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 นางแยนะ สะแลแม หรือ ก๊ะแยนะ
2 ศาลาที่พักและสนามเด็กเล่นริมน้ำที่ร้างผู้คน
3 พื้นที่โรงพักตากใบเดิม ปัจจุบันกำลังสร้างแฟลตตำรวจ