แกะรอยราคาที่ดินบ.ในเครือกฤษดาฯ เพียงพอใช้หนี้หมื่นล.คดีกรุงไทยจริงหรือ?
"..เป็นที่น่าสังเกตว่า ราคาที่ดินในงบการเงินของบริษัทฯ นำส่งให้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2556 กับ ราคาที่ดิน ของบริษัทฯ ที่ได้มีการประเมินราคาเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2555 โดยว่าจ้างให้ บริษัท ไนท์แฟรงค์ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทประเมินที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นผู้ประเมินราคา มีราคาที่แตกต่างกันเกือบสามเท่าตัว?.."
ขณะนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า เงินจำนวน 10,004,467,480 บาท ที่ บริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือชื่อในปัจจุบันว่า บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) จะนำมาชดใช้คืนให้กับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีทุจริตปล่อยเงินกู้ธนาคารไทย จะมาจากที่ดินของบริษัทโกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ (หนึ่งในจำเลยคดีนี้)
ข้อเท็จจริงนี้ ปรากฎในหนังสือคำชี้แจงของ บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) ที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2558 ระบุว่า ตามที่ในวันที่ 26 สิงหาคม 2558 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองได้อ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อม. 3/2555 โดยมีอัยการสูงสุด โจทก์ พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ที่ 1 กับพวกรวม 27 คน จำเลยเรื่องความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อพรบ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ โดยพิพากษาซึ่งเกี่ยวข้องกับบริษัทให้มีความผิดให้ลงโทษตาม พรบ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 โดยในส่วนของบริษัทให้ปรับเป็นจำนวนเงิน 26,000 บาทซึ่งจำนวนเงินค่าปรับดังกล่าว
ทางบริษัทได้ดำเนินการจ่ายค่าปรับกับศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้วและศาลยังตัดสินให้ทางบริษัทร่วมกันคืนเงินจำนวน 10,004,467,480 บาท แก่ธนาคารผู้เสียหาย โดยเงินในส่วนนี้ถ้าธนาคารผู้เสียหายได้รับชำระคืนแล้วเป็นจำนวนเท่าใดก็ให้หักออกจากจำนวนที่สั่งให้ใช้คืนตามส่วน
จากข้อมูลของมูลหนี้เงินกู้ของธนาคารกรุงไทยที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ผู้กู้คือ บริษัทโกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (โกลเด้น) ได้มีที่ดินจดจำนองที่เป็นหลักประกันจำนวน 4,323 ไร่ 1 งาน 55.90 ตารางวา ซึ่งบริษัทได้รับแจ้งจากโกลเด้นว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวโกลเด้นได้ว่าจ้างให้ บริษัท ไนท์แฟรงค์ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทประเมินที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์( ก.ล.ต.)ได้ประเมินราคาเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2555 โดยใช้วิธีประเมินมูลค่าเป็นวิธีเปรียบเทียบกับข้อมูลตลาดซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวมีมูลค่าตลาดเท่ากับ 12,321,000,000 บาท ซึ่งเป็นการประเมินราคาเมื่อปี 2555 ซึ่งได้ประเมินเมื่อ 3 ปีที่แล้ว และทางบริษัทก็เชื่อว่าด้วยทำเลที่ตั้งและศักยภาพของที่ดินดังกล่าวปัจจุบันคงมีราคาเพิ่มสูงขึ้น
ดังนั้น จึงถือได้ว่า ความรับผิดในส่วนของบริษัทที่ถูกตัดสินให้ร่วมกันคืนเงินจำนวน 10,004,467,480 บาทนั้น มีหลักทรัพย์ที่คุ้มค่าหรือเพียงพอที่จะชำระหนี้ได้ซึ่งหากธนาคารผู้เสียหายสามารถขายหลักประกันดังกล่าวได้ทางบริษัทก็ไม่จำต้องรับผิดในการคืนเงินจำนวนดังกล่าว
ดังนั้น ในการพิจารณาจากข้อมูลดังกล่าวในเบื้องต้นแล้วความรับผิดในการร่วมกันคืนเงินดังกล่าวไม่น่าจะมีผลกระทบกับบริษัท แต่อย่างไรก็ตามทางบริษัทจะได้ประสานงานกับโกลเด้นจัดให้มีการประเมินที่ดินดังกล่าวเสียใหม่เพื่อให้ทราบถึงมูลค่าที่แท้จริงในปัจจุบันว่า มีมูลค่ายุติธรรมเท่าใด
หากมีมูลค่ายุติธรรมต่ำกว่าจำนวนเงินที่บริษัทต้องรับผิดตามคำพิพากษาแล้วบริษัทจะได้ทำการตั้งสำรองเผื่อการสูญเสียต่อไป ซึ่งหากมีความคืบหน้าประการใด ทางบริษัทจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
สรุปง่ายๆ คือ บริษัท เอคิว เอสเตทฯ จะนำที่ดิน 4,323 ไร่ 1 งาน 55.90 ตารางวา ของ บริษัทโกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (โกลเด้น) ที่ใช้เป็นหลักประกันกู้เงินจากธนาคารกรุงไทย อยู่แล้ว ชดใช้คืนให้กับธนาคารกรุงไทยไปเลย เรื่องนี้จะได้จบๆ กันไป
อย่างไรก็ดี สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลงบการเงินปี 2555 ซึ่งเป็นงบปีล่าสุด ของ บริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด ที่นำส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้ารับทราบ พบว่า มีการระบุข้อมูลในส่วนของสินทรัพย์ ว่า มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 1,029 บาท รวมสินทรัพย์หมุนเวียนอื่นเท่ากับ 6,029 บาท
ส่วนสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ระบุว่า มีที่ดินรอการพัฒนา 4,590,317,180 บาท
มีเจ้าหนี้เงินมัดจำที่ดิน 653,909,366 บาท
เงินกู้ยืมระยะยาวและดอกเบี้ยค้างจ่ายแก่สถาบันการเงินที่ถึงกำหนดชำระภายใน 1 ปี 12,282,301,926 บาท
ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย 1,789,625 บาท
รวมหนี้สิน 12,938,000,917 บาท
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ราคาที่ดินในงบการเงินของบริษัทฯ นำส่งให้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2556 กับ ราคาที่ดิน ของบริษัทฯ ที่ได้มีการประเมินราคาเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2555 โดยว่าจ้างให้ บริษัท ไนท์แฟรงค์ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทประเมินที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นผู้ประเมินราคา
มีราคาที่แตกต่างกันเกือบสามเท่าตัว? หรือเป็นที่ดินคนละแปลง?
ล่าสุด ณ วันที่ 2 ก.ย.2558 ทาง บริษัท เอคิว เอสเตทฯ ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อมูลเรื่องการประเมินราคาที่ดินของบริษัท โกลเด้นฯ ให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รับทราบ เพิ่มเติมแต่อย่างใด
ขณะที่ในการนำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจล่าสุด ปี 2555 บริษัท โกลเด้นฯ แจ้งว่าไม่มีรายได้ มีหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ 14,644,352,292 บาท รวมรายจ่าย 14,656,973,431 บาท
ขาดทุนสุทธิ 14,656,973,431 บาท
(อ่านประกอบ : สถานะล่าสุด 3 บ.เครือกฤษดาฯต้นตอคดีกรุงไทย'ล้มละลาย-ร้าง'หนี้สูญ 1.4 หมื่นล.)
ขณะที่ในการแถลงข่าว ของนายวินัย ดำรงมงคลกุล ผู้ตรวจการอัยการ ต่อคดีคดีทุจริตปล่อยเงินกู้ธนาคารไทย เมื่อวันที่ 31 ส.ค.2558 เมื่อวันที่ 31 ส.ค.58 ที่ผ่านมา
สำนักข่าวอิศรา ได้สอบถามว่าถึงประเด็นเรื่องที่ บริษัท เอคิว เอสเตทฯ จะนำที่ดินของบริษัทในเครือมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท เพื่อชดใช้ค่าเสียหายในคดีนี้ ฝ่ายอัยการจะเข้าไปตรวจสอบมูลค่าที่ดินหรือไม่
นายวินัย ตอบว่า เป็นหน้าที่ของธนาคารกรุงไทย ที่จะเข้าไปตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว
คำถามคือ จนถึงเวลานี้ ธนาคารกรุงไทย ได้เข้าไปตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้บ้างหรือยัง?
อ่านประกอบ :
ขยายปม อสส.ไม่ฟ้อง“พานทองแท้-พวก”รับของโจรคดีกรุงไทย ใครรับผิดชอบ?
อัยการยัน“พานทองแท้-พวก”ไม่ใช่ จนท.รัฐ ชนวนไม่ฟ้องปมรับของโจรคดีกรุงไทย
จำแนกจำเลย-โทษเรียงตัวคดีกรุงไทย ไขปริศนา? ไฉนไม่มีชื่อ“พานทองแท้”
ข้อมูลลับความเชื่อผู้บริหาร "เอคิว" ก่อนศาลฯ พิพากษาชดใช้กรุงไทยหมื่นล.!
คำให้การมัดคดีกรุงไทยโผล่เว็บศาลฯ ชื่อ 2 กก.บริหาร "อุตตม-รมว.ไอซีที" รอด!
พิพากษาจำคุก “ร.ท.สุชาย-วิโรจน์” 18 ปี ทุจริตปล่อยกู้กรุงไทย ชดใช้หมื่นล.