ชัดๆ เงื่อนงำตั้งบ.กู้เงิน5 พันล.โยงคดีข้าวจีทูจี! รอ "ลูกเสี่ยเปี๋ยง" ชี้แจงสังคม
ประมวลชัดๆ ข้อมูลเงื่อนงำ "ลูกชายเสี่ยเปี๋ยง" ตั้งบ.เงินกู้ต่างชาติปริศนา 5 พันล. โยง "คนสยามอินดิก้า-รัฐนิธ-นักธุรกิจสาว ผู้ประสานงานบ.จีน คดีซื้อข้าวจีทูจี ยุครัฐบาล "ยิ่งลักษณ์" ถึงเวลาต้องชี้แจงสังคม
นับตั้งแต่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจพบข้อมูลสำคัญชิ้นหนึ่งว่า บริษัท เมอร์รี่ไรซ์แลนด์ จำกัด ซึ่งปรากฎชื่อ นาย สรวิศ จันทร์สกุลพร ลูกชาย นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ "เสี่ยเปี๋ยง" อดีตนักธุรกิจค้าข้าวชื่อดัง ผู้ก่อตั้งบริษัทสยามอินดิก้า จำกัด เป็นกรรมการผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2556 ทำธุรกิจธุรกิจเกี่ยวกับข้าว ได้นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2558 พร้อมกัน 2 ปีรวด คือ ปี 2556 และ 2557 ระบุว่า มีรายได้ส่วนใหญ่มาจากดอกเบี้ยรับเงินฝากและจากการขายเงินลงทุน โดยรายได้ในปี 2557 แจ้งว่า มีรายได้รวม รวม 132,213,457.79 บาท และนำเสนอข้อมูลให้สาธารณชนรับทราบไปเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2558
(อ่านประกอบ : บ.คนสกุล"เสี่ยเปี๋ยง" โชว์ผลประกอบการธุรกิจข้าวล่าสุด รายได้ดอกเบี้ยโผล่ร้อยล.)
นับจนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลากว่ารวม 16 วัน ที่สำนักข่าวอิศรา เดินหน้าตรวจสอบขยายผลข้อมูลดังกล่าวมานำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง
โดยพบข้อเท็จจริงและหลักฐานสำคัญเพิ่มเติมดังต่อไปนี้
ประการแรก ในงบการเงินปี 2556 ที่บริษัทเมอร์รี่ไรซ์แลนด์ฯ นำส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้ารับทราบ ระบุว่ามีเงินกู้ยืมระยะยาวจากบริษัทเอกชนต่างประเทศ จำนวน 5,000 ล้านบาท แต่ไม่มีการวางหลักทรัพย์ค้ำประกันสัญญากู้เงิน แต่อย่างใด
ขณะที่ ในงบการเงินปี 2557 ระบุว่า บริษัทเมอร์รี่ไรซ์แลนด์ฯ มีการปล่อยเงินให้กิจการที่เกี่ยวข้องไปเป็นจำนวน 3,173 ล้านบาท แยกเป็น 2 สัญญา สัญญาแรกวงเงิน 2,933 ล้านบาท สัญญาที่สองวงเงิน 240 ล้านบาท ไม่มีการวางค้ำประกันเงินกู้เช่นกัน
นอกจากนี้ มีการระบุไว้ในหมายเหตุงบการเงินชัดเจนว่า นับตั้งแต่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมอร์รี่ไรซ์แลนด์ฯ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2556 จนถึงปัจจุบัน บริษัทเมอร์รี่ไรซ์แลนด์ฯ มิได้ประกอบธุรกิจหลัก แต่อย่างใด
(อ่านประกอบ : เงินกู้ปริศนาโผล่อีก 5 พันล. บ.คนสกุล 'เสี่ยเปี๋ยง' ไขที่มารายได้ดอกเบี้ยร้อยล. , บ.ต่างชาติให้กู้ไม่มีค้ำประกัน! ที่มาเงินปริศนา 5 พันล. บ.ลูกชาย "เสี่ยเปี๋ยง")
จึงมีคำถามสำคัญเกิดขึ้นต่อกรณีนี้ใน 3 ประเด็นหลัก คือ
1. ทำไมบริษัทเมอร์รี่ไรซ์แลนด์ฯ ของนายสรวิศ ถึงได้รับความไว้วางใจจากเอกชนต่างชาติรายนี้ ให้กู้เงินเป็นจำนวนสูงถึง 5,000 ล้านบาท แถมบริษัทฯ ยังนำเงินไปปล่อยกู้ต่อได้อีก
2. บริษัทเอกชนต่างประเทศ ที่ให้กู้ยืมเงินจำนวนถึง 5,000 ล้านบาท มีชื่อว่าอะไร ทำธุรกิจอะไร ทำไมถึงใจดีให้กู้ยืมเงิน โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันสัญญาแบบนี้
3. กิจการที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเมอร์รี่ไรซ์แลนด์ฯ ที่ได้รับเงินกู้ยืมจำนวน 3,173 ล้านบาท คือ บริษัทอะไร ทำธุรกิจอะไร และทำไมบริษัทเมอร์รี่ไรซ์แลนด์ฯ ถึงใจดีให้กู้ยืมเงิน โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันสัญญาแบบนี้ แถมวงเงินกู้ยืมจำนวน 240 ล้านบาท ตามสัญญาที่สอง ยังไม่ต้องมีการทำสัญญาด้วย
ประการสอง สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า ในช่วงก่อตั้งบริษัทเมอร์รี่ไรซ์แลนด์ฯ นายสรวิศ มีอายุเพียงแค่ 24 ปี ส่วนที่ตั้งของบริษัทเมอร์รี่ไรซ์แลนด์ฯ แจ้งที่อยู่ที่เดียวกับบริษัท สยามอินดิก้า ที่ จ.อ่างทอง
(อ่านประกอบ : ที่แท้เจ้าของ"เมอร์รี่ไรซ์ฯ"ลูกชาย"เสี่ยเปี๋ยง" ตั้ง บ.กู้เงินปริศนา5พันล.ช่วงอายุ24)
ขณะที่ ในขั้นตอนการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมอร์รี่ไรซ์แลนด์ฯ มีการใช้คนจากบริษัทสยามอินดิก้าเข้ามาช่วย ทั้งการร่วมถือหุ้น ทำบัญชี หรือแม้กระทั่งผู้สอบบัญชี ก็ใช้คนชุดเดียวกับของบริษัทสยามอินดิก้า
(อ่านประกอบ : บ.ลูกชาย "เสี่ยเปี๋ยง" ก่อนได้เงินกู้5พันล. ใช้คนสยามอินดิก้าร่วมตั้งบริษัทฯ , เปิดตัวผู้ทำบัญชีเงินกู้ 5 พันล. บ.ลูกชาย 'เสี่ยเปี๋ยง' คน 'สยามอินดิก้า' อีกแล้ว)
เบื้องต้น สำนักข่าวอิศรา ได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์นายสรวิศ หลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการชี้แจงใดๆ
ครั้งแรกติดต่อไป เจ้าหน้าที่บริษัทสยามอินดิก้าระบุว่า นายสรวิศเข้ามาทำงานทุกวันจันทร์-วันศุกร์ ให้ติดต่อกับเลขาหน้าห้องทำงาน เมื่อติดต่อไปครั้งที่สอง ได้รับแจ้งว่า นายสรวิศ ไม่ได้อยู่ที่นี่ และไม่สามารถติดต่อได้
น่าสังเกตว่า ทำไม นายสรวิศ ถึงไม่ติดต่อกลับมาชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด หรือแท้จริงแล้วนายสรวิศ ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย แต่มีผู้อยู่เบื้องหลัง และนำชื่อ นายสรวิศ มาใช้ประโยชน์ในทางธุรกิจเท่านั้น?
ประการสาม สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า นายสรวิศ ยังปรากฎชื่อเป็นเจ้าของบริษัทเอกชนอีกแห่งหนึ่ง ใช้ชื่อว่า บริษัท คิง ดอม ไรซ์ ไซโล จำกัด ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท
จากการตรวจสอบข้อมูลบริษัท คิง ดอม ไรซ์ ไซโล จำกัด พบว่า จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อปี 2555 ปรากฎชื่อ นางอรวรรณ ศรัทธาสกุล และ นางจิง โจว นักธุรกิจสาวชาวจีน เป็นกรรมการผู้มีอำนาจและผู้ถือหุ้นใหญ่
แจ้งว่ามีเงินกู้ยืมจำนวนกว่า 377 ล้านบาท มีรายได้ล่าสุดในการทำธุรกิจปี 2557 ตัวเลขอยู่ที่ 592 บาท
ขณะที่ นายสรวิศ และบริษัทเมอร์รี่ไรซ์แลนด์ฯ เพิ่งปรากฎชื่อเข้าไปเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในช่วงต้นปี 2558
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลของผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราพบว่า ที่ตั้งบริษัท คิง ดอม ไรซ์ ไซโล จำกัด ในปัจจุบันยังใช้ที่อยู่ของ นางอรวรรณ ศรัทธาสกุล ไม่มีการเปลี่ยนแปลง มีสภาพเป็นบ้านพักอาศัย ขณะที่คนในบ้านไม่เคยมีใครได้ยินชื่อ นายสรวิศ มาก่อน
(อ่านประกอบ : พบบ.ใหม่ลูกชาย"เสี่ยเปี๋ยง"ทำอสังหาฯได้เงินกู้ 377ล. โชว์รายได้ล่าสุด 592 บาท, เผยโฉม!บ้าน 3 ชั้นบ.ลูกชาย 'เสี่ยเปี๋ยง' โยง 'รัฐนิธ' ตัวแทนบ.จีนคดีข้าวจีทูจี)
จากการตรวจสอบข้อมูลเอกสารจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท คิง ดอม ไรซ์ ไซโลฯ ยังพบข้อมูลสำคัญเพิ่มเติมว่า นายรัฐนิธ โสจิระกุล หรือ “ปาล์ม” อดีตผู้ช่วยส.ส.ในลำดับที่ 3 ของนางรพิพรรณ พงศ์เรืองรอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (ภรรยานายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง) ปรากฎชื่อเป็นผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท “GSSG IMP AND EXPORT CORP” จากเมืองกวางเจา ประเทศจีน ให้เข้ามาทำสัญญาซื้อข้าวกับกรมการค้าต่างประเทศ แบบจีทูจี ก่อนที่ นายรัฐนิธ โสจิระกุล จะมอบอำนาจให้ นายนิมล รักดี หรือ "เสียโจ" (ผู้ถูกกล่าวหาคดีระบายข้าวจีทูจี และข้าวถุง) มือขวาของ นายอภิชาติ ดำเนินการนำข้าวออกมาจากโกดังรัฐบาลแทน
และ ปรากฎชื่อเป็นพยานในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท คิง ดอม ไรซ์ ไซโลฯ ด้วย
เบื้องต้น สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยังนายรัฐนิธ เพื่อขอคำชี้แจง แต่นายรัฐนิธิ ปฎิเสธที่จะชี้แจง โดยระบุว่า ขอปรึกษาทนายความส่วนตัวก่อน แต่ยอมรับว่า ผู้บริหารบริษัท คิง ดอม ไรซ์ ไซโล เป็นเจ้านายเก่าของตนเอง
ส่วนนางจิง โจว นักธุรกิจสาวชาวจีน ก็มิใช่ใครอื่น แต่เป็นผู้ประสานงานของ บริษัท Hainan grain and oil industrial trading company ที่เข้ามาทำสัญญาซื้อขายข้าวจีทูจี กับกรมการค้าต่างประเทศ และถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งข้อกล่าวหาฐานะเป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิดด้วย
(อ่านประกอบ : หลักฐานใหม่คดีข้าวจีทูจี “ปาล์ม-รัฐนิธ" โผล่ชื่อพยานตั้ง บ.ลูกชาย"เสี่ยเปี๋ยง" , ชัดเลย! นักธุรกิจจีน ร่วมตั้ง บ.ลูกชาย "เสี่ยเปี๋ยง" คนบ.ไห่หนาน คดีข้าวจีทูจี , เปิดตัว "อรวรรณ"เจ้านาย"รัฐนิธ"ตั้งบ.กู้เงิน377ล.ก่อนโอนต่อให้ลูก"เสี่ยเปี๋ยง")
ประเด็นนี้ มีข้อสังเกตที่น่าสนใจอยู่ตรงที่ เงื่อนปมเวลาในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท คิง ดอม ไรซ์ ไซโลฯ และบริษัท เมอร์รี่ไรซ์แลนด์ฯ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่โครงการระบายข้าวถูกตรวจสอบพบว่า มีปัญหาความไม่โปร่งใส และมีบุคคลหลายคนปรากฎชื่อถูกกล่าวหาในคดีข้าวจีทูจี
คำถาม คือ บริษัท คิง ดอม ไรซ์ ไซโลฯ และ บริษัท เมอร์รี่ไรซ์แลนด์ฯ แท้จริงแล้วถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์อะไรกันแน่? มีความเกี่ยวข้องอะไรกับโครงการระบายข้าวจีทูจีด้วยหรือไม่? โดยเฉพาะเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการระบายข้าวซึ่งถูกระบุว่า บริษัทสยามอินดิก้า เข้ามามีบทบาทสำคัญในการนำข้าวสต็อกรัฐบาลออกไปเร่ขายให้กับผู้ส่งออก ข้าวยังคงเวียนวนอยู่ในประเทศไทย ไม่ได้ถูกส่งออกไปต่างประเทศ?
โดยเฉพาะเงินกู้จำนวน 5,000 ล้าน ที่อ้างว่ากู้ยืมมาจากต่างประเทศ ?
ทั้งหมดนี้ คือ ข้อมูล เงื่อนงำ และคำถามสำคัญ ที่สำนักข่าวอิศราตรวจสอบพบ และรอคำชี้แจงอย่างเป็นทางการจาก นายสรวิศ ลูกชาย เสี่ยเปี๋ยง อยู่ในขณะนี้