อนาคตไม่อยากเสียใจ ดร.ปริญญาแนะฟังเสียงปชช.ก่อนเดินหน้าโครงการเจ้าพระยา
ผศ.ดร.ปริญญา เทวนฤมิตรกุล ขอรัฐบาลให้ข้อมูลโครงการพัฒนาริมน้ำเจ้าพระยาอย่างแท้จริง พร้อมให้ประชาชนมีส่วนร่วม หวั่นอนาคตโครงการมีปัญหาไปต่อไม่ได้จะเกิดความสูญ ชี้หลักการสำคัญการพัฒนาพื้นที่สาธารณะไม่ว่าจะรัฐบาลใดก็ตามต้องฟังเสียงประชาชน
เมื่อเร็วๆ นี้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ร่วมกับกลุ่ม Friend of the river จัดงานเสวนา “มองแม่น้ำเจ้าพระยา จากริมน้ำท่าพระจันทร์” ณ ลานปรีดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
ผศ.ดร.ปริญญา เทวนฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาข้อมูลจากโครงการริมน้ำเจ้าพระยาถูกเผยแพร่ผ่านเครือข่ายต่างๆ ว่า โครงการจะมีลักษณะแบบใด แต่ถึงวันนี้ประชาชนยังไม่มีใครทราบว่าโครงการที่แท้จริงเป็นรูปแบบไหน ที่สำคัญตัวโครงการจะต้องให้สาธารณะชนมีส่วนร่วม เพราะพื้นที่ที่ทำเป็นพื้นที่สาธารณะ ดังนั้นจะต้องแจ้งโครงการนี้ให้ประชาชนทราบ และฟังประชาชนที่จะได้รับผลกระทบด้วยว่า มีความเห็นอย่างไร หากโครงการใดๆก็ตามออกแบบโดยไม่ฟังเสียงการดำเนินงานนั้นคงมาไม่ถูกทาง
"หลักการในการพัฒนาพื้นที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใดก็ตาม จะมีมาตรา 44 อยู่หรือไม่ การตัดสินใจโดยคนไม่กี่คนกับเรื่องของผลกระทบกับคนเป็นล้านไม่เคยมี ดังนั้นต้องฟังเสียงของประชาชนว่าเขาต้องการอะไร"
รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา มธ. กล่าวอีกว่า การเลี้ยงลูกก็ยังต้องฟังเสียงลูก ถ้าเราเลี้ยงแบบไม่ฟังเสียงแล้วลูกจะมีความสุขได้อย่างไร เช่นเดียวกับการทำโครงการสาธารณะ เรื่องนี้จำเป็นมากหากสูญเสียไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม ชุมชนริมน้ำ อนาคตจะมานั่งเสียใจกันภายหลัง และเมื่อถึงวันนั้นเอาเงินมากองท่วมหัว มีเงินหมื่นล้าน แสนล้านก็ซื้อกลับมาไม่ได้ ทั้งวิถีชีวิตและจิตวิญญาณ
ดร.ปริญญา กล่าวว่า การแก้ปัญหาของโครงการพัฒนาริมน้ำเจ้าพระยาเป้าหมายของโครงการนี้คือเรื่องเกี่ยวกับวิถีชีวิตผู้คนริมน้ำ ซึ่งความหลากหลายของริมน้ำเจ้าพระยาคือจุดแข็งของกรุงเทพมหานคร หากปล่อยให้โครงการออกมาแบบดื้อๆด้านๆอาจจะเป็นแนวทางที่ไม่ถูกต้อง หากการพัฒนานำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองมากแต่ประชาชนลำบากแล้วได้รับผลกระทบหลายอย่างนั่นคงไม่ใช่ทิศทางที่ควรจะเป็น วันนี้จึงเริ่มตั้งคำถาม 2 ข้อ คือ 1.ตัวโครงการที่แท้จริงเป็นอย่างไรกันแน่จะฟังเสียงของประชาชนหรือไม่ และ 2.เราอยากให้โครงการนี้ฟังเสียงประชาชนเพื่อการพัฒนา
รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา มธ. กล่าวด้วยว่า หากการปฏิรูปเป็นไปตามโรดแมปที่วางไว้ คือร่างรัฐธรรมนูญส่งไปสภาปฏิรูปวันที่ 7 กันยายน 2558 ลงประชามติวันที่ 10 มกราคม 2559 แล้วอาจจะมีการเลือกตั้งในช่วงเดือนสิงหาคม 2559 ดังนั้นเวลา 1 ปีนับจากนี้ไป ถามว่าการออกแบบและการก่อสร้างจะทำเสร็จไหมในรัฐบาลชุดนี้ และหากทำไปเกิดผลกระทบจะเป็นอย่างไร เพราะโครงการลักษณะนี้สร้างยากมากในรัฐบาลปกติ หากสร้างเสร็จเพียงบางช่วงแล้วไปต่อไม่ได้ก็จะหลายเป็นอะไรบางอย่างที่เคยเกิดขึ้น ดังนั้นหากไม่อยากเสียใจในอนาคตต้องใช้กระบวนการมีส่วนร่วมเพื่อสร้างให้เกิดความหลากหลาย และนี่ก็คือเป้าหมายเดียวกันของประชาชน