ทุ่มงบฯ ปชส.กทม.หรือหาเสียงให้ 'ผู้ว่าฯ สุขุมพันธ์'
เป็นที่ทราบดีว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมี นโยบายชัดเจนมิให้นำเงินงบประมาณของรัฐไปใช้ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์โดยจงใจให้มี “ภาพและชื่อนามสกุล” ของบุคคลที่เป็นรัฐมนตรีและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทำให้ช่วงเวลาปีกว่ามานี้คนไทยแทบไม่ได้เห็นการโฆษณาที่เน้นภาพหน้านักการเมืองผ่านสื่อต่างๆ อีกเลย
มีข้อมูล (ทีดีอาร์ไอ) ที่ระบุว่าในปี พ.ศ. 2556 หน่วยงานภาครัฐใช้เงินเพื่อการโฆษณามากถึง 7,985 ล้านบาท ซึ่งวิธีการใช้งบประมาณในโครงการเหล่านี้ถูกองค์กรวิชาชีพด้านสื่อสารมวลชนและองค์กรธุรกิจการโฆษณาประชาสัมพันธ์ระบุตรงกันว่ามีความไม่ชอบมาพากลอย่างมาก กล่าวคือ
1. มีการคอร์รัปชันหรือหักเงินใต้โต๊ะมากถึงร้อยละ 40 ของงบประมาณที่ใช้ไป
2. มีการเน้นประชาสัมพันธ์ตัวบุคคลโดยมุ่งหวังเพื่อสร้างภาพพจน์สร้างชื่อเสียงโดยหวังผลประโยชน์ทางการเมืองมากกว่าการสื่อสารถึงโครงการหรือบริการหรือสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง ทำให้เงินที่ใช้ไปไม่เกิดประโยชน์คุ้มค่ากับกิจการของรัฐและสาธารณชน
3. นักการเมืองมักเลือกใช้เงินเหล่านี้ไปอุดหนุนกลุ่มธุรกิจหรือสื่อมวลชนที่เป็นพวกพ้องเครือข่ายของตนเอง รวมทั้งใช้เป็นเครื่องมือต่อรองแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ที่มิชอบบางอย่าง
ปัญหานี้เป็นที่มาของข้อเสนอเพื่อการปฏิรูปการต่อต้านคอร์รัปชันที่รัฐบาลให้การสนับสนุน และ สปช. ได้เสนอให้มีการตรา “พระราชบัญญัติการโฆษณาประชาสัมพันธ์ภาครัฐ พ.ศ. ...” เพื่อกำหนดนโยบาย ระเบียบและแนวทางปฏิบัติในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ภาครัฐ ให้การใช้เงินของรัฐเพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์ต้องเป็นไปอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้
แต่ช่วงเวลานี้พบว่ามีการเผยแพร่โฆษณาอย่างต่อเนื่องของ กรุงเทพมหานคร ที่เน้นการแสดงภาพและเน้นการเอ่ยชื่อของท่านผู้ว่า กทม.(ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร) เป็นอย่างมากเหมือนที่เคยทำมาในอดีต จนน่าเป็นห่วงว่า “การกระทำเช่นนี้ขัดต่อนโยบายของรัฐบาลและขัดต่อแนวทางการปฏิรูปที่ สปช.ได้มีมติเห็นชอบไปแล้วหรือไม่” จึงขอให้คนไทยและผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องได้โปรดติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณครั้งนี้ด้วย
ขอบคุณ ภาพป้ายโฆษณาของกรุงเทพมหานคร จาก thaipublica
หมายเหตุ - ดร. มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)