เปิดงบดุล"ไทยพรีเมียร์ลีก"ยุค"บังยี"หุ้นใหญ่ โชว์กำไรล่าสุด 1.8 ล้าน หนี้ 4 ล.
เปิดข้อมูลงบดุล "บ.ไทยพรีเมียร์ลีก"ยุค"บังยี" ถือหุ้นใหญ่ พบโชว์กำไรล่าสุด 1.8 ล้าน จากรายได้หลักสิบล้าน แจ้งมีเงินสด 3.2 ล้าน ตัวเลขหนี้สิน 4 ล.
จากกรณี "บิ๊กหอย" ธวัชชัย สัจจกุล อดีตผู้จัดการทีมชาติไทย ประธานสโมสรฟุตบอล พรต.เอฟ.ซี ผู้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนใหม่ ได้ทำหนังสือลงวันที่ 13 สิงหาคม 2558 ถึง นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้พิจารณาตรวจสอบข้อมูลการถือครองหุ้น ของ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯคนปัจจุบัน และพวก ใน บริษัท ไทย พรีเมียร์ ลีก จำกัด
พร้อมกล่าวอ้างว่า วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯคนปัจจุบัน ได้ถือหุ้นใน บริษัท ไทย พรีเมียร์ ลีก เป็นจำนวน 5,625 หุ้น หรือเท่ากับ 45 เปอร์เซ็นต์ และ นายองอาจ ก่อสินค้า ประธานบริษัทไทย พรีเมียร์ ลีก ถือ 3,125 หุ้น หรือเท่ากับ 25 เปอร์เซ็นต์ รวม 2 คน 70 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเป็นของกลุ่มบุคคลพรรคพวกของนายวรวีร์ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบพบว่า งบดุลของบริษท ไทยพรีเมียร์ลีก ยังไม่ปรากฎว่ามีรายรับจาก บริษัททรูวิชั่นส์ รวมถึงสปอนเซอร์รายอื่นด้วย นั้น
(อ่านประกอบ: เมื่อ"บิ๊กหอยVS.บังยี" สงครามชิงเก้าอี้นายกสมาคมฟุตบอลไทย เปิดฉากแล้ว)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บริษัท ไทย พรีเมียร์ ลีก จำกัด จดทะเบียนจัดตั้ง เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2551 ทุนปัจจุบัน 1,250,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 100/274 ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจกิจกรรมการจัดการแข่งขันกีฬา ปรากฎชื่อ นายองอาจ ก่อสินค้า (ประธานบ.ไทยพรีเมียร์ลีก) เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
นาย ธารา พฤกษ์ชะอุ่ม (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทในเครือแกรนด์สปอร์ต) , นาย กษม ชนะวงศ์, นาย ประดิษฐ์ นิธิยานันท์, นาย ทัดเทพ พิทักษ์พูลสิน, นาย รณฤทธิ์ ซื่อวาจา, นาย วิทยา คุณปลื้ม, น.อ. ไพศาล จันทรพิทักษ์, นาย นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์, นาย องอาจ ประภากมล, นาย สรายุทธ มหวลีรัตน์, นาย ปภาธิป สว่างแสง, นาย ธนัท พรสวัสดิ์, นาย กฤตเมต เอ่งฉ้วนธาดา, นาย ธัญญะ วงศ์นาค, นาย ธนวัชร์ นิติกาญจนา ร่วมเป็นกรรมการ
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 เมษายน 2558 มีจำนวน 6 คน นาย วรวีร์ มะกูดี ถือหุ้นใหญ่สุด 5,625 หุ้น (หุ้นละ 100 บาท)มูลค่า 562,500 บาท นาย องอาจ ก่อสินค้า ถืออยู่ 3,125 หุ้น มูลค่า 312,500 บาท นาย ธัญญา โพธิ์วิจิตร ถืออยู่ 1,250 หุ้น มูลค่า 125,000 บาท นาย ธารา พฤกษ์ชะอุ่ม ถืออยู่ 1,250 หุ้น มูลค่า 125,000 บาท นาย ชาติชาย พุคยาภรณ์ ถืออยู่ 625 หุ้น มูลค่า 62,500 บาท นาย ไพฤทธิ์ ต้านไพรี ถืออยู่ 625 หุ้น มูลค่า 62,500 บาท (ดูสำเนาบัญชีราชชื่อผู้ถือหุ้นประกอบ)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2558 นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ปี 2557 แจ้งว่ามี รายได้จากการขายและบริการ 16,727,083.54 บาท ต้นทุนสินค้าที่ขาย 15,213,663.84 บาท รายได้จากการบริจาค 10,793,675 บาท รายได้อื่น 12,779.15 บาท รวมรายได้อื่น 10,806,454.15 บาท ค่าใช้จ่ายในการขาย 5,176.55 บาท ค่าใช้จ่ายทั่วไป และในการบริหาร 9,835,513.33 บาท กำไรก่อนต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้นิติบุคคล 2,479,183.97 บาท ต้นทุนทางการเงิน 77,659.36 บาท กำไรก่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 2,401,524.61 บาท ภาษีเงินได้นิติบุคคล 580,261.09 บาท
กำไรสุทธิ 1,821,263.52 บาท
ขณะที่ผลประกอบการธุรกิจในช่วงปี 2556 แจ้งว่า มีรายได้จากการขายและบริการ 7,863,860.84 บาท ต้นทุนสินค้าที่ขาย 8,130,168.43 บาท ขาดทุนขั้นต้น 266,307.59 บาท รายได้จากการบริจาค 10,846,195 บาท รายได้อื่น 56,412.10 บาท รวมรายได้อื่น 10,902,607.10 บาท มีค่าใช้จ่ายในการขาย 16,023.30 บาท ค่าใช้จ่ายทั่วไป และในการบริหาร 8,257,334.58 บาท กำไรก่อนต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้นิติบุคคล 2,362,941.63 บาท ต้นทุนทางการเงิน 61,980.80 บาท กำไรก่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 2,300,960.83 บาท ภาษีเงินได้นิติบุคคล 334,490.47 บาท
กำไรสุทธิ 1,966,470.36 บาท
เปรียบเทียบผลประกอบการทั้งสองปี พบว่าปี 2557 มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่าปี 2556 โดยเฉพาะรายได้จากการขายและบริการ แต่ปี 2556 มีกำไรมากกว่า
ส่วน สินทรัพย์ล่าสุด ในปี 2557 แจ้งว่า มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 3,256,176.22 บาท รวมสินทรัพย์ 10,985,456.48 บาท
มีหนี้สินรวม 4,054,362.88 บาท
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก Google