อดีตรองผอ.ข่าวกรองฯ : บึ้มราชประสงค์โยงการเมือง-ทำเป็นทีมไม่ฉายเดี่ยว
ผ่านมาร่วม 1 สัปดาห์ ดูเหมือนรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงจะยังไม่สามารถหา "คำตอบสุดท่าย" เพื่อคลี่คลายคดีลอบวางระเบิดที่ศาลพระพรหม สี่แยกราชประสงค์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 ราย บาดเจ็บกว่าร้อยรายได้
ยิ่งมาเจอระเบิดลูกสองที่ท่าเรือสาทร ยิ่งทำให้ทุกหน่วยมึนตึ้บ ที่ว่าจะโยงก่อการร้ายก็ชักลังเล ที่จะฟันธงกว่าเป็นเรื่องขัดแย้งการเมืองในประเทศ แต่มือบึ้มราชประสงค์ก็ดันหน้าตาคล้ายฝรั่ง หรือแขกขาวเสียอีก
1 สัปดาห์ที่ผ่านมาจึงมีแต่เรื่องของการสันนิษฐานและคาดเดา...
แต่การวิเคราะห์ สังเคราะห์ หรือข้อสันนิษฐาน หากมาจากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญหรือเคยทำงานด้านการข่าวความมั่นคงมาอย่างต่อเนื่อง ย่อมมีน้ำหนักกว่าพวกพูดเอามันส์ หรือพูดไปเรื่อย
นันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ คือผู้เชี่ยวชาญท่านหนึ่งที่เสนอมุมมองเกี่ยวกับเหตุระเบิดสะเทือนประเทศเที่ยวนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจ
ไม่ใช่ก่อการร้ายสากล
นันทิวัฒน์ เชื่อว่า เหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ ไม่น่าเป็นฝีมือกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติ ด้วยเหตุผลคือ
1.ไม่มีการประกาศความรับผิดชอบ เพราะหากเป็นองค์กรก่อการร้ายสากล จะต้องประกาศความรับผิดชอบทุกครั้งว่าเป็นผลงานของกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ มีเป้าหมายเพื่อตอบโต้เรื่องใด แต่เหตุระเบิดที่ราชประสงค์ ผ่านมาหลายวันแล้ว ไม่มีใครประกาศความรับผิดชอบเลย
2.ไม่มีการแจ้งเตือนจากหน่วยงานด้านข่าวกรองต่างประเทศซึ่งเป็นมิตรกับประเทศไทย เชื่อว่าหากเป็นการก่อการร้ายข้ามชาติจริง หน่วยข่าวของมิตรประเทศต้องส่งสัญญาณเตือนมาบ้าง เพราะมีความร่วมมือด้านข่าวกรองกันอยู่ หากมีบุคคลต้องสงสัยผ่านเข้า-ออกประเทศไทย จะมีการแจ้งชื่อ รูปพรรณสัณฐาน หรือแม้แต่หน้าพาสปอร์ตที่ใช้มาให้ แต่คราวนี้ไม่มีเลย
ทำเป็นขบวนการไม่ฉายเดี่ยว
นายนันทิวัฒน์ ยังเห็นด้วยกับคำสัมภาษณ์ของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ว่า กลุ่มคนร้ายน่าจะมีหลายคน ไม่ได้ทำคนเดียว แต่สาเหตุที่ชายเสื้อเหลืองที่ถูกออกหมายจับเหมือนกับทำงานคนเดียวนั้น เพราะเป็นปฏิบัติการลับ ทีมงานไม่จำเป็นต้องรู้จักกัน ไม่มีใครรู้จักใคร เป็นการตัดตอน หรือคัทเอาท์ ของขบวนการก่อการร้าย
"ผมถามว่าคนคนเดียวจะปฏิบัติการใหญ่ขนาดนี้ได้อย่างไร โดยเฉพาะถ้าเป็นชาวต่างชาติ ผมคิดว่าต้องมีคนช่วยอย่างน้อยๆ ก็ 4-5 คน แบ่งงานกันทำ เช่น จัดหาอุปกรณ์ประกอบระเบิด หาท่อแป๊บ บอล แบริ่ง (ลูกปืนล้อรถที่ใช้เป็นสะเก็ดระเบิด) จัดหาเซฟเฮาส์ให้มือระเบิดและมือประกอบระเบิดซึ่งเป็นคนละคนกัน ถ้าเป็นชาวต่างชาติทำกันเอง จะหาอุปกรณ์หาเซฟเฮาส์ได้หรือ" เขาตั้งคำถามให้คิด
และว่า ส่วนตัวไม่เชื่อว่าคนร้ายเป็นชาวต่างชาติ หรือถึงเป็นชาวต่างชาติ ก็ต้องมีผู้อำนวยความสะดวก (facilitator) ที่เป็นคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มที่เรียกว่า convoy หรือคนเฝ้าระวัง ถ้าพลาดก็พาหนีได้ ส่วนใหญ่ถ้าเป็นการก่อวินาศกรรมในเมืองจะใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ น่าจะ 2 คัน 3 คน เพื่อเว้นที่ว่างไว้ 1 ที่นั่งสำหรับพามือวางระเบิดหลบหนี
ฉะนั้นตำรวจต้องตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดย้อนหลังอย่างน้อย 1 สัปดาห์ น่าจะได้เบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับขบวนการที่สนับสนุนให้มีการลอบวางระเบิด
เสื้อเหลือง-ปลอกแขน "สัญญาณบอกฝ่าย"
"ถ้าเป็นต่างชาติทำเพียงลำพัง ป่านนี้ตำรวจรู้หมดแล้วว่าพักที่ไหน ออกนอกประเทศไปหรือยัง ผมอยากให้พิจารณาข้อสังเกตที่ว่า ทำไมคนร้ายจึงสวมเสื้อสีฉูดฉาด มีลวดลายที่หาซื้อได้เพียงแห่งเดียวในกรุงเทพฯ และยังใส่อาร์มแบนด์ หรือปลอกแขน คนร้ายต้องการปกปิดอะไร หรือเป็นสัญลักษณ์บอกฝ่าย เพราะผู้ร่วมขบวนการไม่จำเป็นต้องรู้จักกัน"
มั่นใจปมการเมือง-ตัดประเด็นอุยกูร์
อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ แสดงความเชื่อมั่นว่า เหตุระเบิดที่ราชประสงค์ และเหตุระเบิดอื่นๆ ที่ตามมา น่าจะมีต้นสายปลายเหตุมาจากกลุ่มเสียผลประโยชน์ทางการเมือง
โดยมีข้อสังเกตคือ มีผู้โพสต์เฟซบุ๊คแจ้งเตือนก่อนล่วงหน้า เหมือนรู้ว่าจะเกิดเหตุขึ้น และมีการพยายามให้ข่าวเบี่ยงเบนประเด็นว่าคนร้ายหน้าเหมือนแขกขาว น่าจะเป็นอุยกูร์ ทั้งๆ ที่อุยกูร์ไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะปฏิบัติการนอกประเทศจีน และไม่เคยมีประวัติก่อเหตุรุนแรงระดับนี้ ข่าวพวกนี้จึงเป็นเหมือนนิยายที่เตรียมไว้ก่อน เพราะเผยแพร่เร็วมาก
ส่วนที่สื่อมวลชนจีนพยายามตีข่าวว่าเป็นฝีมือของกลุ่มอุยกูร์หัวรุนแรงนั้น นันทิวัฒน์ กล่าวว่า น่าจะเป็นประเด็นการเมืองภายในของจีนที่พยายามทำให้ภาพของอุยกูร์เป็นผู้ก่อการร้าย