สื่อจีนพุ่งเป้าผู้ก่อการร้ายระดับโลก-อาเซียนรุมประณามมือระเบิด
สื่อมวลชนในประเทศเพื่อนบ้านและสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเชื้อสายจีนจากประเทศของตนเดินทางมายังประเทศไทยแล้วแวะไหว้ศาลพระพรหมเอราวัณจำนวนมากทุกปี ต่างตีพิมพ์ข่าวและภาพเหตุการระเบิดเมื่อวานนี้อย่างกว้างขวาง
เนื้อหาของข่าวส่วนใหญ่มุ่งไปที่ความสูญเสียของนักท่องเที่ยวจากประเทศของตน พร้อมกับสภาพความเสียหายในเหตุการณ์ และข้อมูลล่าสุดจากทางการไทย แต่ข่าวและความคิดเห็นบางสำนักยังแสดงปฏิกิริยาต่อความปลอดภัยในเดินทางการท่องเที่ยวยังประเทศไทยในอนาคต
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ (www.scmp.com) ของฮ่องกงซึ่งเกาะติดสถานการณ์และรายงานข่าวหลายชิ้น รายงานข่าวเรื่อง สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฮ่องกงเรียกร้องให้รัฐบาลยกระดับการเตือนภัยท่องเที่ยว จากระดับ “red alert” ขึ้นเป็นระดับสูงสุด หรือ “black travel alert” เนื่องจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ ตีพิมพ์ภาพ นางสาววิเวียน ชาน วิง-ตัน วัย 19 ปี ผู้กำลังศึกษานักวิชากฎหมายอยู่ที่ประเทศอังกฤษก่อนเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย นางสาววิเวียนซึ่งเป็นหนึ่งในชาวฮ่องกงสองคนที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยรายงานอ้างปากคำของเพื่อนๆ ของเธอว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนร่าเริง ใจดี เป็นบล็อกเกอร์เรื่องอาหาร และโพสต์แสดงความชื่นชมอาหารไทยที่เธอรับประทานก่อนหน้านั้นหนึ่งวันก่อนเกิดเหตุการณ์
วันนี้ตลอดทั้งวัน เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ ได้เพิ่มเติมเรื่องของบุคคลผู้เสียชีวิต ล่าสุดได้ลงภาพของผู้เสียชีวิตชาวจีนอีกคนหนึ่งที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่เสฉวนด้วย
สำหรับสื่อมวลชนในสาธารณรัฐประชาชนจีนนั้น เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ดอทคอม (www.shanghaiist.com) ที่ตีพิมพ์ในกรุงเซี่ยงไฮ้ระบุว่า ถึงแม้ว่าขณะที่ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาแสดงความรับผิดชอบเป็นผู้ก่อเหตุ ผู้ใช้โซเชี่ยลมีเดียในประเทศจีนได้แพร่ “ทฤษฎีสมคบคิด” ไปว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการมุ่งเป้าโจมตีนักท่องเที่ยวชาวจีนโดยเฉพาะ นอกจากนั้นเว็บไซต์ยังอ้างหนังสือพิมพ์ภาษาจีนในประเทศไทยฉบับหนึ่งว่า มีการตีพิมพ์ข้อสมมุติฐานว่าเรื่องนี้อาจเป็นปฏิกิริยาโต้ตอบจากองค์การก่อการร้านอิสลามระดับโลกต่อการส่งชาวอุยกูร์ 109 คนกลับประเทศจีน
ในขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์โกลบัลไทมส์ (Global Times) ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์หัวสีภายใต้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน รายงานว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมายังประเทศไทยในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้มีสูงถึงหกล้านคน โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนคิดเป็น 20 เปอร์เซนต์ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในประเทศไทยทั้งหมด
ความเห็นจากบทบรรณาธิการของ โกลบัลไทมส์ ชี้ว่าไม่ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนจะมีเท่าไหร่ นักท่องเที่ยวเหล่านี้กำลังเผชิญกับอันตรายอย่างสูง และถ้าสุดท้ายมีการระบุชี้ว่าการระเบิดครั้งนี้เป็นผลของการก่อการร้ายก็จะสร้างความเสียหายอย่างสูงต่อการท่องเที่ยวมากกว่าอย่างอื่น เป็นเรื่องชัดเจนว่าใครก็ตามที่ทำการก่อการร้ายในสถานที่เช่นศาลพระพรหมเอราวัณ มีความประสงค์ที่จะสร้างความเสียหายต่อภาคการท่องเที่ยวของประเทศ
“ประชาชนชาวจีนไม่เคยคาดฝันเลยว่าจะสามารถเกิดเหตุการณ์ระเบิดที่ศาลพระพรหมเอราวัณอันมีชื่อเสียงนี้ได้” บทบรรณาธิการชี้ “เหตุการณ์ระเบิดนี้มีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวชาวจีนประหนึ่งว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีนเสียเอง”
หนังสือพิมพ์ในสิงคโปร์และมาเลเซีย รายงานภาพและข่าวของผู้สูญเสียรวมทั้งครอบครัว วันนี้เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดอะเสตรทไทมส์สิงคโปร์ (www.straitstimes.com) รายงานว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ได้รายงานต่อรัฐสภาฯ เรื่องผู้เสียชีวิตชาวสิงคโปร์หนึ่งราย ซึ่งเป็นสตรีวัย 34 ปี และผู้บาดเจ็บอีกเจ็ดราย โดยกระทรวงต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสีย ประณามการการกระทำที่รุนแรงครั้งนี้
นอกจากข่าวแถลงการแสดงความเสียใจของนาย ลี เสียน หลุง นายกรัฐมนตรีแล้ว เดอะ เสตรทไทมส์ยังรายงานข่าวประธานาธิบดี โทนี่ ตัน ซึ่งเขียนข้อความในหน้าเฟซบุ๊คของตนเองวันนี้ว่า ทั้งตนเองและภรรยารู้สึกตกใจอย่างมากที่ได้ทราบข่าวระเบิดที่เกิดขึ้นใกล้สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ และรู้สึกเป็นห่วงเมื่อทราบว่ามีชาวสิงคโปร์เสียชีวิตหนึ่งรายและได้รับบาดเจ็บหลายราย
“เราหวังว่าจะได้มีการนำตัวผู้กระทำการก่อการร้ายที่น่าสะพึงกลัวครั้งนี้ มาลงโทษอย่างรวดเร็ว”
สื่อมวลชนหลายค่ายในมาเลเซียรายงานข่าวนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค ที่เมื่อวานนี้ได้ส่งข้อความผ่านทวิตเตอร์ของตนประณามกลุ่มผู้วางระเบิดที่สร้างสถานการณ์ชั่วร้ายรุนแรงที่ทำลายชีวิตผู้บริสุทธิ์
ล่าสุดเว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดอะสตาร์ออนไลน์ (www.thestar.com.my) รายงานจากการสัมภาษณ์ญาติผู้เสียชีวิตว่า มีชาวมาเลเซียจำนวนสี่รายได้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิด โดยทั้งสี่คนนี้เป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน ที่เดินทางจากบัตเตอร์เวิรธ์ไปเที่ยวกรุงเทพฯเป็นกลุ่มครอบครัวทั้งหมดเจ็ดคน เว็บไซต์หนังสือพิมพ์นิวสเตรทไทมส์มาเลเซีย (www.nst.com.my) ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์หญิงชาวมาเลเซียผู้ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดอะจาการ์ต้าโพสต์ (www.thejakartapost.com) และจาการ์ต้าโกลบ (www.jakartaglobe.beritasatu.com) ของอินโดนีเซียรายงานข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียซึ่งระบุว่ามีชาวอินโดนีเซียเสียชีวิตสองคน เป็นชายวัย 61 ปีทั้งคู่
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์บางฉบับรายงานถึงลักษณะของจุดเกิดเหตุว่า เป็นย่านท่องเที่ยวใจกลางกรุงเทพฯเว็บไซต์หนังสือพิมพ์เสตรทไทมส์สิงคโปร์ตีพิมพ์บทความเรื่องความเป็นมาและชื่อเสียงของศาลพระพรหมเอราวัณตั้งแต่อดีต รวมทั้งระบุชื่อบุคคลที่มีชื่อเสียงที่เคยเดินทางมาประเทศไทยเพื่อไหว้พระภูมิ โดยเฉพาะบุคคลชื่อดังในวงการบันเทิงจากสิงคโปร์และฮ่องกงหลายคน รวมทั้ง โทนี่ เหลียงเฉาเหว่ย และ ซูฉี พระเอกนางเอกฮ่องกงชื่อดัง
เดอะสตาร์ออนไลน์ของมาเลเซีย อธิบายว่า สี่แยกราชประสงค์ตั้งอยู่บริเวณศูนย์กลางของกรุงเทพฯ และเป็นจุดศูนย์กลางของการประท้วงทางการเมืองในช่วงปีที่ผ่านมา และแม้ว่าระเบิดจะเกิดขึ้นไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าชิดลม แต่รถไฟฟ้ายังดำเนินการตามปกติ
นอกจากนั้นสื่อมวลชนหลักๆทั่วไปยังติดตามคำแถลงของทางการไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเย็นวันนี้ได้รายงานข่าวพร้อมภาพชายลึกลับสะพายเป้ซึ่งเจ้าหน้าที่ไทยระบุว่าเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่ในขณะนี้.