'10 ประยุทธ์ 100 ประมนต์ ก็สู้พลัง ปชช.ไม่ได้' รวมพลต้านภัยคอร์รัปชัน
ที่มาภาพ:http://www.thaigov.go.th
นับเป็นปีที่ 5 สำหรับการจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันแห่งชาติ ภายใต้แนวคิด Active Citizen ปลุกจิตสำนึกไทย ต้านภัยคอร์รัปชัน ซึ่งปีนี้ได้รับความสนใจจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน กว่าหนึ่งพันคน เคลื่อนขบวนพาเหรดเพื่อแสดงพลังอย่างคึกคัก เเละเข้าร่วมล้นคอนเวนชั่น ฮอลล์ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า การต่อสู้กับการคอร์รัปชัน การโกงชาติ ไม่สามารถทำคนเดียวได้ ไม่ว่าจะเก่งมาจากไหนก็ตาม เพราะเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องร่วมกันทำ จึงกลายเป็นที่มาของแนวคิดจัดงานครั้งนี้ Active Citizen
ทั้งนี้ หลายคนสงสัยว่า เพราะเหตุใดต้องใช้คำภาษาอังกฤษ ด้วยเป็นศัพท์เฉพาะที่ใช้ทั่วโลก เป็นแนวทางการปฏิรูปสังคมที่นานาประเทศปฏิบัติอย่างแพร่หลายและยอมรับ โดย Active แปลว่า กระตือรือร้น มีพลัง มีความพร้อมเคลื่อนที่ พร้อมปฏิบัติการ ส่วน Citizen แปลว่า พลเมือง รวมกันแล้ว คือ พลเมืองที่มีพลัง มีการตื่นรู้ และพร้อมลงมือทำงาน
“ทุกการปฏิรูป การสร้างการเปลี่ยนแปลง ผู้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริงและยั่งยืนต้องมาจากประชาชน ผู้เป็นเจ้าของประเทศเท่านั้น ผู้ขับเคลื่อนมีหน้าที่นำทาง แต่หากประชาชนไม่ร่วมลงมือ ไม่ร่วมปฏิบัติ ทำหน้าที่เป็นผู้เฝ้ามอง หรือสนับสนุนให้กำลังใจ การเปลี่ยนแปลงอาจเกิดขึ้นได้ แต่จะไม่มีวันยั่งยืน เปรียบเสมือนการรักษาโรค ต่อให้มีหมอดีแค่ไหน มียาดีแค่ไหน หากคนไข้ใจไม่สู้ ไม่กระตือรือร้น ไม่ร่วมมือ การรักษาย่อมเป็นไปได้ยาก และอาจเป็นไปไม่ได้เลย”
ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ กล่าวต่อว่า เราร่วมกันต่อสู้มา 5 ปีแล้ว ประชาชนเริ่มตื่นรู้และมีส่วนร่วมมากขึ้น จากนี้ไปประชาชนไทยต้องลุกขึ้นมาทำ ประชาชนทำได้มากมาย เริ่มจากตระหนักรู้ในหน้าที่ ซื่อตรงต่อวิชาชีพ อย่าให้ใครนำเงินมาซื้อศักดิ์ศรี อย่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าความอัปยศของประเทศชาติ นอกจากตัวเองจะไม่โกงแล้ว อย่าดูดาย ปล่อยให้การโกงเกิดขึ้นอย่างไม่รู้เห็น เพราะนั่นคือความเลวร้าย พอ ๆ กับการโกงด้วยตัวเอง
ที่สำคัญ เรามีช่องทางมากมายที่รัฐบาลจัดเตรียมไว้ได้ ประชาชนสามารถแจ้งเรื่องที่พบเห็นได้ ใครทำอะไรได้ โปรดทำอย่ารอช้า อย่าเสียเวลา อย่าเกี่ยงหน้าที่ ทุกคนไม่ว่าจะเป็นประชาชนคนธรรมดา ไปจนถึงภาคเอกชน องค์กรธุรกิจ ทุกภาคส่วน ต้องร่วมรับผิดชอบต่อการต่อสู้คอร์รัปชัน ผมย้ำว่า ในการลุกขึ้นมาเป็น Active Citizen นั้น การมีส่วนร่วมเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะหากประชาชนนิ่งเฉย แปลว่า จบ จะให้มี 10 ประยุทธ์ หรือ 100 ประมนต์ ก็สู้พลังประชาชนไม่ได้ พลังพลเมืองเท่านั้นที่จะสร้างความเปลียนแปลงอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้การจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน ยังมีการเปิดเวทีให้ประชาชนแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยเปิด 4 ห้องเสวนา เพื่อหาแนวทางต่อสู้กับปัญหาคอร์รัปชันให้มีประสิทธิภาพ เช่น ภาคธุรกิจร่วมเป็น Active Business ไม่โกงก็กำไรได้, ภาคประชาชน:พลังพลเมืองทำอะไรได้บ้าง รวมถึงการหาแนวทางสร้างค่านิยมให้เยาวชนไม่โกงฯ นอกจากนี้ให้ห้องภาคเยาวชน และหารือถึงแนวทางในการขยายแนวคิดป้องกันภัยคอร์รัปชันให้ห้องภาควิชาการ และอีก 1 ห้องพิเศษ เกาะติด 10 อันดับคดีโกง ด้วย
สำหรับบรรยากาศการเคลื่อนขบวนพาเหรดเพื่อแสดงพลังต่อต้านคอร์รัปชันในช่วงเช้าคึกคักอย่างไร สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รวบรวมบรรยากาศมานำเสนอ
(กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวเเละกีฬา ร่วมถ่ายภาพกับเครือข่ายต้านโกง)
(กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวเเละกีฬา เเละอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าเเห่งประเทศไทย ร่วมถ่ายภาพ)
(นางสาวไทยก็มาให้กำลังใจ)
(วงโยธวาทิต ร่วมบรรเลงเพลง ปลุกจังหวะเร้าอารมณ์ในหัวใจ)
(ธนาคารออมสินใส่เสื้อทีมสีชมพูร่วมงาน)
(ธนาคารกรุงเทพฯ ก็ไม่ยอมเเพ้ รวมพลังต้านโกง)
(สตง.มีมาสคอต สู้ตาย!)
(ธนาคารธนชาตก็มา)
( CSS รวมพลังต้านโกง)
(ทีมนี้หล่อ-สวย ถ้วนหน้า)
(เเม้มาน้อย เเต่ ขสมก.ก็สู้นะ)
(สาว สาว สาว)
(ทีโอที รวมพลังต้านโกงคึกคัก)