สอบวินัยร้ายแรง"ดิเรกฤทธิ์"ขวางประชุม ก.ศป.-ปิยะแจงตั้ง กก.ทันก่อนลาออก
"ปิยะ ปะตังทา" รักษาการปธ.ศาลปค. แจงตุลาการ ยันตั้ง คกก.สอบสวนวินัย ดิเรกฤทธิ์ กรณีขว้างการประชุม ก.ศป. ทันสิ้นเดือน ก.ย.นี้แน่นอน หลังผลสอบข้อเท็จจริงเห็นสมควรกล่าวหา "กระทำผิดวินัยร้ายแรง"
กรณีนายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีไม่ดำเนินการเปิดประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) ตามที่คณะกรรมการ ก.ศป.ได้เข้าชื่อกันเพื่อขอให้เปิดประชุม ก.ศป.เพื่อพิจารณาพักราชการนายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุดระหว่างการสอบสวนกรณีจดหมายน้อยฝากตำรวจ ในช่วงกลางเดือนมีนาคม 2558 แต่นายดิเรกฤทธิ์ ไม่ยอมดำเนินกลับไปหารือนายหัสวุฒิและกำหนดให้ประชุมเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2558 นั้น
(อ่านประกอบ : ก.ศป.มีมติให้ ปธ.ศาลปกครองสอบ "ดิเรกฤทธิ์"กล่าวหาขวางประชุมพักงาน"หัสวุฒิ" )
แหล่งข่าวจากสำนักงานศาลปกครอง เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีนี้ ซึ่งประกอบไปด้วย นายสมชัย วัฒนการุณ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด นายประวิตร บุญเทียม ตุลาการศาลปกครองสูงสุด นายอดุลย์ จันทรศักดิ์ รองอธิบดีศาลปกครองพิษณุโลก นายสุรพันธ์ บุรานนท์ รองเลขาธิการ สำนักงานศาลปกครอง นางอัมพวัน ยุวกาญจน์ ที่ปรึกษา (พนักงานคดีปกครองทรงคุณวุฒิ) สำนักงานศาลปกครอง เป็นเลขานุการ ได้สรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีนี้เสร็จสิ้นมาเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว
โดยคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเห็นสมควรกล่าวหานายดิเรกฤทธิ์กระทำผิดวินัยร้ายแรง ซึ่งตามขั้นตอนนายปิยะ ปะตังทา รองประธานศาลปกครอง รักษาการตำแหน่งประธานศาลปกครอง จะต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยขึ้นมาเพื่อสอบสวนนายดิเรกฤทธิ์ตามขั้นตอนทางกฎหมาย
แต่เนื่องจากสำนักงานศาลปกครอง ไม่มีข้าราชการที่มีตำแหน่งเทียบเท่ากับนายดิเรกฤทธิ์ ทำให้ต้องมีการทาบทามบุคคลภายนอกเข้ามาทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการสอบสวนวินัยนายดิเรกฤทธิ์
อย่างไรก็ดี ผลจากการที่นายดิเรกฤทธิ์ ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการ และจะมีผลภายในวันที่ 2 ต.ค.2558 นี้ ขณะที่กรณีนี้ผลการสอบสวนข้อเท็จจริงเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่มีการสอบสวนทางวินัย ทำให้ตุลาการศาลปกครองได้ทวงถามต่อนายปิยะ ปะตังทา เพราะเกรงว่าการสอบสวนทางวินัยจะไม่ทัน
ล่าสุด นายปิยะ ได้ส่งข้อความแจ้งความคืบหน้าการสอบสวนคดีนี้อย่างไม่เป็นทางการไปยังตุลาการศาลปกครอง โดยมีเนื้อหาว่า "เรียนทุกท่านเพื่อทราบ เรื่องเลขาดิเรกฤทธิ์ ออกคำสั่งให้ดำเนินการตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงแล้ว กรรมการมาจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) 1ท่าน สนง.ศาลรัฐธรรมนูญ 1 ท่านสนง.อัยการสูงสุด1ท่าน ขณะนี้อยู่ขั้นตอนขออนุญาตจากหน่วยงานต้นสังกัด ได้รับอนุญาตแล้ว 2 หน่วยงานยังขาดอยู่ 1 หน่วยงาน(เพราะกรรมการย้ายหน่วยงาน) การตั้งต้องทำภายใน 180 วันนับแต่วันได้รับอนุญาตให้ลาออก(วันลาออกมีผล2ตค.58) ดังนั้น ตั้งทันแน่นอน ภายในเดือนนี้น่าจะเรียบร้อยครับ"
แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า กรณีการออกจากราชการไปแล้วก็ยังถูกดำเนินการทางวินัยได้ ตามมาตรา 100 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 "ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดมีกรณีถูกกล่าวหาเป็นหนังสือว่ากระทำหรือละเว้นการกระทำใดที่เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ถ้าเป็นการกล่าวต่อผู้บังคับบัญชาของผู้นั้นหรือต่อผู้มีอำนาจสืบสวนสอบสวนหรือตรวจสอบตามกฎหมายหรือระเบียบของทางราชการ หรือเป็นการกล่าวหาโดยผู้บังคับบัญชาของผู้นั้น หรือมีกรณีถูกฟ้องคดีอาญาหรือต้องหาว่ากระทำความผิดอาญาอันมิใช่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทที่ไม่เกี่ยวกับราชการหรือความผิดลหุโทษ แม้ภายหลังผู้นั้นจะออกจากราชกาไปแล้ว โดยมิใช่เพราะเหตุตาย ผู้มีอำนาจดำเนินการทางวินัยมีอำนาจดำเนินการสอบสวนหรือพิจารณา และดำเนินการทางวินัยตามที่บัญญัติไว้ในหมวดนี้ต่อไปได้เสมือนว่าผู้นั้นยังมิได้ออกจากราชการ แต่ทั้งนี้ผู้บังค้บบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 ต้องดำเนินการสอบสวนตามมาตรา 93 วรรคหนึ่ง ภายใน180 วันนับแต่วันที่ผู้นั้นพ้นจากราชการ
ในกรณีตามวรรคหนึ่ง ถ้าผลการสอบสวนพิจารณาปรากฏว่าผู้นั้นกระทำผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงก็ให้งดโทษ
(อ่านประกอบ : โปรดเกล้าฯ 'ดิเรกฤทธิ์' เลขาฯศาลปค. ลาออกราชการ ไปประกอบอาชีพอื่น)
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก www.naewna.com