ศาลฎีกาฯสั่ง‘ปรับ-จำคุก’อีก 5 นักการเมืองจงใจซุกทรัพย์สิน - ยอดรวมพุ่ง 39 คน
ฟันเพิ่มอีก 5 นักการเมืองท้องถิ่นจงใจซุกบัญชีทรัพย์สิน ศาลฎีกาฯสั่งปรับเงินคนละ 4,000 -16,000 บาท จำคุก 2 - 8 เดือน ให้รอลงโทษ 1 ปี อบต. เทศบาล จ.นครปฐม 4 ระนอง 1 คน ยอดรวมพุ่ง 39 คน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ส.ค.58 สำนักงานศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้เผยแพร่คำพิพากษาคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นคำร้องกรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ปรากฏว่าศาลฎีกาฯพิพากษาว่าผู้คัดค้านมีความผิดทั้ง 5 ราย
1.นางพันทิพย์ สุขาบูรณ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สัมปทวน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีรับตำแหน่ง พ้นตำแหน่ง พ้นตำแหน่งแล้วเป็นเวลา 1 ปี และ รับตำแหน่งครั้งที่สอง (รวม 4 กรณี) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งนับจากวันที่ศาลฯวินิจฉัย (26 พ.ค.58) ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคหนึ่ง กับมีความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 4 กระทง เป็นจำคุก 8 เดือน ปรับ 32,000 บาท ผู้คัดค้านให้รับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 4 เดือน ปรับ 16,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.35/2558-26 พ.ค.58)
2.นายชยพล เทศนาบูรณ์ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) งิ้วราย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วหนึ่งปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับจาก 6 ก.ย.56 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นตำแหน่ง กับมีความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้รับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดง อม.41/2558 -25 มิ.ย.58)
3.นายสวิง บัวงาม รองนายกเทศมนตรีตำบลสามง่าม จ.นครปฐม จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นตำแหน่ง และพ้นตำแหน่งมาแล้ว 1 ปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองและในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปีนับแต่วันที่ 24 พ.ค.56 อันเป็นวันพ้นตำแหน่ง
กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง จำคุก 4 เดือน ปรับ 16,000 บาท คัดค้านให้รับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดง อม.42/2558 -25 มิ.ย.58)
4.นายอนุรักษ์ เกิดสนอง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ห้วยจระเข้ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นตำแหน่ง และพ้นตำแหน่งมาแล้ว 1 ปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองและในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับจากวันที่ 20 ก.ย.56 อันเป็นวันพ้นตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง จำคุก 4 เดือน ปรับ 16,000 บาท คัดค้านให้รับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดง อม.43/2558 -25 มิ.ย.58)
5. นายเสรี ชุมพล นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) น้ำจืด อ.กระบุรี จ.ระนอง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีรับตำแหน่ง 12 ต.ค.56 ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งนับจากวันที่ 16 ก.ค.58 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฯวินิจฉัย ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับจากวันที่ 16 ก.ค.58 กับมีความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้รับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดง อม.44/2558 -16 ก.ค.58)
ทั้งนี้นับจากเดือน ม.ค. 2558 จนถึงขณะนี้ (13 ส.ค.58) ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐ ถูกศาลฎีกาฯตัดสินคดีความผิดไม่ยืนบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน จำนวน 39 ราย (รวม 5 รายข้างต้น) แบ่งเป็นนักการเมือง 38 ราย (คดี) และ กรรมการรัฐวิสาหกิจ 1 ราย
อ่าน:ประกอบ:
เทียบคดีซุกทรัพย์สิน ‘อภินันท์’จ.แพร่ -‘ชาญณรงค์’จ.ชัยภูมิ ‘รับสารภาพ’ จุดพลิกผัน?
พ้นตำแหน่งทันที!รองนายกฯ จ.ชัยภูมิ‘ซุกทรัพย์สิน’ ศาลฎีกาฯรอลงโทษจำคุก2ปี
32 นักการเมืองซุกทรัพย์สินรอลุ้นศาลฎีกาฯ-ท้องถิ่นอื้อ! ส.ก. รองนายกฯ อบจ. 31 คน
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก Google