ศาลฎีกาฯจำคุกหนัก 16 เดือน รองนายกเทศฯ จ.สงขลา ไม่ยื่นบัญชีฯ-ทะลุ 42 คน
ฟัน 3 นักการเมืองท้องถิ่น ศาลฎีกาฯสั่งจำคุกคดีจงใจไม่ยื่นบัญชีฯทรัพย์สิน รองนายกเทศมนตรีจะนะ จ.สงขลา โดนหนัก ไม่ยื่น 4 ครั้ง โดน 16 เดือน ปรับ 40,000 บาท รอลงโทษ 3 ปี อีก 2 รายอยู่พัทลุง มหาสารคาม ยอดรวมทะลุแล้ว 42 คดี
นับจากเดือน ม.ค. 2558 มีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐ ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินคดีความผิดจงใจไม่ยืนบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จำนวน 39 ราย (คดี) แบ่งเป็นนักการเมือง 38 ราย (คดี) และ กรรมการรัฐวิสาหกิจ 1 ราย
ล่าสุดศาลฎีกาตัดสินให้นักการเมืองมีความผิดจงใจไม่ยืนบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพิ่มอีก 3 ราย ทำให้มียอดรวมทั้งสิ้น 42 ราย ในจำนวนนี้เป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ 1 ราย นักการเมืองท้องถิ่น 41 ราย
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ สำนักงานศาลฎีกาฯ ได้เผยแพร่คำพิพากษาคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยื่นคำร้องต่อศาลกรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน จำนวน 3 ราย และศาลฎีกาฯได้วินิจฉัยให้มีความผิดทั้ง 3 ราย ในจำนวนนี้มี 1 ราย จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ 4 ครั้ง ศาลฎีกาฯตัดสินจำคุก 16 เดือน และปรับ 40,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษมีกำหนด 3 ปี มีรายละเอียดดังนี้
1.นายวสันต์ จันทร์ช่วง รองนายกเทศมนตรีตำบลจะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีรับตำแหน่ง พ้นตำแหน่ง พ้นตำแหน่งครบหนึ่งปี (กรณีรับดำรงตำแหน่งครั้งแรก) และ กรณีดำรงตำแหน่งครั้งที่สอง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลจะนะ นับจากวันที่ 16 ก.ค.58 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาฯวินิจฉัย และห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับจากวันที่ 16 ก.ค.58 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคหนึ่ง กับมีความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 จำคุกกระทงละ 4 เดือน ปรับกระทงละ 10,000 บาท รวม 4 กระทง เป็นจำคุก 16 เดือน และปรับ 40,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน พฤติการณ์แห่งคดีไม่ร้ายแรง โทษจำคุกให้รอการลงโทษ มีกำหนด 3 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม.45/2558- 16 ก.ค.58)
2.นายณัฐวุฒิ จำนงนิจ สมาชิกสภาเทศบาลเมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง นับแต่วันที่ 29 มิ.ย.55 ซึ่งเป็นวันที่พ้นตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 ลงโทษจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้รับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.46/2558- 23 ก.ค.58)
3.นายนัด พรหมรัตน์ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลท่าแค อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีรับตำแหน่ง วันที่ 7 ม.ค.56 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษานายกเทศมนตรี ในวันที่ 4 ส.ค.58 ในวันที่ศาลฯวินิจฉัย และห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 4 ส.ค.58 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคหนึ่ง กับมีความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 ลงโทษจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้รับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.47/2558- 4 ส.ค.58)
อ่านประกอบ:
ศาลฎีกาฯสั่ง‘ปรับ-จำคุก’อีก 5 นักการเมืองจงใจซุกทรัพย์สิน - ยอดรวมพุ่ง 39 คน
เทียบคดีซุกทรัพย์สิน ‘อภินันท์’จ.แพร่ -‘ชาญณรงค์’จ.ชัยภูมิ ‘รับสารภาพ’ จุดพลิกผัน?
พ้นตำแหน่งทันที!รองนายกฯ จ.ชัยภูมิ‘ซุกทรัพย์สิน’ ศาลฎีกาฯรอลงโทษจำคุก2ปี
32 นักการเมืองซุกทรัพย์สินรอลุ้นศาลฎีกาฯ-ท้องถิ่นอื้อ! ส.ก. รองนายกฯ อบจ. 31 คน