ตร.สรุป "ชายเสื้อเหลือง" บึ้มราชประสงค์ เปิดข้อมูลองค์ประกอบระเบิด

มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการระบุตัวผู้ต้องสงสัยลอบวางระเบิดบริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ เมื่อช่วงค่ำของวันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2558 เป็นชายคล้ายชาวต่างชาติ สวมเสื้อยืดสีเหลือง สะพายเป้ซึ่งคาดว่าบรรจุวัตถุระเบิดอยู่ภายใน 

          ตำรวจได้ภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือ ซีซีทีวี บริเวณโดยรอบศาลพระพรหมเอราวัณ พบผู้ต้องสงสัยลอบวางระเบิดเป็นชายคล้ายชาวต่างชาติ รูปร่างสูง สวมเสื้อสีเหลือง นุ่งกางเกงขาสั้น สะพายเป้ โดยชายผู้นี้เข้าไปในบริเวณศาลพระพรหมก่อนเกิดระเบิดเพียงไม่กี่นาที จากนั้นได้วางเป้ทิ้งไว้ ก่อนจะทำทีเป็นกดโทรศัพท์มือถือและเดินออกไป แล้วจึงเกิดระเบิดขึ้น

          พลตำรวจโทประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมายืนยันข้อมูลในเวลาต่อมาว่า ชายเสื้อเหลืองน่าจะเป็นคนร้าย โดยนำระเบิดที่ซุกซ่อนไว้ในเป้ไปวางบริเวณศาลพระพรหมก่อนเกิดระเบิดเพียง 3 นาที และยังเชื่อว่าชายคนนี้น่าจะเป็นชาวต่างชาติ แต่ยังไม่ยันว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นจุดหนึ่งช่วงบ่ายวันอังคารที่ 18 สิงหาคม ซึ่งคนร้ายปาลงมาจากสะพานสาทร หวังประทุษร้ายประชาชนบริเวณท่าเรือสาทร แต่พลาดเป้านั้น เกี่ยวโยงกับเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์หรือไม่

          สำหรับความเคลื่อนไหวของชายเสื้อเหลืองหลังเกิดเหตุระเบิด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องซีซีทีวีรายทาง จนพบว่าชายคนดังกล่าวนั่งรถหลบหนีไปทางถนนสีลม และต่อมามีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยรายนี้ไว้ได้ ทว่า พลตำรวจโทฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ปฏิเสธข่าวการจับกุม

          ขณะเดียวกันมีการเผยแพร่ภาพทางโซเชียลมีเดีย เป็นภาพชาวต่างชาติที่มีหน้าตาคล้ายชายเสื้อเหลืองซึ่งคาดว่าเป็นมือระเบิด แต่ภายหลังกลับพบว่าชายชาวต่างชาติรายนี้เป็นครูสอนภาษา ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์วินาศกรรมแต่อย่างใด

เปิดข้อมูลองค์ประกอบระเบิด

          อีกด้านหนึ่ง คือการตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิดที่คนร้ายใช้ พบว่าจุดเกิดเหตุจริงๆ คือริมรั้วด้านในของศาลพระพรหม ซึ่งเป็นบริเวณใกล้เคียงกับชายเสื้อเหลืองนำเป้ไปวางทิ้งไว้

          ขณะที่องค์ประกอบของระเบิด เท่าที่ตรวจสอบได้จนถึงขณะนี้ ประกอบด้วย
          1.ดินระเบิดที่ใช้ยังไม่ชัดว่าเป็นทีเอ็นทีหรือซีโฟร์ ตอนนี้กำลังรอผลตรวจจากแล็บ
          2.เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญสงสัยว่าอาจเป็นซีโฟร์ เพราะอานุภาพรุนแรงมาก
          3.พบสะเก็ดระเบิดเป็นลูกปราย หรือ "บอล แบริ่ง" คือลูกปืนในล้อรถ
          4.บอล แบริ่ง ที่พบเป็นสะเก็ดระเบิดมี 2 ขนาด คือ 2 มิลลิเมตร กับ 8 มิลลิเมตร
          5.สะเก็ดระเบิดแบบนี้ไม่เคยพบใช้ในประเทศไทย แต่พบมากในตะวันออกกลาง
          6.พบเศษซากคล้ายท่อพีวีซี เกลียวท่อ คาดว่าใช้เป็นวัสดุห่อหุ้ม
          7.ยังไม่พบตัวจุดชนวน ยังไม่ยืนยันว่าเป็นระเบิดแบบตั้งเวลา

ขีดวงชนวนเหตุเหลือ 2 ประเด็น

          กล่าวโดยสรุปก็คือ วัตถุระเบิดที่คนร้ายใช้ เป็นดินระเบิดที่ใช้ในทางทหาร อาจเป็นทีเอ็นที หรือซีโฟร์ น้ำหนักประมาณ 2 ปอนด์ มี "บอล แบริ่ง" หรือลูกปืนที่ใช้ในล้อรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์เป็นสะเก็ดระเบิด นำมาห่อหุ้มด้วยท่อพีวีซีให้มีลักษณะคล้ายระเบิดแสวงเครื่อง รูปแบบระเบิดเช่นนี้ไม่ค่อยมีพบในประเทศไทย ทำให้หน่วยงานความมั่นคงพุ่งเป้าไปที่ขบวนการก่อการร้ายข้ามชาติ

          จนถึงขณะนี้ ฝ่ายความมั่นคงให้น้ำหนักสาเหตุของการลอบวางระเบิด 2 ประเด็น คือ เชื่อมโยงกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติ อาจเป็นกลุ่มอุยกูร์หัวรุนแรงที่ไม่พอใจรัฐบาลไทย กรณีส่งชาวมุสลิมอุยกูร์ 109 คนกลับไปให้รัฐบาลจีนซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งกัน โดยกลุ่มอุยกูร์หัวรุนแรงถูกทางการจีนปราบปรามอย่างหนัก จากการพยายามแบ่งแยกมณฑลซินเจียงเพื่อตั้งรัฐใหม่ ที่ผ่านมามีการก่อวินาศกรรมบ่อยครั้งจากกลุ่มนี้ในประเทศจีน

          ส่วนอีกประเด็นหนึ่งที่ฝ่ายความมั่นคงยังไม่ตัดทิ้ง คือ ความขัดแย้งทางการเมือง เนื่องจากมีการปล่อยข้อมูลในโซเชียลมีเดียจากกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อต้านรัฐบาลในทำนองว่าจะมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 14-18 สิงหาคม

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ขอบคุณ : ภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เผยแพร่ในโซเชียลเน็ตเวิร์ค