ชัด ๆ จุดยืนมูลนิธิ กปปส. หนุน รธน.-คปป. ป้องเกิดวิกฤติ-มีรัฐประหาร
“…คนที่ไม่เคยอยู่ในภาวะวิกฤติ ไม่เคยเผชิญด้วยตัวเองจะคิดไม่ถึงว่า มันร้ายแรงรุนแรงถึงขนาดนั้น บังเอิญอยู่ในสถานการณ์นั้นด้วยตัวเอง วันนี้ถึงพอใจที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ได้มีการระบุองค์กร หรือบุคคลที่จะไปแก้ไขวิกฤติของประเทศ หากเกิดมีในอนาคต จะได้ไม่ต้องมีคนมาเจ็บ มาตาย ไม่ต้องเกิดเรื่องร้ายแรงในบ้านเมืองกันอีก เพราะในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้กำหนดทางออกเอาไว้ ใน คปป. เข้ามาใช้อำนาจตามกฎหมาย ดำเนินการด้วยมาตรการที่จำเป็น เพื่อป้องกันเหตุร้าย ระงับความรุนแรงทั้งหลาย…”
หมายเหตุสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย แถลงถึงจุดยืนของมูลนิธิฯ ต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รวมถึงให้ความเห็นการมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปและปรองดอง
----
“สุเทพ” เปิดฉากอธิบายว่า สิ่งที่จะเรียนถึงสื่อมวลชน เป็นความคิดเห็น เป็นมุมมองของมวลมหาประชาชนที่พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ด้วยจิตวิญญาณ ด้วยสำนึกที่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ มวลมหาประชาชนไม่มีแนวความคิดจัดตั้งพรรคการเมือง เพื่อที่จะมาช่วงชิงอำนาจทางการเมืองกับใครทั้งสิ้น ผมวันนี้เป็นประชาชนธรรมดาคนหนึ่งเหมือนพี่น้องมวลมหาประชาชนทั้งหลาย ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมต่อสู้กับมวลมหาประชาชนตั้งแต่ ต.ค. 2556 และไม่กลับไปพรรคประชาธิปัตย์อีกแล้ว ยืนยันแน่นอนชัดเจนอีกครั้ง
“นอกจากไม่กลับแล้ว และไม่คิดจัดตั้งพรรคการเมืองมาแข่งกับประชาธิปัตย์ เพื่อไทย หรือพรรคไหนทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นถือโอกาสนี้ชี้แจงว่า พวกผมไม่ใช่คู่แข่งทางการเมืองของพรรคการเมืองกลุ่มไหนทั้งสิ้น พวกเราเป็นประชาชน เป็นคนรักชาติรักแผ่นดิน ตั้งใจที่จะทำหน้าที่ของประชาชนให้สมบูรณ์แบบเท่าที่จะทำได้”
“สิ่งที่คิด สิ่งที่ทำ สิ่งที่จะทำต่อไป เราทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้อยู่รอดปลอดภัย นี่คือหัวใจ นี่คือจิตวิญญาณ สำนึกของประชาชนของพวกเรา”
“สุเทพ” กล่าวถึงมุมมองของมวลมหาประชาชนในร่างรัฐธรรมนูญว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ได้เปิดโอกาสให้เจตนารมณ์ของประชาชนที่ต้องการปฏิรูปประเทศไทยเกิดขึ้นได้หรือไม่ ย้ำว่า เจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชนคือต้องปฏิรูปประเทศไทย เมื่อดูประเด็นนี้ เราศึกษาร่างรัฐธรรมนูญจากมุมนี้ และเรียนอย่างตรงไปตรงมาชัดเจนว่า ในสายตาของประชาชนอย่างเรา มวลมหาประชาชนทั้งหลาย เห็นว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ดีพอที่จะนำไปให้ประชาชนลงประชามติ
“ย้ำว่า มุมมองของพวกเรา ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ดีพอที่จะนำไปเสนอประชาชนให้ลงประชามติ คนที่จะตัดสินใจขั้นสุดท้ายคือพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ในการทำประชามติ”
“สำหรับมวลมหาประชาชน เราเรียกร้องแสดงเจตนารมณ์มาโดยตลอดชัดเจนว่า ต้องปฏิรูปประเทศไทย บางเรื่องต้องทำทันที เดี๋ยวนี้ ทำก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง บางเรื่องอาจจะต้องใช้เวลา ทำเดี๋ยวนี้อาจจะยังไม่เสร็จ จะต้องทำต่อเนื่องไป ความต่อเนื่องเป็นหัวใจสำคัญที่เรา มวลมหาประชาชนทั้งหลายคาดหวังตั้งใจเอาไว้ ทำอย่างไรจึงจะทำให้กระบวนการในการปฏิรูปประเทศไทยดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประเทศของเรามีความมั่นคง มีความปลอดภัยอย่างยั่งยืน”
“ประธานมูลนิธิ กปปส.” ท้าวความว่า เมื่อมวลมหาประชาชนออกมาต่อสู้ เราได้แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่า อย่างน้อยการปฏิรูปประเทศไทย ในด้านต่าง ๆ จะต้องเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายในประเทศไทยต้องร่วมมือกันทำ ร่วมกันรับผิดชอบ ปฏิรูปประเทศให้ได้ เรื่องแรกคือ การปฏิรูปการเมือง เราได้แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่า ถ้าปล่อยให้สภาพการเมืองเป็นไปอย่างในอดีต ประเทศเราจะมีวิกฤติไม่มีที่สิ้นสุด ประเทศเสียหาย ล้มละลาย ล่มสลายได้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ต้องทำทันที และต้องทำก่อนเลือกตั้ง
ในส่วนปฏิรูปการเมือง ต้องปฏิรูปพรรคการเมือง ให้เป็นพรรคการเมืองของประชาชน ประชาชนเท่านั้นที่จะเป็นเจ้าของพรรคการเมือง ไม่ต้องการเห็นการเมืองเป็นการเมืองของนายทุน ของกลุ่มผลประโยชน์ ของคนที่เข้ามาสู่การเมืองเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
เราต้องการให้มีการปฏิรูประบบการเลือกตั้ง กระบวนการในการเลือกตั้งทั้งหลาย ทั้งในเรื่องตัวบทกฎหมายในเรื่องการเลือกตั้ง และองค์กรที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลเรื่องการเลือกตั้ง เจตนาของประชาชนยืนยันชัดเจนตรงไปตรงมาว่า การเลือกตั้งในประเทศเราต้องบริสุทธิ์ ยุติธรรม ต้องไม่เปิดโอกาสให้ใครก็ตามมาบิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชนที่ใช้ในการเลือกตั้งให้ผิดเพี้ยนไป ไม่ว่าการใช้อำนาจหน้าที่ไม่ถูกต้องของข้าราชการที่ไปรับใช้นักการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใช้อำนาจอิทธิพลต่อประชาชน ไม่ว่าฝ่ายไหนก็แล้วแต่ ไม่ว่าเป็นเรื่องโกงการเลือกตั้ง การซื้อคะแนนเสียงเลือกตั้ง สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ทำให้เจตนารมณ์ของประชาชนที่บริสุทธิ์ถูกบิดเบือน สิ่งเหล่านี้ประชาชนเรียกร้องให้มีการปฏิรูป
“ขอพูดแทนประชาชนว่า โปรดอย่าอธิบายกับเราว่า ไม่สามารถทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างที่เรียกร้อง เพราะนี่เป็นหัวใจ เรายังยืนยันว่าการเลือกตั้งต้องบริสุทธิ์ ยุติธรรม คนที่มีหน้าที่ต้องดูแลอย่างจริงจัง นี่เป็นเรื่องแรก และเรื่องนี้ยืนยันว่า ต้องทำก่อนการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่จะถึงนี้”
“สุเทพ” ระบุอีกว่า การปฏิรูประบบราชการและการกระจายอำนาจ เพื่อให้การดูแลประชาชนทั้งประเทศ เป็นไปโดยเสมอภาค เป็นธรรม เท่าเทียมกัน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมบริหารราชการแผ่นดิน การปฏิรูปโครงสร้างระบบเกี่ยวกับเศรษฐกิจสังคม ทั้งเรื่องการสาธารณสุข การศึกษา เป้าหมายสำคัญคือ เพื่อที่จะแก้ปัญหาคนจน แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม และประการสุดท้ายที่ประชาชนเรียกร้อง คือต้องการให้มีการปฏิรูปตำรวจ เราประชาชนต้องการให้ตำรวจในประเทศไทย เป็นตำรวจของประชาชน ต้องย้ำตรงนี้ว่า การปฏิรูปเรื่องตำรวจต้องให้ตำรวจเป็นตำรวจของประชาชน ทำอย่างอื่นไม่ใช่เจตนารมณ์ของเรา
“เมื่อได้มองจากเรื่องที่เรียนไป 5 ประเด็นนี้ ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชน เราถึงได้ยืนยันว่าร่างรัฐธรรมนูญนี้ดีพอที่จะส่งให้ประชาชนตัดสินโดยการทำประชามติ เพราะร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีหลักประกันทำให้มวลมหาประชาชนมั่นใจได้ว่า เมื่อรัฐธรรมนูญนี้ได้ผ่านการทำประชามติ และมีผลใช้บังคับ การปฏิรูปประเทศไทย ก็จะได้ดำเนินการไปอย่างจริงจัง และมีความต่อเนื่อง ตรงนี้เป็นจุดที่มวลมหาประชาชน พวกเรา ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง”
“สุเทพ” เชื่อว่า เรื่องการปฏิรูปประเทศต้องทำทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายรัฐบาล ส่วนราชการ ประชาชน องค์กรต่าง ๆ สำคัญว่า ใครจะรับเป็นเจ้าภาพ ใครจะเป็นโต้โผที่จะดำเนินการผลักดันให้มีการปฏิรูปประเทศไทย ตามเจตนารมณ์ของประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีคำตอบให้ประชาชนมั่นใจ มีเจ้าภาพ
รัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัด ยุทธศาสตร์ชาติ คนมีหน้าที่ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติเพื่อการปฏิรูปคือคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ ผู้อำนวยการให้รัฐบาล และหน่วยงานของรัฐต้องทำการปฏิรูปประเทศ ปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ชาติ นี่เป็นสิ่งที่เราไม่เคย และทำให้เราเชื่อมั่นว่า การปฏิรูปประเทศไทยจะได้ดำเนินการต่อไปได้
“สิ่งที่เขียนไว้ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ พูดถึงหน้าที่ของ คปป. ไว้ชัดเจน ทั้งเรื่องของการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ การขับเคลื่อนการปฏิรูป การบูรณาการให้เกิดการปฏิรูป ที่สำคัญพวกเรามวลมหาประชาชนผ่านวิกฤติมาด้วยความเจ็บปวด เสียเลือดเสียเนื้อเสียชีวิตในการต่อสู้เพื่ออนาคตของประเทศไทย และได้ประสบการณ์เห็นชัดเจนว่า ในวิกฤติการณ์ของประเทศที่เกิดขึ้น ไม่มีทางออก ไม่มีการกำหนดทางออกให้ประเทศในช่วงเกิดวิกฤติ ไม่มีคนที่จะมีอำนาจเข้ามาแก้ไข สถานการณ์ที่มีความร้ายแรงรุนแรงถึงขนาดว่า ฆ่าประชาชนกลางถนน มวลมหาประชาชนเสียชีวิตตั้ง 24-25 คน บาดเจ็บไปเกือบพันคน ประเทศกำลังจะล่มสลาย รัฐบาลไม่มีความชอบธรรมแล้ว ไม่มีใครยอมรับแล้ว บริหารบ้านเมืองไม่ได้แล้ว นายกรัฐมนตรีก็พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว สภาก็ถูกยุบแล้ว เลือกตั้งใหม่ก็ไม่ได้ แต่ก็มีคนไม่ยอมลาออกจากการเป็นรัฐมนตรี อ้างว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญบังคับให้ต้องเป็นต่อไป ประเทศไม่มีทางออก จึงต้องมีการยึดอำนาจ และมีการปฏิวัติโดย คสช.”
“คนที่ไม่เคยอยู่ในภาวะวิกฤติ ไม่เคยเผชิญด้วยตัวเองจะคิดไม่ถึงว่า มันร้ายแรงรุนแรงถึงขนาดนั้น บังเอิญอยู่ในสถานการณ์นั้นด้วยตัวเอง วันนี้ถึงพอใจที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ได้มีการระบุองค์กร หรือบุคคลที่จะไปแก้ไขวิกฤติของประเทศ หากเกิดมีในอนาคต จะได้ไม่ต้องมีคนมาเจ็บ มาตาย ไม่ต้องเกิดเรื่องร้ายแรงในบ้านเมืองกันอีก เพราะในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้กำหนดทางออกเอาไว้ ใน คปป. เข้ามาใช้อำนาจตามกฎหมาย ดำเนินการด้วยมาตรการที่จำเป็น เพื่อป้องกันเหตุร้าย ระงับความรุนแรงทั้งหลาย ยับยั้งการกระทำที่เป็นปัญหา ตรงนี้เป็นเหตุผลที่ในสายตาของประชาชนที่คำนึงถึงเรื่องของประเทศโดยส่วนรวม ถึงได้ยืนยันว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ดีพอจะส่งให้ประชาชนตัดสินใจ”
“สุเทพ” ชี้ให้เห็นว่า ที่สำคัญในช่วง 5 ปีแรกที่จะใช้รัฐธรรมนูญ เขียนไว้ชัดว่า ถ้าเพื่อเอกราชของประเทศ เพื่อความมั่นคงของประเทศ หากสถาบันการเมือง คณะรัฐมนตรี ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เอาไม่อยู่แล้ว ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้อำนาจ คปป. ใช้อำนาจแทนได้ ประชาชนเองก็ดู ศึกษาก็เห็นเหมือนกันว่า ไม่ใช่ว่าอยู่ ๆ จะใช้อำนาจได้เต็มที่ รัฐธรรมนูญเขียนไว้ดีพอสมควร ถ้าต้องการใช้อำนาจต้องปรึกษาประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด พวกเขาต้องลงคะแนนเสียง 2 ใน 3 แถมทำเสร็จแล้วต้องรายงานต่อสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา รวมถึงรายงานต่อประชาชน
“ที่สำคัญเขาตัดสินใจใช้อำนาจแทนสถาบันการเมือง ให้ถือว่าเป็นการเปิดประชุมสมัยวิสามัญของสภาผู้แทนฯ วุฒิสภา นั่นคือมีตัวแทนประชาชน ได้แก่ ส.ส. ส.ว. คอยกำกับ คอยตรวจสอบการใช้อำนาจของ คปป. มุมมองอย่างนี้ ประเด็นอย่างนี้ พวกผมก็ยอมรับว่า อาจมีคนอื่นเห็นเป็นอย่างอื่น มองเป็นอย่างอื่น นี่ก็เป็นเสรีในทางความคิด แต่ประชาชนก็มองอย่างนี้”
“สุเทพ” ทิ้งท้ายว่า เรียกร้องว่าขอโอกาสให้ประชาชนทั้งชาติได้ตัดสินใจ ให้ประชาชนคนธรรมดาอย่างเรา ได้มีโอกาสตัดสินใจอนาคตของประเทศบ้าง ที่ให้ทำประชามติ หวังที่สุดว่า ทุกฝ่ายได้เคารพมติของประชาชน
อ่านประกอบ :
มูลนิธิ กปปส.พอใจ รธน.ใหม่ หนุนมี คปป.-ยันต้องให้ ปชช.ทำประชามติ
เปิดตัวมูลนิธิ กปปส.'สุเทพ'ลั่น คสช.ต้องดูแล ปท.-ปฏิรูปให้เสร็จก่อนเลือกตั้ง