กรมเจ้าท่าเร่ง เรือประมงทุกลำติดตั้ง VMS ก่อน 22 ต.ค.นี้

กรมเจ้าท่าจัดประชุมชี้แจงทำความเข้าใจ แก้ปัญหาใบเหลืองประมงไทย เผยงบ 200ล้านเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ  รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ขีดเส้นตาย 22 ตุลาคมนี้ เรือทุกลำต้องมีระบบ VMS  ด้านประมงชายฝั่งเผย งบเยียวยามาไม่ถึงเรือเล็ก 

เมื่อเร็วๆ นี้ กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม  จัดโครงการประชุมชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจในมาตรการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฏหมาย (IUU fishing)  ณ โรงแรม เซ็นทรัล เพลส อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร โดยเป้าหมายในการประชุมครั้งนี้เพื่อสร้างความเข้าใจและความตระหนักรู้แก่ให้ผู้ประกอบการประมง อุตสาหกรรมต่อเนื่อง คนประจำเรือ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ประชาชนทั่วไป เพื่อนำไปสู่ความเข้าใจต่อดำเนินการด้านการประมงอย่างถูกต้อง สมบูรณ์เป็นระบบมาตรฐานสากลและนำไปสู่ความเข้าใจของประเทศไทยต่อสหภาพยุโรป 

ด้านนายณัฐ จับใจ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า ขณะนี้ทางกรมเจ้าท่าและศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาและจัดระเบียบเรือประมงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเร่งรัดในที่มีการติดตั้งระบบติดตามตำแหน่งเรือ (Vessel Monitoring System-VMS)  ซึ่งเรือทุกลำจะต้องติดตั้งให้เเล้วเสร็จภายในวันที่ 22ตุลาคม 2558 นี้ และขณะนี้ทาง ศปมผ. ได้เร่งดำเนินการในการจัดทำเรื่องประกาศนียบัตรให้แก่คนประจำเรือ การออกใบอนุญาตให้แก่แรงงานบนเรือ ซึ่งทุกเรื่องได้ดำเนินการมาโดยตลอด

"ด้านสหภาพยุโรป หรือ EU ได้เข้ามาติดตามผลการดำเนินการที่ผ่านมาหลังจากเมื่อต้นปีไทยได้รับใบเหลือง ซึ่งหลังจากนั้นรัฐบาลไทยได้พยายามแสดงความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้มาโดยตลอด สถานการณ์ตอนนี้มีเรือประมงเข้ามาลงทะเบียนกว่า 40,000 ลำ และพยายามเร่งรัดในการติดตั้งระบบ VMS เพื่อเป็นไปตามมาตรฐานของ IUU"

สำหรับมาตรการในการแก้ใขปัญหาการทำประมง IUU ของไทยที่ผ่านมา ได้แก่ 1. ปรับปรุงพระราชบัญญัติการประมงและกฎหมายลำดับรอง 2.การจัดทำแผนบริหารการจัดการประมง แผนระดบชาติในการป้องกัน ยับยั้งและขจัดการทำประมง IUU (NPOA) 3.การปรับปรุงระบบการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceaility) 4. การดำเนินการตรวจตรา ควมคุม และเฝ้าระวังการทำประมง (Monitoring, Control and Survillance - MCS) 5. การจัดทำระบบ VMS และ 6. การเชื่อมโยงระบบทะเบียนเรือ อาชญาบัตร และการค้ามนุษย์ในแรงงานประมง

ทั้งนี้ในที่ประชุมชี้แจงฯ ได้รายงานว่า  ขณะนี้ทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติงบประมาณ 228 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเรือประมงที่ได้รับผลกระทบการคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยเรือประมงที่จะได้รับเงินช่วยจะต้องเป็นเรือขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไป ซึ่งเรือแต่ละลำจะต้องอยู่ในเกณฑ์ของทาง ศปมผ. 12 ข้อ และจะต้องเป็นเรือที่ปฎิบัติตามกฏระเบียบของ คสช.ที่ผ่านมาเท่านั้น โดยสามารถเข้ายื่นแบบฟอร์มขอรับเงินเยียวยาได้ที่ กรมประมงประจำจังหวัดนั้นๆ โดยรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่กรมประมงประจำจังหวัด 

ด้านนางชลาลัย เซี๊ยกสาด ตัวแทนกลุ่มชาวบ้านประมงชายฝั่งสมุทรสาคร กล่าวกับสำนักข่าวอิศราถึงมาตรการการช่วยเหลือของรัฐบาลว่า มาตรการเยียวยาของรัฐบาลนั้น ไม่ได้ครอบคลุมลงมากับชาวประมงชายฝั่ง ซึ่งได้รับผลกระทบการจากคำสั่ง คสช. เช่นเดียวกัน  

"การออกคำสั่งห้ามทำประมงของ คสช. เพื่อจัดการปัญหากับประมงพาณิชย์ที่ผิดกฏหมาย โดยเฉพาะเรื่อง แรงงานต่างด้าว แรงงานเถื่อนนั้น ประมงพื้นบ้านซึ่งทำกันเฉพาะในครัวเรือนไม่ได้จ้างแรงงาน แต่กลับได้รับผลกระทบในเรื่องนี้ไปด้วย หรือแม้แต่จะพยายามปรับปรุงเครื่องมือทำตามกฏหมายแล้วก็ตาม  แต่ก็ยังไม่ได้ใบอนุญาตในการทำประมง  และเมื่อมีการช่วยเหลือเยียวยา พวกเราเองกลับไม่ได้รับการเยียวยา ทั้งๆ ที่ตลอดสามเดือนที่ผ่านมาก็ไม่ได้ออกทะเลทำมาหากิน   จึงอยากให้ทางรัฐบาลเข้ามาดูเเลในส่วนของประมงพื้นบ้านด้วยเช่นกัน" 

ที่มาของภาพ :http://www.greennewstv.com/