ครม.อนุมัติเยียวยาภาคเกษตร แปลงโฉมศูนย์อพยพเป็นรร.ฝึกอาชีพ

คณะรัฐมนตรีผุดโครงการช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ่าย 3 หมื่นช่วยซ่อมแซมบ้าน ปรับศูนย์อพยพเป็นโรงเรียนฝึกฝีมือแรงงานเบี้ยเลี้ยงวันละ120 บ.ธกส.เตรียมวงเงินกว่า 3 หมื่นล้านปล่อยสินเชื่อเกษตรกร

นางฐิติมา  ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือภาคเกษตรและประชาชนทั่วไปที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วม ว่าครม.เห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปรับปรุงรูปแบบให้เป็นศูนย์พัฒนาฝีมือและคุณภาพชีวิตชั่วคราวโดยจัดบริการเบ็ดเสร็จให้ความช่วยเหลือด้านอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค  การดูแลสุขภาพให้บริการทางการแพทย์ และการเยียวยาจิตใจ ทั้งนี้ ในระหว่างที่ฝึกอบรมอาชีพผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะได้รับเบี้ยเลี้ยง 120 บาทต่อวันและหากประสงค์จะทำงานต่อจะจัดหางานให้ทำต่อในศูนย์พักพิง เช่น ทำอาหาร ดูแลเด็ก ผู้สูงอายุและผู้พิการ  เป็นต้นโดยได้รับค่าจ้างตามอัตราขั้นต่ำของแต่ละพื้นที่รวมทั้งหางานอาชีพให้ทำนอกศูนย์พักพิงที่มีตำแหน่งงานว่างอยู่กว่า 30,000 ตำแหน่ง

การจัดตั้งคลังอาหารสดและอาหารปรุงสำเร็จ เนื่องจากประชาชนในจังหวัดต่างๆ  ที่อยู่นอกพื้นที่ประสบอุทกภัยยังมีศักยภาพและมีความประสงค์ที่จะส่งอาหารเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดอื่น ให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาจัดตั้งคลังอาหารสดและอาหารปรุงสำเร็จ สำหรับช่วยเหลือผู้ประสบภัยในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล   และให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ประสานให้จังหวัดที่มีศักยภาพและพร้อมดำเนินการรวบรวมส่งเข้าคลังและจัดให้มีจังหวัดคู่แฝดที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกันที่มีศักยภาพและมีความพร้อมเพื่อช่วยเหลือจังหวัดที่ประสบภาวะอุทกภัย

สำหรับผู้ประสบภัยบ้านเรือนพังหรือเสียหายจะได้รับความช่วยเหลือไม่เกินครอบครัวละ 30,000 บาท ส่วนการฟื้นฟูอาชีพให้กระทรวงเกษตรฯเตรียมโครงการและงบประมาณช่วยเหลือความเสียหาย เช่น ความเสียหายด้านพืช ปศุสัตว์และประมง การช่วยเหลือเมล็ดพันธุ์ข้าว พันธุ์สัตว์น้ำ และพันธุ์สัตว์ปีก  การฟื้นฟูสุขภาพสัตว์ การแก้ไขปัญหาน้ำเสียและฟื้นฟูคุณภาพดินและการช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ  ขณะที่ลูกหนี้ธกส.จัดให้มีการช่วยเหลือผู้ประสบภัย  2 โครงการได้แก่สินเชื่อเพื่อฟื้นฟูการประกอบอาชีพเกษตรฯวงเงินรวม 30,000 ล้านบาท  อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าปกติร้อยละ 3 ต่อปี และสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรวงเงินรวม 30,000 ล้านบาทอัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบัน ร้อยละ 7 ต่อปี) ระยะ 3-5 ปี หรือยาวกว่านั้น

ซึ่งให้รวมถึงเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายที่ไม่ได้เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. สามารถขึ้นทะเบียนเป็นลูกค้าได้ สำหรับสมาชิกสหกรณ์การเกษตรและเกษตรกรที่เป็นลูกค้าธนาคารพาณิชย์ มอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการคลังประสานให้ได้รับความช่วยเหลือในลักษณะเดียวกันกับลูกค้าธกส. กรณีลูกค้าประสบภัยและเสียชีวิต ให้ธ.ก.ส. ปลดหนี้ให้กับทายาทหรือคู่สมรสและรับเป็นลูกค้าเพื่อให้สินเชื่อฟื้นฟูการผลิต กรณีประสบภัยร้ายแรงและไม่เสียชีวิตจะมีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และพักชำระหนี้ ซึ่งกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติงบประมาณชดเชยดอกเบี้ยในช่วงพักชำระหนี้ 3 ปีแทนเกษตรกรต่อไป.