เปิดคำให้การลับ "บ.รชาพันธ์" อ้างถูกปลอมลายเซ็นซื้อข้าวถุงอคส. 787 ล้าน
เปิดคำให้การลับ "บ.รชาพันธ์" เจ้าของอ้างถูกปลอมลายเซ็นซื้อข้าวถุง 787 ล้าน ยันไม่เคยรับทราบว่าได้งานจาก อคส. เผยเบื้องหลัง"ลูกน้อง"แนะนำให้ทำ ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก ไม่รู้จัก"สมคิด เอื้อนสุภา" คนสยามอินดิก้า
สาธารณชนคงได้รับทราบข้อมูลกันไปแล้วว่า บริษัท รชาพันธ์ หรือชื่อใหม่ บริษัท รชาพันธ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด 1 ใน 6 บริษัทเอกชนที่ปรากฎรายชื่อเข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่ายข้าวถุงให้กับองค์การคลังสินค้า (อคส.) ในโครงการระบายข้าวสารบรรจุถุงราคาถูกให้กับประชาชน ตามสัญญาเลขที่ 385/2556 ลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2556 ซึ่งปรากฎชื่อ นายสมคิด เอื้อนสุภา คนของบริษัทสยามอินดิก้า จำกัด เป็นผู้สั่งซื้อสินค้าแทนจำนวน 12 ล้านถุง เป็นเงิน 787,200,000 บาท
แท้จริงแล้วทำธุรกิจรับจ้างฝึกอบรมและขยายงาน มิได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจค้าข้าวแต่อย่างใด
แต่เงื่อนปมปริศนาสำคัญที่ยังไม่ได้ถูกเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการ คือ บริษัท รชาพันธ์ จำกัด เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ในฐานะตัวแทนจำหน่ายข้าวถุงให้กับ อคส.ได้อย่างไร?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลพบว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค.2558 กรรมการบริษัท รชาพันธ์ จำกัด รายหนึ่ง ได้เดินทางเข้าให้ถ้อยคำกับ สตง. โดยยืนยันว่า บริษัทฯ ประกอบกิจการเกี่ยวกับการฝึกอบรมสัมมนา เช่น ดำเนินการจัดหาวิทยากร จัดหาสถานที่ในการอบรมสัมมนา ตั้งแต่ปี 2539 เป็นเวลาประมาณ 20 ปี ให้กับหน่วยงานของรัฐและหน่วยงานเอกชนต่างๆ อาทิ การจัดอบรมละลายพฤติกรรมที่กรมศุลกากร เป็นต้น
ส่วนการเข้าไปเป็นตัวแทนจำหน่ายข้าวถุงให้กับ อคส. นั้น กรรมการบริษัทฯ รายนี้ ให้การว่า ทราบเรื่องจากลูกน้องในบริษัทรายหนึ่ง ว่า มีประกาศกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับการซื้อข้าวถุงไปขาย
โดยลูกน้องรายนี้ ยืนยันว่า การดำเนินการขายนั้นไม่ยาก โดยข้าวถุงนั้นจะนำไปขายให้แก่ห้างค้าปลีกค้าส่งรายหนึ่ง และใช้เงินไม่มาก ขณะที่จำนวนข้าวถุงมีปริมาณไม่มาก ประมาณ 100 ถุง หรือ 1,000 ถุง เท่านั้น และห้างค้าปลีกค้าส่งรายนี้ จะเป็นผู้ชำระเงินค่าข้าวแทนไปก่อน
จึงได้สนใจเข้าประมูล เนื่องจากไม่ต้องลงทุนอะไร
อย่างไรก็ดี กรรมการบริษัทฯ รายนี้ ยืนยันว่า ไม่เคยรับทราบข้อมูลว่า หลังจากที่บริษัทเสนอชื่อเข้าร่วมประมูลไปแล้ว ได้รับการคัดเลือกให้ทำสัญญากับ อคส. เพราะไม่มีข่าวแจ้งมาให้รับทราบว่าได้งานหรือไม่ และขณะนั้นตนเองก็อยู่ประเทศอังกฤษ
"ขอเรียนว่า ตามที่ปรากฎสัญญาลงนามระหว่างบริษัท กับอคส. ตนไม่ได้เป็นผู้ลงนามในสัญญา และไม่ได้มอบอำนาจให้ลูกน้องเป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนแต่อย่างใด"
"ส่วนกรณีที่ปรากฎแคชเชียร์เช็คค้ำประกันการทำสัญญา ที่มีรายชื่อตนเองอยู่นั้น ขอชี้แจงว่าเป็นผู้ออกแคชเชียร์เช็คดังกล่าว แต่ลูกน้องได้ให้ข้อมูลว่าเป็นการออกแคชเชียร์เช็คเพื่อใช้ในการประมูล เพื่อแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีคุณสมบัติครบถ้วนในการเข้าทำสัญญา"
"อีกทั้งในการขอหนังสือรับรองความเป็นนิติบุคคล ตนก็ไม่ได้มอบอำนาจให้ผู้ใดดำเนินการ ซึ่งการขอใบรับรองสามารถขอคัดจากหน่วยงานของรัฐได้ เนื่องจากเป็นเอกสารที่สาธารณะสามารถรับรู้ได้ ลูกน้อง จึงอาจเป็นผู้คัดเอง ส่วนรายมือชื่อของ กรรมการบริษัทฯ อีกคน ที่ลงลายมือชื่อในฐานะพยานก็ไม่ใช่ลายมือที่แท้จริงของเขาเช่นกัน"
กรรมการบริษัทฯ รายนี้ ยังยืนยันด้วยว่า หลังการยื่นประมูลเป็นผู้แทนจำหน่ายข้าวสารดังกล่าว และทราบว่า มีกรรมการอีกบริษัทหนึ่งที่รู้จักกัน เข้าร่วมประมูลด้วย หลังจากวันประมูล กรรมการบริษัทอีกแห่งหนึ่งรายนี้ ได้มาพบกับตนเอง และระบุว่า "เราสามารถเป็นตัวแทนในการจำหน่ายข้าวถุงเองได้"
ซึ่งตนได้ถามกลับไปว่า "เราจะเอาเงินจากไหน" เขาก็ไม่ได้พูดอะไร ตนจึงไม่ทราบว่า สรุปแล้วบริษัทของตนได้งานหรือไม่ เพราะยังไม่ได้รับข้อมูลเอกสารการทำสัญญาและหลังจากนั้นก็ไม่ได้ทราบข่าวของกรรมการบริษัทอีกแห่งหนึ่งรายนี้อีกเลย
จนกระทั่งเกิดปัญหาตามสื่อมวลชนว่ามีการตรวจพบการขายข้าวถุงโดยมิชอบ
กรรมการบริษัทอีกแห่งหนึ่งรายนี้ จึงติดต่อมายังตนอีกครั้ง และบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้น อย่าคิดว่าตนจะพ้นผิด แต่ตนได้แจ้งไปว่าไม่เคยเห็นสัญญาด้วยซ้ำ และไม่ทราบว่าบริษัทตนได้รับงานดังกล่าว
กรรมการบริษัทแห่งนี้ มีท่าทางไม่พอใจ และหลังจากนั้นจึงไม่ได้ติดต่อกับเขาอีก
"ส่วนกรณีผู้ซื้อแคชเชียร์เช็คปรากฎชื่อ "นายสมคิด เอื้อนสุภา" ตนไม่ทราบว่านายสมคิดเป็นใคร เพราะตนไม่ทราบด้วยว่าตนได้งานในโครงการดังกล่าว ตนจึงไม่ได้เป็นผู้เกี่ยวข้องกับการจ่ายแคชเชียร์เช็คชำระค่าข้าวให้แก่อคส."
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า บริษัท รชาพันธ์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2539 ทุน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่เลขที่ 65/149 ซอยร่วมฤดี ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจรับจ้างฝึกอบรมและขยายงาน
ปรากฎชื่อ นางวิวรรณ ทรัพย์สินพันธ์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2556 หลังปรากฎชื่อทำสัญญาซื้อข้าวถุงกับ อคส. บริษัทฯ ได้แจ้งเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทใหม่ เป็น บริษัท รชาพันธ์อินเตอร์เนชั่นแนลกรุ๊ป จำกัด
ขณะที่ช่วงก่อนหน้าทำสัญญากับ อคส. บริษัทฯ ได้แจ้งเพิ่มทุนจดทะเบียนใหม่ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นจำนวนเงิน 10 ล้านบาท
ล่าสุด บริษัทฯ นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ปี 2557 แจ้งว่า มีรายได้รวม 120,000 บาท มีค่าใช้จ่ายในการขาย 42,327.93 บาท กำไรสุทธิ 77,672.07 บาท
อย่างไรก็ดี ในช่วงปี 2556 ที่บริษัทฯ ปรากฎชื่อทำสัญญาซื้อข้าวถุงกับ อคส. และปรากฎชื่อนายสมคิด เอื้อนสุภา คนของบริษัทสยามอินดิก้า จำกัด เป็นผู้สั่งซื้อสินค้าแทนจำนวน 12 ล้านถุง เป็นเงิน 787,200,000 บาท
บริษัทฯ แจ้งว่า มีรายได้จากการบริการ 361,551.18 บาท ดอกเบี้ยรับ 110,000 บาท รายได้อื่น 4.59 บาท รวมรายได้ 471,555.77 บาท แต่มีรายจ่าย 506,042.84 บาท
ขาดทุนสุทธิ 34,487.07 บาท
ไม่ปรากฏรายได้จากการขายข้าวถุงเงิน 787,200,000 บาท แต่อย่างใด!
(อ่านประกอบ : แกะรอย "บ.รชาพันธ์" รับจ้างฝึกอบรม รายได้หลักแสน ชื่อโผล่ซื้อข้าวถุง 787 ล.)
อ่านประกอบ :
ให้ปปง.คุ้ยต่อ!สตง.เชื่อแหล่งเงิน "สมคิด"ซื้อเช็คข้าวถุง5.4พันล.โยงสยามอินดิก้า
แกะรอย "บ.รชาพันธ์" รับจ้างฝึกอบรม รายได้หลักแสน ชื่อโผล่ซื้อข้าวถุง 787 ล.
ที่แท้ "กรุงไทย" สาขาออกเช็ค 4.2 พันล.ซื้อข้าวถุง อยู่ปากซอย "สยามอินดิก้า"
เปิดตัว "เอแอนด์ดีฯ" ทำธุรกิจไฟฟ้า โผล่ลงนามสัญญาข้าวถุง อคส. 787 ล.
ชำแหละเช็คข้าวถุง38 ใบ "คนสยามอินดิก้า"ขนเงินสดซื้อกรุงไทยมากสุด 4.2 พันล.
เช็ค 38 ใบ 5.4 พันล.! "คนสยามอินดิก้า" ขนเงินสดซื้อ หลักฐานมัดคดีข้าวถุง
เปิดหมดเปลือก "บ.เก่าเลขาฯบุญทรง" โผล่ซื้อข้าวถุง 2.9 พันล. โยงบิ๊ก "อคส."
ตามไปดู! บ้าน 2 ชั้น ที่ตั้งบ.ซื้อข้าวถุง116 ล."ผจก." ขอให้ข้อมูลจนท.รัฐเท่านั้น
ปริศนาเงินร้อยล.!"บ.ประกรวรรณฯ" โผล่สั่งซื้อข้าวอคส. จ่ายค่าตอบแทน 2 บ./ถุง)
ครบชุด! ข้อมูล 7 บริษัท โยงคดีข้าวถุง บิ๊ก อคส.รับส่วนต่าง 66 สต./ถุง
"สมคิด"โผล่ซื้อแคชเชียร์เช็ค5 พันล. เส้นทางเงินมัดแน่นคดีข้าวถุง โยง "สยามอินดิก้า"
'จัดเอกสาร-ซื้อเช็ค' ลูกน้องเสี่ยเปี๋ยงทำเองหมด! มัด 'สยามอินดิก้า' โยงคดีข้าวถุง
เสียหาย 3.8 พันล.!สตง.ชี้มูลคดีระบายข้าวถุงอคส.-เอกชนเครือญาติฮั้วเสนอราคารัฐ