อังกฤษ – สังคมที่ถูกส่องตลอด 24 ชั่วโมง
อังกฤษ จัดเป็นประเทศที่มีกล้องโทรทัศน์วงจรปิดหรือซีซีทีวีติดตั้งอยู่มากที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง การศึกษาอย่างละเอียดเมื่อปี 2556 ของสมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมด้านความมั่นคง (บีเอสไอเอ) ระบุว่า มีกล้องซีซีทีวีติดตั้งอยู่ทั่วประเทศระหว่าง 4,000,000 - 5,900,000 ตัว หรือกล้อง 1 ตัวต่อประชากร 11 คน การศึกษาในครั้งนี้ บีเอสไอเอประเมินและคำนวณจากจำนวนอาคารและจำนวนชั้นของอาคารที่มีอยู่ในประเทศ เป็นการศึกษาที่พยายามตรวจนับกล้องซีซีทีวีทุกตัวไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกอาคาร ตลอดจนกล้องซีซีทีวีที่บันทึกแบบเรียลไทม์ มีเจ้าหน้าที่นั่งเฝ้าสังเกตการณ์ หรือแบบที่บันทึกโดยอัตโนมัติและค่อยเอาเทปมาตรวจสอบทีหลัง แต่ถ้าหากจะประเมินแบบกลาง ๆ บีเอสไอเอชี้ว่าจำนวนกล้องซีซีทีวีน่าจะอยู่ที่ 5,000,000 ตัว หรือกล้อง 1 ตัว ต่อประชากร 14 คน
กล้องซีซีทีวีส่วนใหญ่เป็นของภาคเอกชน ที่ติดตั้งไว้เพื่อเป็นหูเป็นตาดูแลความปลอดภัยตามอาคารสถานที่และป้องกันเหตุร้าย หากเทียบสัดส่วนกันแล้ว ภาครัฐมีกล้องซีซีทีวีน้อยกว่าภาคเอกชนมาก ประเมินว่ามีอยู่ราว 70,255 ตัว แบ่งเป็นของตำรวจ 10,502 ตัว และสภาบริหารท้องถิ่น 59,753 ตัว หรืออีกนัยหนึ่งภาครัฐมีกล้องซีซีทีวีเพียง 1.2% ถึง 1.7% ของจำนวนกล้องซีซีทีวีทั้งหมด
เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตำรวจราว 1,000 คนในกรุงลอนดอนเริ่มนำกล้องติดตัวมาใช้แล้ว ทั้งนี้เพื่อให้การทำงานมีความโปร่งใสและเร่งคลี่คลายคดี โดยภาพที่ได้จากกล้องจะต้องเก็บไว้หนึ่งเดือนก่อนจะลบทิ้ง เว้นแต่ว่าจำเป็นต้องเก็บไว้นานกว่านั้นเพื่อใช้เป็นหลักฐานในคดี นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนมีแผนที่จะซื้อกล้องติดตัวเพิ่มขึ้นอีก 20,000 ชุดเพื่อให้ตำรวจในกรุงลอนดอนใช้ภายในเดือนมีนาคมปีหน้า กล้องติดตัวลักษณะนี้ไม่รวมอยู่ในรายงานของบีเอสไอเอ เพราะไม่ถือว่าเป็นกล้องซีซีทีวี แต่สะท้อนว่ากรุงลอนดอนจะมีตามาส่องเพิ่มขึ้นอีก เพราะตอนนี้กรุงลอนดอนก็ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีกล้องซีซีทีวีมากที่สุดในโลกแล้ว มีการประเมินว่าในกรุงลอนดอนมีกล้องซีซีทีวีติดตั้งอยู่ราว 422,000 ตัว
ตามปกติแล้ว ภาพจากกล้องซีซีทีวีของเอกชน หน่วยงานของภาครัฐไม่ได้เข้าไปใช้ เว้นแต่ว่าในกรณีเกิดเหตุร้าย นางพอลีน นอร์สตรอม รองประธานบีเอสไอเอบอกว่าคนส่วนใหญ่เข้าใจผิดมาตลอดว่ากล้องซีซีทีวีตามถนนหนทางและตรอกซอกมุมต่าง ๆ รัฐเป็นเจ้าของเสียส่วนใหญ่ ทั้งที่ในความเป็นจริงเป็นของเอกชน ดังนั้นพอเกิดเหตุร้ายขึ้นมา ทางตำรวจก็จะต้องไปขอภาพจากกล้องซีซีทีวีที่เป็นของเอกชนมาใช้ด้วย เพราะถ้าพึ่งกล้องซีซีทีวีของภาครัฐเพียงอย่างเดียวที่คิดเป็นกล้อง 1 ตัวต่อประชากร 1,000 คน การทำคดีคงคืบหน้าไปอย่างล่าช้า
นายไซมอน แอดค็อก ประธานของบีเอสไอเอยกตัวอย่างว่า เมื่อปี 2552 คดีฆาตกรรมราว 95% เป็นคดีที่สก็อตแลนด์ยาร์ดใช้ภาพจากกล้องซีซีทีวีเป็นหลักฐานในการคลี่คลายคดี
ช่วงหลังเหตุระเบิดโจมตีระบบขนส่งมวลชนในกรุงลอนดอนหลายจุดเมื่อปี 2548 ภาพจากกล้องซีซีทีวีช่วยเรื่องการแกะรอยและสืบสวนได้มากทีเดียว ทำให้ทางการสามารถระบุได้ว่าใครคือมือระเบิดและตามจับตัวมาดำเนินคดีได้ทั้งหมด ภาพที่ได้ส่วนใหญ่มาจากกล้องซีซีทีวีของระบบขนส่งมวลชนกรุงลอนดอนหรือทรานสปอร์ตฟอร์ลอนดอน
เหตุการณ์โจมตีเมื่อเดือนกรกฎาคม 2548 เกิดขึ้น 2 รอบด้วยกัน รอบแรกเมื่อวันที่ 7 ก.ค. มือระเบิดทั้ง 4 เสียชีวิตจากเหตุระเบิด ต่อมาอีก 2 สัปดาห์เมื่อวันที่ 21 ก.ค. มีความพยายามก่อเหตุอีกครั้ง แต่ระเบิดไม่ทำงาน มือระเบิดทั้งหมดถูกจับตัวได้และจำคุกตลอดชีวิต
ระบบขนส่งมวลชนกรุงลอนดอนเป็นหน่วยงานที่มีกล้องซีซีทีวีมากที่สุดหน่วยงานหนึ่ง ตัวเลขเมื่อสองปีก่อนชี้ว่ามีอยู่ราว 13,000 ตัว ติดตั้งตามจุดต่าง ๆ ทั้งในและนอกสถานี รวมทั้งในตัวรถไฟ ส่วนบนรถประจำทางเองก็มีกล้องซีซีทีวีติดไว้เช่นกัน รวมถึงบริเวณท่าเรือด้วย หากสังเกตดี ๆ เวลาเดินเข้าไปในสถานีรถใต้ดินบางสถานีจะเห็นมีห้องควบคุมที่มีเจ้าหน้าที่คอยดูความเคลื่อนไหวผ่านทางจอหลายสิบตัว บางครั้งเจ้าหน้าที่ที่เดินไปมาในสถานีก็มีกล้องติดไว้ที่ตัวด้วย โดยกล้องสามารถบันทึกได้ทั้งเสียงและภาพ
นอกจากนั้น ตามถนนยังมีกล้องซีซีทีวีที่ใช้ถ่ายภาพป้ายทะเบียนรถแบบโคลสอัพด้วย โดยภาพที่ได้จะถูกส่งเข้าระบบประมวลผลทะเบียนรถ ซึ่งระบบจะบันทึกวันและเวลาที่กล้องจับภาพไว้ได้ ภาพที่ถูกบันทึกไว้จะมีระยะเวลาการเก็บไว้ต่างกัน มีตั้งแต่ 14 วัน ไปจนถึง 180 วัน การใช้กล้องซีซีทีวีของทรานสปอร์ตฟอร์ลอนดอนมีเป้าหมายหลายข้อ เช่น ตรวจจับและปรับ กรณีความผิดด้านการจราจร โดยไม่จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่จราจรคอยยืนคุมตามถนนตลอดเวลา ทำให้เจ้าหน้าที่มีหลักฐานมัดแน่นหนาเวลาส่งใบเรียกค่าปรับ นอกจากนั้นยังทำหน้าที่เป็นเสมือนหูตาที่สอดส่องดูแลความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ติดตามความเคลื่อนไหวด้านการจราจรแบบสด ๆ ป้องกันและตรวจจับเหตุร้าย และพฤติกรรมต่อต้านสังคม เป็นต้น
บริษัทที่ให้บริการรถไฟก็มีระบบกล้องซีซีทีวีของตนเช่นกัน ผู้เขียนเคยแจ้งเหตุต่อบริษัทที่ให้บริการว่าถูกทำร้ายบนรถไฟและต้องการจะให้ตำรวจจับตัวผู้ที่ทำร้าย เจ้าหน้าที่สามารถค้นหาภาพวันเกิดเหตุได้ในเวลาเพียงไม่นาน เพียงแต่ว่าต้องแจ้งให้ชัดว่าเหตุเกิดวันไหน ตอนกี่โมง บุคคลในเหตุการณ์แต่งกายและมีลักษณะแบบไหน และไม่จำเป็นต้องไปที่ศูนย์ควบคุมด้วย เพียงแค่โทรไปเท่านั้น แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้ฟ้องตำรวจ เพราะเห็นว่าเป็นการทำร้ายที่ไม่ถึงกับเลือดตกยางออกและคงเสียเวลาไม่น้อย ถ้าจะเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ ก็เลยคิดแบบที่ทำให้สบายใจว่า เราอาจเคยไปทำร้ายเขาในชาติก่อนก็ได้
ผู้เขียนเคยดูรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งที่นำเสนอการไล่ล่าคนร้ายของตำรวจ โดยมีเจ้าหน้าที่ในห้องควบคุมระบบกล้องซีซีทีวีคอยแจ้งให้ตำรวจทราบว่าคนร้ายหนีไปทางไหน ภาพจากกล้องหลายสิบตัวที่สลับไปมาให้เห็นถึงการไล่ล่า ทำให้ดูหมือนกับเป็นหนังฮอลีวู้ดเลยทีเดียว คนร้ายรายนี้ขโมยรถและถูกตำรวจไล่ตาม มาจนถึงไฟแดง แต่ก็ยังไม่ยอมจนมุม หนีออกจากรถและวิ่งไปตามตรอกซอกซอย ท้ายที่สุดก็ถูกจับได้
ในกรุงลอนดอน รถแท็กซี่ที่มีใบอนุญาตประกอบการบางเจ้ารวมทั้งรถเช่าบางบริษัทติดตั้งกล้องไว้ในรถด้วย ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ขับและผู้โดยสารเอง รวมทั้งเพื่อป้องกันและตรวจจับเหตุร้ายด้วย
ในสังคมไทย ที่คนในประเทศเพิ่งเผชิญกับเหตุเขย่าขวัญครั้งรุนแรงจากกรณีระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม บริเวณสี่แยกราชประสงค์มาไม่นาน อาจมีคนมองว่า หากกรุงเทพฯ มีกล้องซีซีทีวีเยอะ ๆ ก็น่าจะช่วยคลี่คลายคดีได้เร็ว ไม่เจอทางตันว่าคนร้ายหายไปทางไหนกันแน่ และทางตำรวจก็น่าจะได้ภาพมือวางระเบิดที่แจ่มชัดกว่านี้
แต่ในสังคมที่มีกล้องซีซีทีวีอยู่ทุกซอกมุมแบบอังกฤษ ก็มีฝ่ายที่ออกมาชี้ว่าการมีกล้อง เต็มบ้านเต็มเมือง ทำให้ขาดความเป็นส่วนตัวและรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคล อังกฤษได้กลายเป็นสังคมที่ถูกส่องตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งยังตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพในการป้องกันเหตุร้ายของกล้องด้วย แต่ฝ่ายที่เห็นด้วยก็บอกว่ากล้องไม่ได้เข้าไปสอดส่องความเป็นส่วนตัวในชีวิตของประชาชน เพราะติดตั้งไว้ตามที่สาธารณะและหน่วยงานที่เป็นเจ้าของภาพที่ได้จากกล้องก็ต้องทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อยู่ดี ๆ จะเอาภาพไปเผยแพร่ไม่ได้ นอกจากนั้นภาพจากกล้องยังช่วยคลี่คลายคดีได้หลายคดีอีกด้วย นายแอดค็อก ประธานของบีเอสไอเอเคยยกตัวอย่างผลการสำรวจชิ้นหนึ่งว่าคนอังกฤษราว 62% ต้องการให้มีการติดตั้งกล้องซีซีทีวีเพิ่มขึ้นในชุมชนของตน
รายงานของสื่อหลายสำนักเมื่อต้นปีนี้ระบุภาคเอกชนและส่วนบุคคลนิยมติดตั้งกล้องซีซีทีวีเพิ่มขึ้น ขณะที่หน่วยงานภาครัฐหลายแห่งกำลังปรับลดงบที่เกี่ยวข้องกับกล้องซีซีทีวี เพราะต้องการประหยัดงบ สำหรับประชาชนเองก็คงต้องเลือกปรับความรู้สึกระหว่างความรู้สึกอุ่นใจ ที่ว่าหากเกิดเหตุร้ายขึ้นมา จะมีหลักฐานจากกล้องที่จะช่วยให้ทางการสามารถสืบหาคนร้ายได้ หรือความรู้สึกไม่ชอบใจที่เวลาไปไหนมาไหนก็ถูกส่องตลอดเวลา