พท.-ปชป.หนาว! กม.พรรคการเมืองฉบับใหม่ส่อพิสดาร-ต้องจดทะเบียนอีกรอบ
2 พรรคใหญ่หนาว! “วิษณุ”เปรย กม.พรรคการเมืองฉบับใหม่พิสดาร อาจต้องจดทะเบียนอีกรอบ เหตุให้โอกาส-ความเป็นธรรมนักการเมืองหน้าใหม่ ปัดทาบ “มีชัย” นั่งประธาน กรธ. โยนเจ้าตัวตอบเอง ย้อนสูตรโร้ดแม็พ “จาตุรนต์” ร่นเวลาจนลืมขั้นตอน อุบตัวเลขค่าเสียหายทางแพ่งจำนำข้าว “ยิ่งลักษณ์” 5 แสนล้านไม่ตรง
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวว่านายมีชัย ฤชุพันธุ์ ที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รับที่เป็นประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่า เห็นจากที่หนังสือพิมพ์บางฉบับพาดหัวข่าว ก็ไม่ทราบข้อเท็จจริง ต้องไปถามหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวว่าเขาไปเอามาจากไหน แล้วทำไมหนังสือพิมพ์ฉบับอื่น ๆ จึงไม่มีข่าวนั้น
“ยืนยันว่าไม่ทราบจริง ๆ และขณะนี้นายมีชัยก็อยู่ต่างประเทศ เป็นตัวแทนรัฐบาลไปประชุมเรื่องอธิบายข้อกฎหมายเกี่ยวกับประมงให้สหภาพยุโรป (EU) นานกว่า 10 วัน โดยมีส่วนหนึ่งที่จะเดินทางกลับวันนี้ (18 ก.ย. 2558) และอีกส่วนหนึ่งเดินทางกลับวันที่ 21 ก.ย. 2558 ซึ่งไม่ทราบแน่ชัดว่านายมีชัยเดินทางกลับวันไหนกันแน่” นายวิษณุ กล่าว
เมื่อถามว่า ความจริงได้ทาบทามนายมีชัยให้มาเป็นประธาน กรธ. หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ได้เป็นคนทำเรื่องนี้ และจนถึงวันนี้ ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ไม่ได้หารือหรือปรึกษาแต่อย่างใด และเข้าใจว่าในเวลานี้ นายกฯคงไม่ได้ปรึกษาใคร เพราะเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่ก่อนที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งก็ไม่รู้ว่านายมีชัย ยอมรับจริงหรือไม่ และก็ไม่ควรไปเดาเอาไว้ ให้ท่านกลับมาแล้วก็ไปถามท่านเอง
“ตอนที่ทำกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมนั้น ท่านยังพูดทีเล่นทีจริงเลยว่า จะเขียนคุณสมบัติอย่างไรก็ตามขอให้เขียนแล้ว ท่านขัดต่อคุณสมบัติด้วยเถอะ ท่านกระเซ้าผมว่าให้ช่วยเขียนหน่อย ให้ท่านขาดคุณสมบัติ ซึ่งผมยังบอกไปเลยว่า อย่างนั้นก็เขียนลงไปเลยว่าห้ามชื่อมีชัย เป็นการพูดเล่นกันในตอนนั้น เพราะท่านไม่อยากทำ แต่ถ้าสมมติว่าจวนตัวแล้ว หาคนยาก แล้วทุกฝ่ายยินยอมพร้อมใจ ก็อาจจะมีใครรับไปคุยกับท่านก็ได้ แต่ผมไม่พูดในเรื่องนี้ เพราะผมทราบเจตนาของท่านแล้ว ผมจึงไม่ควรเป็นฝ่ายไปพูด แต่คนอื่นจะไปพูดก็ไม่เป็นไร เพราะถือว่าเขาไม่เคยรู้เจตนา” นายวิษณุ กล่าว
เมื่อถามว่า แสดงว่าจะปล่อยให้นายมีชัยเป็นคนตัดสินใจเอง นายวิษณุ กล่าวว่า เอาให้แน่ก่อนว่ามีคนไปชวนนายมีชัย เพราะไม่เช่นนั้นเดี๋ยวจะเหมือนนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ ที่ระบุว่า ยังไม่มีใครมาเชิญ และหากมาเชิญแล้วจะรับหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ในเมื่อยังไม่มีใครเชิญ แล้วจะมาถามข้ามขั้นว่ารับหรือไม่ เดี๋ยวก็หน้าแตกกันไปหมด อย่างนั้นไม่ได้
ส่วนจะได้ชื่อ กรธ. ในวันที่ 22 ก.ย. เหมือนอย่างที่เคยตั้งใจไว้หรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า บอกแล้วว่าก่อนวันที่ 22 ก.ย. จะต้องได้รายชื่อ แต่ไม่จำเป็นต้องประกาศ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการตัดสินใจ เพราะบางคนจะต้องไปลาออกเพื่อให้ถูกต้องตามคุณสมบัติ เมื่อนายกฯเดินทางไปต่างประเทศในวันที่ 1-2 ต.ค. จะได้กลับมาดู และถ้าทุกอย่างเรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไร ก็สามารถประกาศในวันเดียวกันนั้นได้
“ตอนนี้หลายคนกำลังติดเงื่อนไขเหตุหนึ่งคือ จะต้องเว้นวรรคสองปี ดังนั้นการติดต่อทาบทามต้องบอกกันให้ชัดเจนว่า จะต้องรู้ด้วยว่าโดยเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวไม่ต้องการให้รับตำแหน่งทางการเมือง 2 ปี ซึ่งเมื่อครั้งเชิญ 36 คนมาเป็น กมธ.ยกร่างฯ แล้วนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างฯ (ขณะนั้น) ไปสมัครคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ทั้งที่ไม่ใช่ตำแหน่งทางการเมือง แต่ก็มีหลายคนพูดกันเสียจนนายบวรศักดิ์ต้องขอถอนตัวและลาออก ดังนั้นจึงต้องทำความเข้าใจกับคนที่จะมาเป็น กรธ. ด้วย เพราะต้องใช้ข้อห้ามอันเดียวกันนั้นมาใช้โดยอนุโลมด้วยเช่นกัน” นายวิษณุ กล่าว
@เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์หนาว! กฎหมายพรรคการเมืองฉบับใหม่พิสดาร
นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาธิการ เสนอให้ร่นระยะเวลาโร้ดแม็พ คสช. เหลือเป็นสูตร 3-3-3-2 หรือ 3-3-3-3 ว่า สำหรับโร้ดแม็พของ คสช. 6-4-6-4 รัฐบาลพูดในเชิงคาดหมายให้ยาวไก่อน ส่วนจะลดกันมาอย่างไรก็จะทำ ซึ่งประเด็นอยู่ที่เลข 4 สุดท้าย เพราะเป็นเรื่องการเตรียมการเลือกตั้ง หากรัฐธรรมนูญใหม่กำหนดให้เตรียมการเลือกตั้ง 3 เดือนก็ต้อง 3 เดือน ส่วนอีก 1 เดือนที่โผล่มาเพื่อกำหนดเวลาทูลเกล้าฯถวายกฎหมายลูก 6 ฉบับลงพระปรมาภิไธย ดังนั้นจะลดจาก 4 เหลือ 2 ก็ได้ แต่ 2 นั้นแปลว่านายจาตุรนต์ได้รวมเวลาทูลเกล้าฯถวายกฎหมายลูกด้วยแล้วหรือยัง นอกจากนี้การหาเสียงเลือกตั้งที่คิดว่า 2 เดือนพอนั้น พอสำหรับพรรคเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ที่เขาตั้งไว้เรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับคนที่จะตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ เขาตั้งไม่ทัน บางคนอาจบอกว่าทำไมถึงไม่ทัน เพราะวันนี้ยังตั้งไม่ได้ เนื่องจากประกาศ คสช. ห้ามตั้งพรรคการเมือง
“ถ้าถามว่าเมื่อไหร่จะตั้งได้ ก็เมื่อตอนที่กฎหมายพรรคการเมืองที่จะออกมาคราวหน้า แล้วกฎหมายฉบับใหม่นั้น ไม่ใช่ปัจจุบัน ซึ่งเราก็ยังไม่รู้ว่ามีการกำหนดเงื่อนไขใด ๆ ที่พิสดารไปกว่าปัจจุบันนี้หรือไม่ และผมเชื่อว่าพิสดารด้วย” นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ดังนั้นเมื่อพิสดาร พรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์เผลอ ๆ จะต้องไปจดทะเบียนตั้งพรรคใหม่ กว่าจะตั้งพรรคเสร็จ กว่าจะหาสมาชิก กว่าจะลงหาเสียง จัดพิมพ์โปสเตอร์ 2 เดือนแค่นั้นก็ไม่ทัน ถึงได้ให้ไว้สามเดือน เท่านี้คือตัวอย่างว่าจะลดได้ไม่ได้ จึงไม่จำเป็นต้องมาต่อปากต่อคำ ต่อล้อต่อเถียง ตนไม่เถียงด้วย เพราะคุณจะลดเป็น 1-1-1-1 ก็ไม่ว่า ขอให้จัดการให้ได้เท่านั้น หรือบางคนบอกว่าจะเป็น 4-1-4-1 ก็ไม่ว่า รวมแล้ว 11 เดือน เพียงแต่ขอให้จัดการได้เท่านั้น ก็ขออนุโมทนาสาธุด้วย ไม่ว่าอะไร แต่ในฐานะที่รู้อยู่ว่าทุกอย่างมีขั้นตอนและไม่ใช่ง่าย แต่ก็จะพยายามเจรจากับผู้ที่เกี่ยวข้องว่าขอให้ท่านไปพิจารณาปรับลดเอง แล้วจะได้ประกาศระยะเวลาโร้ดแม็พใหม่ให้
ส่วนจะพิสดารจนทำให้พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์อาจจะต้องจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่บอก แต่พูดเผื่อไว้เพราะกฎหมายพรรคการเมืองจะต้องเขียนตามรัฐธรรมนูญ เรายังไม่รู้ว่า รัฐธรรมนูญจะเขียนอย่างไร เนื่องจากในรัฐธรรมนูญฉบับนายบวรศักดิ์ 285 มาตรา เราก็เห็นหน้าตากันหมดก็เป็นตัวอย่างว่า ถ้ารัฐธรรมนูญฉบับนั้นได้ใช้บังคับ กฎหมายพรรคการเมืองก็ต้องออกใหม่ และเป็นคนละเรื่องกับกฎหมายพรรคการเมืองปัจจุบัน ไปอ่านดูก็แล้วกันว่า ถ้าฉบับของนายบวรศักดิ์ที่ออกมา พรรคที่มีอยู่แล้ว จะต้องไปตั้งพรรคขึ้นใหม่อย่างไร หรือไม่ แล้วคิดว่าฉบับที่ออกมาใหม่นั้น จะไม่กำหนดหรือ เพราะรัฐธรรมนูญใหม่ที่จะออกมาต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกพรรค ในการกำหนดใด ๆ บางอย่าง เพราะฉะนั้นการที่จะบอกว่า พอประกาศใช้กฎหมายลูกแล้วอีก 7 วันเลือกตั้งกันเลย อย่างที่มีคนพูด นั่นก็คือการเอื้อให้พรรคการเมืองที่มีอยู่แล้วได้เปรียบ หมายถึงพรรคที่มีการบริหารอยู่แล้ว มีทุน มีสมาชิก มีหัวคะแนนอยู่แล้วจะได้เปรียบ ซึ่งในทางการเมืองจะยอมอย่างนั้นไม่ได้ เพราะต้องเปิดโอกาสให้กับทุกคนทุกพรรค
“การที่นายจาตุรนต์ ระบุว่า ให้เลือกตั้งภายใน 45 วันนั้น คงหมายถึงเท่าที่พรรคการเมืองปัจจุบันบริหารงานกันอยู่ แต่การเลือกตั้งคราวต่อไป หลังจากที่ประเทศว่างเว้นการเลือกตั้งมาหลายปี และพรรคการเมืองหยุดทำกิจกรรมมานานหลายปี การจะฟื้นกิจกรรมหาเสียงเลือกตั้ง ก็ต้องอย่าลืมว่านี่คือการตั้งผู้แทนราษฎร การตั้งรัฐบาล ดังนั้นต้องให้โอกาสคนใหม่ที่เขายังไม่เคยได้เข้ามามีโอกาสด้วย ตรงนี้ก็ต้องให้เวลาเพราะมันต้องใช้เวลาทั้งนั้น” นายวิษณุ กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า หากจะเกิดความพิสดารอย่างนั้น แสดงว่าทุกคนจะต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่หมดเลยใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า คงไม่ เพราะบางพรรคมีทุนเดิมอยู่ก็ใช้ได้ มีสมาชิกพรรคอยู่ก็เอามาได้ แต่สำหรับพรรคใหม่ ไม่มีสมาชิกเลยแม้แต่คนเดียว ก็ต้องมาหาสมาชิกเพียงแค่กรอกแบบฟอร์มก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว เพราะฉะนั้น 2 พรรคใหญ่ จะได้เปรียบ แต่จะเอาเปรียบทั้งหมดไม่ได้ จะต้องเปิดโอกาสให้คนอื่นเขาบ้าง เพราะบางพรรคมีต้นทุนอยู่บ้างแล้ว ก็ต้องเผื่อคนที่ไม่มีต้นทุนด้วย แต่จะเอาต้นทุนทั้งหมดมาใช้ 100% คงไม่ได้ ต้องมีอะไรบางอย่างที่ต้องทำเพิ่มเติม
@อุบตัวเลขเรียกค่าเสียหายจำนำข้าว “ยิ่งลักษณ์” ยัน 5 แสนล้านบาทตามที่ออกสื่อไม่ตรง
นายวิษณุ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการเรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวว่า ในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ทุกอย่างจะต้องจบภายในชั้นของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง จำนวน 2 ชุด ที่มีกระทรวงพาณิชย์ กับกระทรวงการคลัง เป็นผู้รับผิดชอบ เสร็จแล้วจะส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ อ่าน จากนั้นส่งไปให้คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง ที่มีอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธานพิจารณา โดยคณะกรรมการฯชุดนี้จะพิจารณาว่า ต้องเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ ซึ่งปกติเมื่อเรียกค่าเสียหาย ผู้ถูกกล่าวหาจะไม่ยอม และฟ้องกลับรัฐบาลต่อศาลปกครองใน 30 วัน เพื่อให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว ซึ่งแทนที่รัฐจะเป็นโจทก์ก็กลายเป็นผู้ถูกกล่าวหา ส่วนผู้ถูกกล่าวหาก็กลายเป็นโจทก์ฟ้องเอง แต่ถ้าเขาไม่ฟ้องกลับเราก็ยึดทรัพย์ตามจำนวนที่คณะกรรมการฯสรุปมา วิธีนี้ใช้มาแล้วในคดีของนายเริงชัย มะระกานนท์ อดีตผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย กรณีก่อให้เกิดความเสียหายจากการนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศไปใช้ในการปกป้องค่าเงินบาทในช่วงระหว่างปี 2539-2540 และคดีรถ-เรือดับเพลิง เป็นต้น
ส่วนที่มีข่าวว่าคณะกรรมการฯสรุปตัวเลขว่าจะเรียกค่าเสียหาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ 5 แสนล้านบาท และนายบุญทรง กับพวก 1 หมื่นล้านบาทนั้น นายวิษณุ กล่าวสั้นว่า “ตัวเลขเสร็จแล้ว แต่ไม่ขอตอบ เอาเป็นว่าข่าวที่ออกมาตัวเลขไม่ตรง”
อ่านประกอบ :
“บิ๊กตู่”บี้ ก.คลัง-พาณิชย์ หาตัวคนชดใช้ค่าเสียหายจำนำข้าวสิ้นปี’58
ไทม์ไลน์คดีแพ่งจำนำข้าว“ยิ่งลักษณ์-พวก”ขีดเส้นชดใช้ค่าเสียหายสิ้นปี’58 (INFO)
รัฐขีดเส้นสอบ“ปู-พวก”ชดใช้ค่าเสียหายจำนำข้าวสิ้นปี-ยึดทรัพย์แทนฟ้องแพ่ง
สนช.ถาม"บิ๊กตู่"ฟ้องแพ่งจำนำข้าวเมื่อไหร่!-ยันต้องมีคนรับผิดชอบ
ป.ป.ช. ยันรบ.ต้องฟ้องแพ่งจำนำข้าว-บี้หาคนรับผิดชอบ "ไม่ทำไม่ได้"
ไม่นิ่งนอนใจ! “พิชิต”เผยทีมทนายเรียกถกปมคลังฟ้องแพ่ง“ปู” 23 ก.พ.นี้