ภายใต้เศรษฐกิจชะลอตัว ปลัดคลังคาดไทยโต 2.8% ก็เก่งแล้ว

ปลัดคลังชี้เศรษฐกิจไทยโตแค่2.8 % ก็ถือว่าเก่งแล้ว ระบุต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้แข็งแกร่งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านการลงทุน  ย้ำต้องปฏิรูปกฎหมายด้านเศรษฐกิจและการเงินทั้งระบบ

เมื่อเร็วๆ นี้ ดร.สมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงเศรษฐกิจในประเทศไทยในงานสัมมนาวิชาการในหัวข้อ “กิจบ้าน การณ์เมือง” ณ ห้องประชุม 212 อาคารมหิตลาธิเบศร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยว่า กระทรวงการคลังคาดการณ์ไว้ว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้น่าจะโตอยู่ที่ 2.8-3 %

"ได้แค่ 2.8 ก็ถือว่าเก่งแล้ว  หลายคนอาจจะบอกว่าน้อย แต่การที่เศรษฐกิจไม่ติดลบถือว่าเก่งมาก เพราะต้องบริหารภายใต้สถานการณ์ที่เศรษฐกิจชะลอตัว ทั้งนี้มาตรการที่หยอดเข้าไปเพื่อให้เศรษฐกิจโตนั้น จะต้องทำให้มีคุณภาพ  เสถียรภาพ และความยั่งยืนด้วย"

ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงมาตรการทำให้คนหันมาบริโภค ที่ผ่านมาจะเห็นว่า สินค้าในกลุ่มเกษตรตกต่ำทำให้เกษตรกรไม่มีรายได้มาใช้จ่าย  หากไตรมาสที่ 4 ยังไม่เกิดการบริโภคเศรษฐกิจจะยิ่งตกต่ำมากกว่าเดิม ที่สำคัญจะเห็นว่ารัฐบาลได้ออกมาตรการกึ่งการคลังคือให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจปล่อยสินเชื่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เดินหน้า

"นอกจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นแล้ว การสร้างความแข็งแกร่งของโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพก็จำเป็นต้องทำ วันนี้เราจะไม่ทำไม่ได้  ที่ผ่านมาบอกว่ามีแผนจะทำอะไรบ้าง รถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่  แต่เป็นแผนที่ทำไม่ได้เพราะติดขัดปัญหาหลายอย่าง  ฉะนั้นหากวันนี้แผนต่างๆที่วางไว้ไม่หยิบยกขึ้นมาทำจะส่งผลให้ความเชื่อมั่นด้านการลงทุนจากต่างชาติหายไป" ดร.สมชัย กล่าว และว่า รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พยายามที่จะเร่งทำแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้อยู่ ทั้งนี้โครงสร้างพื้นฐานด้านการเงินก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน  ในยุควิกฤตช่วงต้มยำกุ้งจะเห็นว่าสถาบันการเงินถูกให้เป็นสถาบันที่สำคัญมากที่สุด พอสถาบันการเงินมีปัญหา เจ๊ง เศรษฐกิจก็ล้มไปด้วย  ดังนั้นจะต้องสร้างความแข็งแกร่งให้สถาบันการเงิน

ส่วนเรื่องกฎหมายการเงินการคลังที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจนั้น ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในด้านกฎหมายจะต้องมาดูว่ากฎหมายนั้นได้เอื้อต่อการเงินธุรกิจทั้งไทยและต่างประเทศหรือไม่  ต้องมีการปฏิรูปกฎหมาย ดูส่วนไหนที่ขาดที่เกินช่วยกันดูให้ดี  ที่สำคัญต้องมีการออกกฎหมายเพื่อไม่ให้รัฐบาลชุดต่อๆไปใช้เงินสุรุ่นสุร่าย  เรียกว่าต้องปฏิรูปและดูทั้งระบบ

ขอบคุณภาพจากทีนิวส์